ก่อนจะเดินขึ้นไปชมของชั้นบน  ชั้นล่างยังมีสิ่งของที่นำมาวางให้ชมใหม่คือ เครื่องจักรที่เคยใช้ผลิตกระสุน เมื่อ ๔๐ ปีมาแล้ว ตั้งแสดงไว้ที่มุมขวาด้านในของชั้นล่างรวมถึง   เครื่องเม้มปาก  ปลอกกระสุนให้ได้ขนาดพอดีกับหัวกระสุนเพื่อส่งต่อไปบรรจุดินปืนในขั้นต่อไป เครื่องกลึงชนิดต่างๆ และเครื่องบรรจุดินของเยอรมันผลิตโดย DWM ผู้ผลิตอาวุธรายใหญ่ที่สุด ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2

เครื่องกลึงแบบเดียวกันนี้ใช้แต่งปลอกกระสุน ปตอ. โดยช่างในปี พศ. ๒๔๙๙ ดังภาพขวา

ชั้นบนของอาคาร

ดาบสำหรับนายทหารสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5

          ซึ่งจัดอยู่ในด้านซ้ายมือของทางเข้าเช่นกัน  อาวุธกลุ่มนี้จะมีอาวุธฟันแทนประเภท ดาบและกระบี่ฝรั่ง สำหรับนายทหารสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ซึ่งกลายเป็นอาวุธรองจากปืนประจำกายไปเสียแล้ว   ดาบฝรั่งสวยงามประเภท Cutlass Sabre และ Rapier โชว์อยู่กับดาบซามูไรที่หายาก   นอกจากนี้ก็มี ดาบของพลกลอง (Drummer Sword) ทำจากอังกฤษสมัยพระนางเจ้าวิคตอเรีย ซึ่งมีรูปทรงแบบฝรั่งแต่ใช้ตราช้างของไทย         และของแสดงใหม่ได้แก่แบบหล่อด้ามพระแสงกระบี่ซึ่งนำทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

กลุ่มอาวุธปีนเล็กที่ใช้ในช่วง ต้น ร. 5  -  สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2

          หมายถึง ปืนที่ใช้ในช่วงรัชกาลที่ 6 ซึ่งได้ส่งทหารเข้าร่วมรบกับสัมพันธมิตร  สมัยกรณีพิพาทอินโดจีน      และสมัยรัฐบาลของ        จอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งได้นำประเทศร่วมกับฝ่ายอักษะภายใต้การนำของญี่ปุ่น ทางพิพิธภัณฑ์ขอแนะนำว่าท่านที่สนใจปืนเล็กยาว ในสมัยดังกล่าวจะไม่ผิดหวังเพราะได้จัดแสดงปืนชั้นดีจาก อังกฤษ   อเมริกา   ฝรั่งเศส  เยอรมัน   และญี่ปุ่น  ครบแทบทุกชาติ       ทุกชนิดไว้ให้ชม       ปืนเหล่านี้ได้มาจากปืนประจำการของเราเอง   ปืนที่ยึดจากข้าศึก    และปืนที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากมิตรประเทศดังนั้น  ทางพิพิธภัณฑ์จึงกลาย เป็นแหล่งรวมของปืนนานาชาติโดยมิได้ตั้งใจ

       ส่วนอาวุธปืนที่เก่ากว่านี้คือ  ปืนที่บรรจุลูกทางท้าย  รุ่นแรก ๆ ของโลก สั่งเข้ามาใช้ตอนต้นรัชกาลที่ 5 (ดูรายละเอียดใบแนะนำปืนดีที่สะพานแดง)