โฮมเพจเพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณของ
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว



 

สารบัญ


บท ๑ การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง


โคลนซึ่งติดล้อแห่งความเจริญของชาติเราก้อนที่หนึ่ง และก้อนร้ายที่สุดนั้น ก็คือ การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง ข้าพเจ้าได้เขียนเรื่องนี้โดยพิสดารแล้วดังแจ้งอยู่ในเรื่องที่ให้ชื่อว่า "ลัทธิเอาอย่าง" เพราะฉะนั้นในที่นี้ไม่จำเป็นจะต้องแสดงคุณและโทษแห่งการเอาอย่างให้ซ้ำอีก ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงนั้น ก็เพื่อจะทำให้จำนวนก้อนโคลนต่าง ๆ นั้นบริบูรณ์ เพราะถ้าจะไม่กล่าวถึงก้อนที่ใหญ่ที่สุดและร้ายที่สุดแล้ว บัญชีนั้นก็คงต้องนับว่ายังบกพร่องอยู่

ข้าพเจ้าได้เคยได้ยินคนไทยซึ่งมีสติปัญญาหลายท่าน ได้กล่าวถ้อยคำแสดงว่าไม่เห็นชอบด้วยกับการเอาอย่างไม่น้อยไปกว่าที่ข้าพเจ้าได้กล่าวแล้ว แต่ข้าพเจ้ายังระลึกไม่ได้สักรายเดียวว่า มีผู้ใดที่กล้าพอที่จะรับผิดชอบการเลิกไม่เอาอย่าง ข้อนี้ทำให้นึกถึงข้อซึ่งเถียงกันอันไม่เป็นสาระในเรื่องเลิกการสะสมอาวุธ ซึ่งเราได้พบอ่านอยู่ในหนังสือพิมพ์ยุโรปเมื่อก่อนสงคราม คือทุกประเทศแสดงว่าไม่แต่พร้อมที่จะเลิกการสะสมอาวุธ ซ้ำได้แสดงความปรารถนายิ่งที่จะเลิกด้วย แต่ขอให้ประเทศอื่นเลิกก่อน นี้ก็เหมือนกับการเอาอย่างเหมือนกัน คือทุก ๆ คนที่เป็นหรือได้เป็นนึกว่าตัวเป็นคนสำคัญล้วนได้แสดงความพร้อมเพรียงที่จะเลิกเอาอย่าง แต่ก็คงขอให้ผู้อื่นเลิกก่อนดุจกัน

อย่างไรก็ดี จะตกลงเลิกการเอาอย่างโดยไม่ตริตรองหรือไม่ก็ตาม ขอให้ท่านพิจารณาดูว่าเราได้รับประโยชน์จากการเอาอย่างนั้นอย่างไรบ้าง

เมื่อมาคิดดูก็ไม่ใช่เป็นของง่าย ที่จะแสดงโดยสั้น ๆ ซึ่งประโยชน์ที่เราได้รับจากการเอาอย่าง เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะขอเลี่ยงไปเดินทางที่ง่ายที่สุด โดยกล่าวแต่เพียงว่า ประโยชน์ที่เราได้รับนั้นก็คือ ดูเหมือนเราจะได้รับความนับถือแห่งชาวยุโรป คำว่าดูเหมือนนี้หาได้ใช้ไปตามเลยไม่ ข้าพเจ้าเขียนลงโดยความจงใจที่จะเขียนทีเดียว คือข้าพเจ้าตั้งใจจะกล่าวว่า เราดูเหมือนจะได้รับความนับถือของชาวยุโรป แต่ความนับถือนั้นมีอยู่จริงเพียงใด เราควรพิจารณาต่อไปให้ละเอียด

ความจริงนั้นประเทศเราชาวยุโรปเขาไม่สู้จะรู้จักนัก และสิ่งที่เขารู้ บางทีก็เป็นอย่างอัศจรรย์มาก เมื่อข้าพเจ้าอยู่ยุโรปข้าพเจ้าได้เคยถูกถามอยู่เนือง ๆ ว่า เมืองไทยเป็นเมืองเจ้าประเทศราชในอินเดียไม่ใช่หรือ ? และเมื่อข้าพเจ้าไปถึงอเมริกา มีท่านคหบดีผู้หนึ่งได้มาแสดงความชื่นชมยินดีต่อข้าพเจ้า ในการที่แม่น้ำอิราวดีอันงดงามนั้นอยู่ในประเทศบ้านเมืองของข้าพเจ้า ! เมื่อว่าสำหรับคนทั่วไป เมืองไทยเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยช้างเผือก แต่นอกจากนั้นเขาเห็นว่าไม่สู้จะมีอะไรนัก

ถ้ากระนั้นเราได้รับความนับถือของใครเล่า ? ก็ความนับถือของผู้ที่รู้จักเราน่ะซี ! จริงอยู่ แต่เมื่อผู้ที่เขารู้จักเราเขียนถึงเรื่องเมืองเรา จะหาอะไรกล่าวไม่ได้นอกจากข้อความที่เยาะเย้ยฉะนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ไม่เรียกว่า เป็นความนับถือโดยแท้จริงเลย ! หรือท่านจะเรียกกระนั้นเล่า ? อย่างไรก็ดีข้าพเจ้าหวังใจว่า ผู้ที่เขานับถือเราจริง ๆ ก็มีอยู่บ้าง แต่เป็นจำนวนน้อย และต้องเป็นผู้ที่รู้จักเราดีจริง ๆ

ข้อที่ว่าชาวต่างประเทศโดยมากหาได้นับถือเราไม่นั้น เป็นความจริงอันแน่นอน

เพราะเหตุใดเล่า ?

เพราะเหตุว่า คนที่เอาอย่าง ถึงแม้ว่าจะได้รับความกรุณาและอัธยาศัยไมตรีก็จริง แต่ที่จะได้รับความนับถือด้วยนั้นน้อยนัก นี้ก็เป็นธรรมดาอยู่ เพราะเป็นธรรมดามนุษย์ย่อมจะนับถือผู้ที่สูงกว่าเรา ตีตนเสมอกับผู้ที่เสมอกับเรา และดูหมิ่นผู้ที่ต่ำกว่าเรา ก็การเอาอย่างนั้นคืออะไรเล่า นอกจากคำรับสารภาพอย่างราบเรียบแห่งความต่ำต้อยของเรา ?

ท่านทั้งหลายไม่คิดหรือ ว่าเราสมควรจะพยายามยกตัวเราให้เสมอเท่ากับชาติอื่น ๆ จึ่งจะได้ความนับถืออันแทจริงแห่งเขาทั้งหลาย ไม่ใช่ถูกตบหลังอย่างปรานี ดังที่เขาทำแก่เราอยู่ทุกวันนี้ ถ้าท่านเห็นว่าเป็นการสมควรแล้ว ท่านต้องบากบั่นหาญพอที่จะคิดจะทำอะไรด้วยตนเองบ้าง

ในที่นี้ข้าพเจ้าขอวิงวอนว่า อย่าเข้าใจผิด ! ข้าพเจ้าไม่ขอแนะนำให้ท่านแสดงความคิดแผลงอย่างจืดซึ่งไม่ใช่อื่นไกล เป็นการเอาอย่างชนิดเลวทรามสามัญเท่านั้นเลย ข้าพเจ้าไม่อยากให้ท่านใช้ความคิดชนิดที่ทำให้เกิดผลเปลี่ยนราชอาณาจักรอันแท้จริง เป็นริปับลิคเก๊ชนิดอเมริกาใต้ ดังปรากฏอยู่ในประเทศซึ่งไม่สู้จะห่างไกลจากเรานัก ! ข้อความที่ข้าพเจ้าปรารถนาจะกล่าวนั้น คือ ขอโอกาสให้แก่ชาวเมืองร่วมชาติของเราได้คิดได้ทำอะไรด้วยตนเองบ้าง อย่าคอยเตะคนทุกคนที่ออกความเห็นความคิดทำการใด ๆ ซึ่งฝรั่งเขายังมิได้เคยทำกันในยุโรป

ถ้าท่านประสงค์จะตัดความประพฤติเอาอย่าง โดยไม่ตริตรองต่อไป เวลานี้แหละเป็นโอกาสของท่าน เพราะว่าในขณะนี้เป็นการเหลือวิสัยที่เราจะเอาอย่างบรรดามหาประเทศได้ และการที่เราจะหน่วงความเจริญของเราไว้ จนกว่าอาจารย์ทั้งหลายของเราจะเลิกการฆ่าแกงกันนั้น ก็ไม่ได้เหมือนกัน

ส่วนประเทศเล็ก ๆ นั้นจะเอาอย่างเขาเป็นเรื่องอะไร ? ข้าพเจ้าและไม่เห็นประโยชน์ที่เราจะได้รับเลย แต่ตรงกันข้าม เราอาจทำเรื่องให้คนจำพวกเที่ยวรอบโลกซึ่งไม่มีความรู้จริงจัง ไม่ว่าไพร่หรือเจ้าเย้ยหยันเราเล่นเปล่า ๆ ข้าพเจ้าไม่เห็นว่าจะคุ้มประโยชน์และคู้ควรแก่เราเลย

การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง : การทำตนให้ต่ำต้อย : การบูชาหนังสือจนเกินเหตุ : ความนิยมเป็นเสมียน
ความเห็นผิด : ถือเกียรติยศไม่มีมูล : ความจนไม่จริง : แต่งงานชั่วคราว : ความไม่รับผิดชอบของบิดามารดา
การค้าหญิงสาว : ความหยุมหยิม : หลักฐานไม่มั่นคง