เรื่องโดย....สวิริญช์
1.
"ดูแลรักษาสุขภาพดีๆนะ ตั้งใจทำตามที่คุณหมอแนะนำล่ะ ห้ามดื้อ ห้ามซนด้วย ขอร้องล่ะ จะได้หายไวๆไง " ฉันลงท้ายจดหมายฉบับล่าสุดที่เขียนถึงคุณด้วยข้อความเดิมๆ เหมือนกับจดหมายฉบับก่อนๆ ทุกฉบับ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อใดกันนะที่ฉันเลือกที่จะกด send เพื่อให้เรื่องราว ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของฉัน กลายเป็นจดหมายอิเล็คทรอนิกส์ ส่งผ่านความมหัศจรรย์ของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยังกล่องรับจดหมายของคุณ มันเริ่มขึ้นเมื่อไรกันที่คุณต้องเป็นฝ่ายเข้ามาร่วมรับรู้ ภาวะความเป็นไปในชีวิตของฉัน นับจากวันนั้นสินะที่ฉันตัดสินใจเขียนจดหมายถึงคุณแทนการจดบันทึกประจำวัน นี่ฉันสร้างภาระให้คุณมากมายเกินไปหรือเปล่า ทั้งที่คุณเองก็ไม่สบาย ต้องพักรักษาตัว ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ แล้วนี่คุณยังต้องมาช่วยแบกรับภาระทางอารมณ์ที่มันกระพร่องกระแพร่งเหลือเกินของฉันเข้าอีก ฉันเอาเปรียบคุณมากเกินไปใช่มั๊ย แต่คุณก็ยังเป็นคุณที่ไม่เคยปริปากบ่นอะไร นอกจากรอยยิ้มที่มีให้เสมอ และระมัดระวังไม่ให้ใครจับความรู้สึกได้ ฉันก็เลยไม่เคยรู้สักทีว่า คุณอยู่ในภาวะจำยอมที่ต้องอ่านจดหมายของฉันหรือเปล่า
2.
คุณกับฉัน รู้จักกันผ่านหน้ากระดานสนทนาหรือเว็บบอร์ดของเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เราเริ่มต้นคุยกันด้วยเรื่องหนังสือ ดนตรี ภาพยนตร์ และเรื่องจิปาถะทั่วไป ฉันยังเป็นเด็กน้อยในโลกวรรณกรรม แต่คุณคือผู้เชี่ยวชาญ คุณอ่านหนังสือเยอะมาก มากมายเสียจนน่าเชื่อว่า คุณคงไม่ได้ใช้เวลาในแต่ละวัน ทำอะไร นอกจากการอ่านหนังสือ ฉันได้เรียนรู้โลก เรียนรู้ชีวิต รู้จักนักเขียนหลากหลาย ฉันได้มีโอกาสซาบซึ้งกับความสวยงามของตัวอักษร ฉันได้จับต้องสัมผัสและมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครต่างๆที่โลดแล่นตามจินตนาการของผู้ประพันธ์ หัวเราะ ร้องไห้ เศร้า สลดใจ ไปด้วยกัน ทั้งหมดนี้ล้วนก่อเกิดมาจากคุณทั้งสิ้น ตลอดเวลาที่ผ่านมาของสนทนา ได้ทำให้เราเรียนรู้ ที่จะไว้วางใจซึ่งกันและกัน เปิดเผยตัวตน เปิดเผยความรู้สึกนึกคิด และเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัวของฉัน
แต่แล้ววันหนึ่งฉันก็เกิดความรู้สึกแปลกแยกอย่างรุนแรง สับสนและเริ่มไม่เข้าใจกับสถานะความจริงแท้แห่งโลกอินเทอร์เน็ต ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะทำตัวอย่างไรต่อไปดี ฉันไม่รู้ว่าฉันยังควรจะยึดมั่นกับความมีตัวตนของตนเองในอินเทอร์เน็ตอีกต่อไปหรือไม่ จู่ๆฉันก็รู้สึกว่า คนที่ฉันคิดว่าเขาเป็นเพื่อนของฉัน เขากลับกลายเป็นคนแปลกหน้า จู่ๆฉันก็นึกฉงนกับคำว่ามิตรภาพในอินเทอร์เน็ต ฉันเริ่มไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ฉันเคยมองว่ามันเป็นความสวยงามมาตลอดนั้น จริงแท้มันสวยงามอย่างที่เห็นหรือไม่ ขณะที่ฉันว้าวุ่นใจ ตั้งคำถามและพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่นั้น ฉันคงเผลอแสดงความนัยให้คุณได้เห็น อีเมล์จากคุณจึงมีมาหา
ไม่น่าเชื่อเลยนะ มีคุณเพียงคนเดียวจริงๆ ที่จับความรู้สึกของฉันได้ และคุณก็ยังเป็นคนเดียวที่มองทะลุลงไปถึงก้นบึ้งแห่งหัวใจฉัน คุณรู้ รู้ว่าสาเหตุที่มาแห่งปัญหาของฉันนั้นเกิดจากอะไร คุณเริ่มเยียวยาอาการเว้าๆแหว่งๆของหัวใจฉันอย่างอดทน คุณบอกฉันว่า "อาการของคุณยังต้องการหมอรักษา แต่พอผมรักษาคุณผมก็ต้องให้หมอรักษาผมต่อด้วยเหมือนกัน" แล้วคุณก็หัวเราะ
นับแต่นั้นคุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณของฉัน มันช่างเป็นความสุขสงบในใจมากมายเสียเหลือเกิน ที่คนคนหนึ่งจะพึงมีได้ เมื่อได้รับรู้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไร เราก็ยังมีใครสักคนที่คอยห่วงใย เอาใจใส่ และส่งความเป็นมิตรที่แสนจะบริสุทธิ์ใจมาให้โดยตลอด คุณ คือมิ่งมิตรของฉันอย่างแท้จริง แม้คุณจะรู้ดีแก่ใจว่า มีเสี้ยวเวลาหนึ่งที่ฉันรู้สึกต่อคุณมากกว่าคำว่าเพื่อน แต่คุณก็ให้เกียรติฉัน ไม่มีทีท่าอึดอัดใจ รังเกียจ คุณยังคงรักษาความรู้สึกที่มีให้ฉันและรักษาความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนของเราเอาไว้ได้อย่างดี จนฉันหายเก้อเขินไปในที่สุด
3.
อาการคุณไม่ดีขึ้นเลย คุณยังคงนอนหลับอยู่ ไม่รับรู้เรื่องราวใดๆของโลกภายนอก "เค้ายังหลับอยู่เลยครับ อีกนานกว่าจะรู้สึกตัว" ข้อความล่าสุดที่เพื่อนรักของคุณส่งมาถึงฉัน คุณเคยบอกฉันว่าโรคที่คุณเป็นอยู่นั้น สามารถทำให้คุณหายไปจากโลกนี้เอาง่ายๆ ทั้งๆที่สภาพภายนอกของคุณยังเป็นปกติดีนี่ล่ะ ฉันสวดมนตร์ อ้อนวอนทุกค่ำคืน วิงวอนขอร้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวงในโลก โปรดช่วยคุ้มครองคุณ ปกปักรักษาคุณให้รอดปลอดภัย หากฉันสามารถแบ่งเบาความเจ็บป่วยนี้มาจากคุณได้ ฉันจะทำโดยไม่รีรอเลย คุณยังมีค่าเหลือเกิน มีค่าเกินกว่าที่จะยอมให้คุณจากโลกนี้ไปโดยง่าย คุณบอกฉันก่อนที่จะเข้ารับการรักษาครั้งล่าสุดว่า ถ้าฉันเบื่อที่จะต้องเขียนจดหมายถึงคุณทุกวัน แล้วไม่มีจดหมายตอบกลับจากคุณ เพราะคุณก็ไม่รู้ว่าจะหายดี และสามารถลุกขึ้นมาตอบจดหมายฉันได้อีกเมื่อไรนั้น คุณอยากให้ฉันหยุดเขียนถึงคุณลงบ้าง แต่ไม่ล่ะ คำขอเรื่องนี้ของคุณไม่เป็นผล ฉันก็จะยังเขียนจดหมายถึงคุณต่อไป ฉันจะเขียนจดหมายเป็นเพื่อนคุณไง ฉันจะชวนคุณคุยเอง ฉันกลัวว่าคุณจะเหงา ยามที่คุณต้องตกอยู่ในห้วงนิทรารมณ์อันแสนยาวนานเพียงลำพัง คุณอย่าห้ามฉันเลยนะ อนุญาตให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนคุณตรงนี้เถิด ฉันอยากให้คุณเห็นว่า เพื่อนของคุณคนนี้ไม่ได้หนีหายไปไหน และยังยืนอยู่ตรงนี้ เฝ้ารอเวลาที่คุณจะตื่นขึ้นมา และส่งรอยยิ้มทักทายเหมือนทุกครั้ง แต่คุณรู้มั๊ย คราวนี้คุณหลับไปนานมากเลยนะ ตื่นซะทีสิ อย่าทำให้คนที่เฝ้ารอต้องกระวนกระวายใจอีกเลย ตื่นเถอะนะ ฉันเป็นห่วงคุณ ฉันคิดถึงคุณจะแย่อยู่แล้ว
4.
วันนี้ฉันเพิ่งเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เล่มที่คุณแนะนำว่าฉันต้องอ่านให้ได้ ฉันตามหาหนังสือเล่มนี้อยู่นานนักหนาแล้ว น่าแปลก ที่จู่ๆ ฉันก็พบและได้เป็นเจ้าของมันโดยบังเอิญ นี่คุณคงแอบใช้เวทมนตร์คาถาช่วยให้ฉันค้นเจอหนังสือเล่มนี้ใช่มั๊ย คุณน่ะยังคงมีอารมณ์ขันและซุกซนราวกับเด็กๆเสมอเลยนะ แถมยังเต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังใจ เข้มแข็ง คุณไปเอาความกล้าหาญเหล่านี้มาจากไหนกันนะ แถมยังมีมากมายเหลือเฟือจนเผื่อแผ่มาถึงฉันอีกด้วย ฉันดีใจมากและรีบบอกข่าวดีนี้แก่คุณคนแรก เห็นมั๊ยฉันเป็นลูกศิษย์ที่เชื่อฟังครูเสมอนะ คุณเคยพูดอย่างมั่นใจว่า "ผมรู้ว่าคุณคิดอะไร กำลังรู้สึกอะไร และผมรู้ว่า ถ้าผมพูด คุณจะฟัง แต่คุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง" ใช่แล้วล่ะ นับจากวันที่ฉันวางใจของฉันไว้กับใจของคุณ วันที่ฉันเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวคุณอย่างสูงสุด ฉันก็ยึดถือคุณเป็นสรณะแห่งชีวิต คุณบอกว่าฉันเป็นคนใจร้อนเวลาโกรธจะไม่ฟังใครเลย คุณให้ฉันไปแช่น้ำซะเมื่อเริ่มรู้สึกตัวว่าโกรธ จะได้ใจเย็นขึ้น คุณรู้มั๊ย ตอนนี้ฉันรู้จักข่มใจ รู้จักระงับอารมณ์และเก็บอารมณ์มากขึ้นแล้วนะ ฉันสงบและรับฟังคนรอบข้างมากขึ้น ไม่วู่วามเอาแต่ใจเหมือนเมื่อก่อน เห็นมั๊ยตั้งแต่ที่ฉันรู้จักคุณ ฉันเป็นคนดีขึ้นเยอะเลยเชียว
5.
Your mail has been sent. ข้อความยืนยันว่าจดหมายฉบับล่าสุดที่ฉันเขียนถึงคุณได้ถูกส่งไปแล้วและรอเวลาที่คุณจะเปิดมันขึ้นมาอ่าน ฉันยังคงเขียนจดหมายถึงคุณเป็นประจำสม่ำเสมอทุกวัน ฉันเขียนและส่งไปที่กล่องรับจดหมายใบเดิมของคุณ แม้รู้ว่าจดหมายเหล่านั้นจะไม่มีวันได้ถูกเปิดอ่านอีกเลยชั่วชีวิต คุณใจร้าย คุณออกเดินทางล่วงหน้าฉันไปไกลลิบ ไกลสุดตา ณ เส้นขอบฟ้า คุณรู้ว่าฉันจะไม่มีวันไล่ตามคุณไปยังที่แห่งนั้นได้ทันในเวลานี้ แต่ฉันก็รู้นะ รู้และเชื่อมั่นว่า คุณรอให้ฉันถือจดหมายฉบับสุดท้ายไปส่งให้ด้วยมือของฉันเอง ฉันมั่นใจว่า คุณ 'รอ' .........