[ HOME ] [ สารบัญ ]

อิลา...ชายาพระพุธ ปัจฉิมบท

พอพระอิลราชพานางอิลาเหาะเหินมายังเมืองพลหิรกา พบบิดา

ท้าวกรรทมพรหมบุตรยินดียิ่งนักที่โอรสและธิดาตนกลับบ้านเมืองหลังจากหายไปนาน

ซ้ำพระอิลราชยังมีวิชาติดตัวอีก

ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับอย่างเอิกเกริก

ฉลอง 7 วัน 7 คืน

มหรสพทั่วเมือง…

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีต้อนรับ

องค์กรรทมพรหมบุตรเรียกกุลบุตร กุลธิดา เข้าไปถามไถ่

อิลราชผู้อนุชาเล่าเรื่องพระพุธและนางอิลาให้บิดาฟังจนหมดสิ้น

ผู้พ่อได้ฟังเช่นนั้นก็พิโรธยิ่งนัก

ด่าทอนางอิลาว่ามิรักนวลสงวนตัว และจับนางขังไว้ในหอคอยสูงเพื่อไม่ให้หนีกลับไปหาพระพุธ…

แล้ววันหนึ่ง…ก็มีกษัตริย์ต่างแดนมาเยือนกรุงพลหิรกา

ท้าวกรรทมพรหมบุตรพูดคุยถูกคอจึงออกปากจะยกนางอิลาให้

กษัตริย์ผู้นั้นจึงได้รับตัวนางอิลาไปยังเมืองของตน


ฝ่ายพระพุธนั้นเดิมไม่คิดตามหาชายา

แต่ด้วยรักคะนึงหาทุกขณะจิต

ทั้งยังมิอาจทานทนคำรบเร้าของโอรส

จึงตัดสินใจพาปุรูรพผู้บุตรออกจากป่าไปตามมารดาคืน

แต่ครั้นถึงเมืองพลหิรกา

ปรากฏว่านางอิลาหาได้อยู่ที่นั้นไม่

ยามพระพุธถามเหล่าชาวเมืองว่านางอยู่แห่งหนใด

ชาวเมืองก็ตอบมาไซร้…

เจ้าหญิงอิลาแล ถูกส่งไปเป็นชายากษัตริย์เมืองอื่น

สร้างความคับแค้นใจให้กับพระพุธยิ่งนัก

ทรงพาบุตรปลอมตนเป็นพราหมณ์

เดินทางไปยังเมืองของผู้ชิงชายาตนทันที


เมื่อไปถึงเมืองอันเป็นที่ประทับของนางอิลา

พระพุธและโอรสก็ปลอมเป็นหมอยา

แสดงกลสารพัดให้เหล่าชาวเมืองดู

เป็นที่ตื่นเต้นของเหล่าชาวบ้านเป็นอย่างมาก…

จนกระทั้งเรื่องไปถึงพระเจ้าแผ่นดิน

ทรงโปรดให้สองพราหมณ์พ่อลูกเข้ามาแสดงกลในราชวัง

ทั้งสองสบโอกาสเข้าวังเพื่อแสดงกลต่อหน้าพระที่นั่ง

ครั้นพระพุธและปุรูรพกุมารได้เข้าถวายการแสดงกลหน้าพระที่นั่ง

กษัตริย์นั่งเคียงคู่กับนางอิลาที่มีทีท่าเศร้าหมอง

เพียงพระพุธเห็นชายาเคียงข้างชายอื่นก็ให้จิตใจร้อนรุ่ม

แทบจะข่มใจไม่ไหว…

ส่วนปุรูรพกุมารนั้นเล่า?

แทบจะวิ่งเข้าหาผู้เป็นมารดา

ส่วนนางอิลาเมื่อเห็นทั้งลูกและสามีมายืนอยู่ตรงหน้า

ทั้งดีพระทัยและลำบากใจอย่างบอกไม่ถูก

ไม่กล้ามองหน้าสามีหรือกุมารเมื่อตนนั่งเคียงข้างชายอื่น

อิลาเทวีเสด็จหนีพระพุธสวามีเข้าสู่พระราชฐานชั้นใน

ทรงแอบร่ำไห้อยู่ที่นั้น

ฝ่ายพระพุธผู้มาตามหามเหสี

เริ่มเล่นกลสารพัน สร้างความเพลิดเพลินให้กับองค์กษัตริย์

ก่อนจะถอนจิตอีกดวงออกไปตามหาชายา…

เมื่อพบนางอิลาก็เข้าพานางกลับ

แต่เนื่องด้วยเมืองนั้นสักการะพระพฤหัส

พระพฤหัสซึ่งไม่ชอบพระพุธจึงเข้าขัดขวาง

พระพุธพานางอิลาเหาะหนีไปยังอาศรมของตน

พระพฤหัสไม่ยอมแพ้

โกรธแค้นที่พระพุธบังอาจหมิ่นเกียรติตน

ติดตามพระพุธที่อุ้มนางอิลาหนีไป

ฝ่ายปุรูรพกุมารเห็นพระพฤหัสไล่ล่าบิดามารดาก็เข้าขัดขวาง

พระพฤหัสจึงทำร้ายปุรูรพกุมารแล้วไล่ล่าพระพุธต่อไป

จนถึงอาศรมของพระพุธ

ทั้งคู่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อภินิหารใส่กันจนป่าแถบนั้นราบเป็นลานกว้าง

สองเทพสู้กันทั้งกลางวันกลางคืนเป็นเวลาหลายวัน

ไม่กินข้าวกินน้ำ

ฝ่ายนางอิลาเป็นคนธรรมดาก็ทนไม่ได้

พระพุธจึงจำต้องยอมแพ้แก่พระพฤหัส

ยอมให้พระพฤหัสนำนางอิลาไปให้กับกษัตริย์

นางอิลายอมไปแต่ไม่ยอมเป็นชายา

นางอดข้าวอดน้ำทั้งวันทั้งคืนจนอาการร่อแร่


ระหว่างนั้น ทั้งพระอิศวรและปวงเทพ

ต่างร่วมประชุม

โดยมุ่งให้พระพฤหัสคลายความอาฆาตแค้นในพระพุธด้วยเรื่องแต่เก่าก่อน

ครั้นเหล่าปวงเทพร่วมวิงวอน

องค์อิศวรทรงร่วมไกล่เกลี่ย

"พระพฤหัสเอ๋ย"

"ท่านเป็นใหญ่ในนพเคราะห์
ควรหรือไม่ที่เอาเรื่องส่วนตนเล็กน้อยมา ขัดผู้เป็นเทพด้วยกัน
ผิว์ว่า…
นางอิลาเป็นชายาคู่บารมีพระพุธมาแต่ชาติปางไหน?
ไหนเลยจะไปมีสามีเป็นผู้อื่นได้
โปรดยินยอมให้พระพุธไปนำชายาตนมาคืนเทอญ…"

ครั้งพระอิศวรทรงกล่าวเช่นนั้น

พระพฤหัสบดีจึงยอมล้างราให้พระพุธไปนำตัวนางอิลาคืนมา


ครานั้นบ้านเมืองกษัตริย์เกิดเหตุอาเพศ

ฝนไม่ตก เกิดโรคระบาด

โหรทำนายว่าเหตุเป็นเพราะนางอิลาเป็นกาลกิณี

ให้บูชายัญนางเสีย

ขณะที่นางอิลากำลังจะถูกเผาด้วยไฟเพื่อบูชายัญ

พระพุธก็เหาะมารับตัวนางหนีไป

กลับสู่อาศรมในป่าของตนพร้อมบุตร

แล้วพระพุธก็บำเพ็ญเพียรอีกหลายร้อยปีจึงสำเร็จเป็นเทพ 1 ในนพเคราะห์

มีวิมานเป็นสีมณี ประทับอยู่บนสวรรค์

พระองค์รับนางอิลาและบุตรขึ้นไปอยู่บนวิมาน

อย่างสงบสุขสืบไป….

นำเรื่อง - - อรัมภบท - - มัธยมบท