|
|
|
![]() |
ตอนนี้คงจะเรียกว่าประเทศไทยเราตกอยู่ในยุคข้าวยากหมากแพงได้แล้วหรือยัง หรือว่าจะแพงขึ้นไปมากกว่านี้ ทั้งราคาสิ้นค้าก็ต่างปรับตัวแย่งกันสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ยกตัวอย่างราคาน้ำมันที่นับวันมีแต่สูง-สูง-และสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อราคาน้ำมันมีการปรับตัวราคาสูงขึ้น ข้าวของที่มีการพึ่งพาการขนส่งก็คงต้องปรับราคาสูงตามไปด้วยเช่นกัน ราคาน้ำตาลที่แต่ก่อนเคยซื้อในราคากิโลกรัมละ 14 บาท แต่ตอนนี้ปรับตัวราคาสูงลิ่วไปเป็นกิโลกรัมละ 20 กว่าบาท แน่นอนราคาน้ำมันสูงขึ้นค่าโดยสารรถประจำทางจะไม่ปรับเปลี่ยนราคาคงจะเป็นไปไม่ได้ ลองคิดดูว่าแต่ก่อนเคยโดยสารรถประจำทางคันเขียวเล็กในราคา 3.50 บาท รถแดง 4 บาท รถฟ้า-ขาวในราคา 5 บาท แต่ในขณะนี้ได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกคันละ 3 บาท และไม่รู้ว่าในอนาคตจะปรับ |
เพิ่มขึ้นไปเป็นเท่าไหร่
สูงลิ่วอย่างนี้ประเทศไทยน่าจะหันมารณรงค์ให้ขี่รถจักรยานแทนการโดยสารรถประจำทางเหมือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีนจะดีกว่า ทั้งที่ภาวะเศรษฐกิจของเมืองบ้านเราเป็นอย่างนี้แล้ว แต่คนไทยก็ยังไม่วายที่จะหันมาให้ความสำคัญและพึ่งพากับโชคลาภลอยๆอย่างหวย หวยตอนนี้มีเกลื่อนตลาดทั้งหวยบนดินหวยใต้ดิน รางวัลก็มีเพิ่มมากขึ้น ทั้งเลขข้างเคียงทั้งรางวัลแจ็คพอร์ท ไม่รู้ว่าจะแทงถูกกันได้อย่างไร ตัวเลขกับการเสี่ยงโชคทั้งคนรวยคนจนต่างหวังกับลาภนี้กันทั้งนั้น ดูจากสถิติในแต่ละงวดแต่ละงวดมีแต่สูงขึ้นสูงขึ้นน่าจะเก็บเอาเงินที่แทงหวยไปซื้อของใช้ของกินในยุคที่ข้าวยากหมากแพง “จน เครียด ไม่มีเงิน ดื่มเหล้า” สโลแกนนี้คงจะได้ยินกันคุ้นหูจากการรณรงค์งดเหล้า เข้าพรรษา การแก้ปัญหาด้วยการดื่มเหล้าคงจะไม่ช่วยอะไรได้ ยิ่งดื่มก็จะยิ่งจน ยิ่งจนก็จะยิ่งเครียด ราคาเหล้าก็ไม่น้อยหน้าสิ้นค้าอื่น ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นแต่เดิมเพิ่มอีกขวดละ 50 บาท ราคาสูงอย่างนี้แต่แล้วสถานบันเทิงร้านเหล้าที่ใกล้มหาวิทยาลัยก็ยังเจริญรุ่งเรืองกันอยู่ได้อย่างไร คงเป็นเพราะความสุขของนักศึกษาที่ได้ดื่มเหล้ากันละมั้ง แต่ไม่เคยคิดถึงความเศร้าของคนที่หาเงินมาให้ดื่ม พ่อแม่เสียเงินส่งลูกมาเล่าเรียนเพื่อให้หาความรู้ ไม่ใช่ส่งลูกมาเสียคนที่ร้านเหล้า ราคาข้าวของที่เพิ่มขึ้นก็จะมีคนยิ่งจนเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย แต่ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตได้เล็งเห็นถึงจุดนี้จึงได้มีการจัดหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจเพื่อช่วยเหลืออาจารย์ นักศึกษา ศิษย์เก่าและบุคคลภายนอกที่คิดค้นนวัตกรรมใหม่และมีแนวคิดที่ดีให้เป็นผู้ประกอบการ เป็นการสร้างธุรกิจให้กับตนเองเพื่อเป็นการแก้ปัญหาความเป็นอยู่ให้พอเพียงกับยุคที่ข้าวยากหมากแพงอย่างปัจจุบัน
คนไทยถ้ายังใช้เงินไปกลับสิ่งที่ฟุ่มเฟือยไม่นึกถึงอนาคตในวันข้างหน้า
ไม่ดำเนินตามพระราชดำริของในหลวง
“อยู่อย่างพอเพียง”
แล้วในวันข้างหน้าประเทศชาติบ้านเมืองของเราจะเป็นอย่างไร
เราคนไทยคงต้องกลับไปเป็นหนี้ของต่างชาติเหมือนเดิมในอดีตหรือไม่?ลองคิดกันดู |
![]() |
:+: CopyRight 2006 © :+: DusitPost Online :+: All right reserved |
![]() |