หัวหน้าศูนย์การศึกษาพิเศษเตรียมแจง การเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนแก่นักศึกษาพิเศษของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต(มสด.) ยังกว้างเกินไป ทำเกิดปัญหาแก่เด็กเพราะยากต่อการเรียนรู้และอาจารย์ดูแลได้ไม่ทั่วถึง

       จากกรณีดังกล่าว ผศ.สุวิมล อุดมพิริยะศักดิ์ หัวหน้าศูนย์การศึกษาพิเศษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า ก่อนอื่นต้องเรียนให้ทราบว่า กลุ่มน.ศพิเศษที่ศึกษาอยู่ใขณะนี้มีหลายประเภท และแตกต่างกัน โดยแบ่งออกเป็น บกพร่องทางการเห็น บกพร่องทางการได้ยิน บกพร่องทางสติปัญญา บกพร่องทางร่างกาย ออทิสติก พิการซ้อน ซึ่งความต้องการ และความสามารถในการเรียนรู้ก็ย่อมต่างกัน รวมถึงเด็กที่มี่ปัญญาเลิศ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เด็กพิการ เพียงแต่เด็กเหล่านี้สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมได้ยาก อารมณ์ และการกระทำค่อนข้างจะไฮเปอร์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งเราจะต้องจัดอาจารย์ผู้ที่มีความรู้มาดูแลอย่างใกล้ชิด

       ผศ.สุวิมล อุดมพิริยะศักดิ์ กล่าวเพิ่ม แต่เมื่อทางอธิการบดี รศ. ศิโรจน์ ผลพันธิน มีนโยบายการจัดโครงการเรียนร่วม ให้น.ศพิเศษ กับน.ศ
ปกติเรียนด้วยกัน เพื่อให้เกิดความสามารถในการเข้าสู่สังคม และให้น.ศได้ช่วยเหลือกันในระบบเพื่อช่วยเพื่อนหรือ บัดดี้ ซิทเทม ซึ่งถือว่าเป็นโครงการที่ดี แต่ต้องเข้าใจว่า ประเด็นแบบนี้ย่อมทำให้เกิดปัญหา อย่างเช่น ทาง
มสด. เปิดให้รับน.ศพิเศษ เข้าเรียนภาควิชาคณะวิทยาศาสตร์การอาหาร หรือ ฟู้ดไซน์ ที่ยกระดับพัฒนามาจากคณะคหกรรมศาสตร์

       ผศ.หัวหน้าศูนย์การศึกษากล่าวอีกว่า แม้แต่เดิมจะมีน.ศบกพร่องทางการได้ยิน สามารถเรียนคณะ
คหกรรมได้ แต่ เมื่อทางมสด.เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น และปรับระดับหลักสูตรให้ยากกว่าเดิม ซึ่งหลักความจริงแล้ว เป็นเรื่องที่อันตรายหากน.ศพิเศษจะร่วมเข้าเรียน เพราะมีสูตรทางเคมีในการสอน ยิ่งหากผู้ปกครอง หรือตัวของน.ศเองเกิดความสนใจที่จะศึกษาสาขาวิชาดังกล่าว เพราะทุกคนก็ต้องการศึกษาในสาขาที่ตนชอบ จึงอาจจะทำให้ เกิดปัญหาเรียนไม่จบ หรือเรียนไม่เข้าใจเหมือนเพื่อนนักศึกษาปกติคนอื่น เพราะข้อจำกัดในการเรียนรู้ และด้านสภาพร่างกาย ซึ่งปัจจุบัน ก็ไม่แนะนำให้ลงเรียนในวิชาดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแก่ตัวเด็กเอง หรือแม้แต่น.ศพิเศษที่เรียนในศูนย์อื่น อย่างศูนย์ระนอง2 ศูนย์สยามพาณิชยการ ก็ยังคงมีปัญหาเรื่องความไม่สะดวกในการศึกษา ซึ่งทางเรายังต้องกระจายความดูแล และความช่วยเหลือ ซึ่งบางทีก็อาจไม่ทั่วถึง

       ผศ.สุวิมลยังกล่าวต่อไปอีกว่า ทางมสด.ถือว่ามีบุคคลกรและนโยบายที่ต้องการช่วยเหลือกลุ่มน.ศพิเศษอย่างต่อเนื่องและจริงจังมากว่า37ปี ทั้งอธิการบดียังการให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที เพียงแต่บางแง่มุม และบางประเด็นอาจจะยังไม่เข้าใจถึงระบบการศึกษา และศักยภาพขอกลุ่มน.ศพิเศษอย่างแท้จริง ซึ่งมีข้อจำกัดในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ จึงอยากให้เข้าใจตรงจุดนี้บ้าง เพื่อการดำเนินชีวิตในสังคมของกลุ่มน.ศพิเศษอย่างเหมาะสม ถูกจุด เพราะการช่วยพัฒนากลุ่มเด็กพิเศษ เป็นการพัฒนาที่ไม่มีวันจบ