“รวมพลังใช้เสียง..เลือกคนเก่งแห่งมสด.”

                ลองแวะมาทักทายระบบการเมือง การปกครองย่อย องค์การบริหารนักศึกษาปี2549 ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งขึ้นในวันที่ 18 ส.ค 2549 ที่จะถึงนี้      หลังจากที่ปวดหัวกับการเมืองระดับชาติมานานพอสมควร

                กำลังพลคนเก่ากำลังจะหมดวาระลง ก็เป็นธรรมดาที่จะหาเชื้อไฟชนิดใหม่เข้ามาแทนที่ พลังนักศึกษามักเป็น “พลังเงียบ” ที่บางครั้งก็ยังไม่ทราบถึงศักยภาพอันแท้จริงของตนเอง  อีกทั้งวัยรุ่นเป็นวัยที่หัวเลี้ยวหัวต่อ น้อยคนที่จะอยากเข้ามารับภาระ ที่นอกเหนือจากการเล่าเรียน ที่แสนจะหนัก และยากลำบากพอตัว

แต่เมื่อมีตัวแทนกลุ่มนักศึกษาจากแหล่งศูนย์การเรียนต่างๆ ยื่นมือเข้ามา “รับอาสา”หน้าที่ดูแลในเรื่องต่างๆที่กลุ่มนักศึกษาควรจะได้รับ พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นแทนเหล่านักศึกษา ในด้านต่างๆของมหาวิทยาลัย ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่ายกย่องและควรสนับสนุนอีกทาง เท่าที่นักศึกษาจะสามารถทำได้

ตัวแทนกลุ่มนักศึกษาที่จะเป็นหนึ่งในการเข้ามาบริหารหน้าที่ขององค์กรนักศึกษานั้น ไม่ใช่ว่าจะยื่นใบสมัครเพียงอย่างเดียวก็เป็นได้  แต่คุณสมบัติในด้าน บุคลิกมารยาท รวมถึงผลการเรียนจะต้องจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี เพราะภาพลักษณ์ที่พวกเขาต้องได้รับคือ “ความน่าเชื่อถือ” และเป็นหน้าเป็นตาได้เมื่อออกสู่เวทีนอกสถาบันฯ

ความเต็มพิกัดในกลุ่มคณะพลคนทำงาน เพื่อให้ตอบสนองนโยบาย ที่ต่างเตรียมจะประกาศในวันที่

 1-17 คาดว่า ผู้ที่ลงสมัครน่าจะพร้อมชี้แจงต่อนักศึกษารั้วมสด.แล้ว ทีนี้ก็จะเหลือก็แต่ “พลังการคัดสรรคัดเลือก”เหล่าบรรดาตัวแทนที่จะเข้ามาให้เหมาะสมที่สุดก็เท่านั้น ซึ่งไม่แน่ใจว่า บรรดานักศึกษาที่เหลือจะทำหน้าที่ไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งอย่างคับคั่งหรือไม่  เพราะหลายคนอาจจะยังไม่ให้ความสนใจในการเลือกตั้งภายในรั้วสถาบันฯเท่าที่ควร

                เพราะไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งองค์การนักศึกษาในปีใด ก็เห็นว่าจะมีการเรียกร้องวอนให้กลุ่มนักศึกษาที่เหลือ ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงกันอย่างหนาหู แต่ ก็เป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ ที่มีผู้รับฟัง และยอมใช้สิทธิมีเพียงแค่บางกลุ่ม ดังนั้น หากเราต้องการให้เกิดความเหมาะสม ในระบบการปกครองของนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัย แม้จะเป็นเพียงหน้าที่อันเล็กน้อย เมื่อเทียบกับการเมืองระดับชาติ แต่คนที่ได้รับรู้ในสิทธิและประโยชน์ต่างๆก็คงหนีไม่พ้นพวกเรานักศึกษาเอง

                อย่าเพิ่งเบื่อระอากันกับเกมการเมืองใหญ่ จนเหมารวมไม่มาใช้เสียงเลือกตั้งองค์การนักศึกษา เพราะผลตอบแทนคงไม่ใช่เงินทอง เงินเดือนหลักหมื่นแสน หรือโครงการแปดพันล้านที่ทางนักศึกษาผู้สมัครจะเล็งงับแทะเล็ม เพื่อได้รับเป็นสินน้ำใจเหมือนเวทีใหญ่แน่นอน