[ HOME ] [ สารบัญ ]

The Iron arm : ตามหาแขนเหล็ก Part. 2


โคน่าผงะด้วยความตกใจ และโมโหยิ่งเสียกว่าเดิม ที่โดนบุกรุกโดยพลการ เธอแยกเขี้ยวยิงฟันด้วยความโกรธเกรี้ยว นักประดิษฐ์ยกมือขึ้นชี้หน้าคนแปลกหน้า

"มันจะมากไปแล้ว! นายกล้าบุกรุกห้องเลยรึ? ออกไปเดี๋ยวนี้น่ะ ไม่อย่างนั้นฉันจะ…." พูดยังไม่จบ ชายที่เพิ่งถือวิสาสะเข้ามาก็ยกนิ้วข้างหนึ่งขึ้นแนบริมฝีปากเป็นสัญญาณให้เงียบ

"อย่าเอ็ดไป ท่านสุภาพบุรุษ" เขาพูดอย่างแผ่วเบาจนเกือบเป็นเสียงกระซิบ ด้วยเสียงทุ้มห้าว หลังจากนั้นก็มองสำรวจตัวโคน่าที่ยืนเท้าสะเอวอย่างหงุดหงิด

"อ้อ…เป็นผู้หญิงรึนี่? ขอโทษที คุณผู้หญิง ช่วยเงียบสักเดี๋ยวเถอะ ถ้าไม่อยากให้ผมตาย" เขาแก้คำ แต่มันก็ไม่ทำให้โคน่าใจเย็นขึ้นเลย

"แล้วทำไมฉันจะต้องทำตามนั้นด้วยล่ะ" โคน่าเถียงอย่างไม่ลดละ "ถ้านายยังไม่ออกไปละก็ ฉันจะจัดการนาย!" ว่าแล้วโคน่าก็ฉวยไม้หน้าสามขึ้นมาจากพื้นห้องที่วางของระเกะระกะ ขึ้นมาถือขู่ผู้บุกรุก แต่ชายแปลกหน้ากลับมองโคน่าอย่างไม่ยี่หระ

"ก็ลองดู" เขาท้ากลับ ก่อนที่จะคว้ามีดเปลือกปลอกยาวเกือบฟุตออกมาจากชายพก หันปลายมันมาทางโคน่ายังไม่ทันที่เธอจะใช้ไม้ปัดป้องใดๆ มีดยาวเกือบฟุตก็พุ่งมาจี้ที่ลำคอของเธอเสียแล้ว

"แก!"

"ไม่สุภาพเลยคุณผู้หญิง" ชายหนุ่มทำท่าจุ๊ปาก

"อย่าร้องอย่าส่งเสียงเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้น ฉันจะฆ่าเธอเสียก่อนที่ฉันจะถูกจับตัวได้" ขณะที่ชายแปลกหน้ากำลังพูด เขาก็กวาดสายตาไปทั่วบริเวณ โคน่ารู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวขึ้น หลายปีแล้วที่ไม่เคยมีผู้ชายเข้ามาในห้องของเธอ ตั้งแต่พ่อตาย แต่ตอนพ่อยังไม่ตายก็มีคนมาเยี่ยมเยียนไม่มากนัก หรือจะพูดแบบไม่อ้อม…คือแทบไม่มีเลย…

"มองอะไร?" เธอกระซิบออกมาเบาๆ เพื่อเตือนสติเขา เกรงมีดที่จ่อคอหอยเธออยู่เหมือนกัน

"มอง…รังของเธอน่ะสิ" ชายหนุ่มตอบ พลางยิ้มประหลาดๆ โคน่าไม่เข้าใจ…แน่นอน เธอพูดไม่เก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เธอไม่เคยเข้าใจคำแสลงที่คนทั่วไปใช้กัน เธอพูดได้จริง แต่การพูดเปรียบเหมือนภาษาต่างประเทศสำหรับเธอ

เธอมองเขาอย่างแปลกใจ

"มันเรียกว่าห้อง…หร..หรือจะเรียกว่าบ้านก็ได้ ถ้าอยากเรียก แต่นี่ไม่ใช่รัง เรียกห้องว่ารัง ผิดหลักไวยากรณ์" โคน่าอธิบาย เจ้าหนุ่มคนนั้นปั้นหน้าขรึม ก่อนที่จะขมวดคิ้วและหัวเราะหึๆในลำคอ

"ขำอะไร?"

"ขำเรื่องรังของเธอน่ะสิ" เขาโคลงศรีษะ "เอาเถอะ ฉันไม่มีเวลามาเล่นแล้วน่ะ เอาล่ะ ช่วยไปนั่งบนไม้กระดานนั้นหน่อย อ้อ…น่าจะเป็นเตียงสิ นั่งเฉยๆล่ะ ฉันไม่อยากฆ่าใคร" เขาพยักหน้าเป็นสัญญาณให้โคน่าลงไปนั่งบนเตียง เธอหันหลังตามช้าๆ ในใจนึกหงุดหงิด เธอร้องตะโกนในใจว่าอย่ามายุ่งกับฉัน! เธอเกลียดความยุ่งยากพวกนี้ ไปให้พ้น! ฉันอยากอยู่คนเดียว

"อย่าจ้องฉันอย่างนั้นสิ" ชายแปลกหน้าเปรย "ยังกับจะกินฉันแน่ะ!"

"ถึงฉันจนแต่ก็ไม่วิตถารถึงกับกินเนื้อคนหรอก!" โคน่าโต้ แต่นั้นก็ทำให้เขาหัวเราะอีก

ชายหนุ่มแนบศรีษะกับประตูสักครู่ โคน่ามองเขา เขาท่าทางอายุเท่าๆกับเธอเท่านั้นเอง ผมสีน้ำมันจักรซึ่งเป็นสีที่เธอไม่เคยเห็นในคนเลย ตาโตสีสนิม ผิวสีหม้อที่กำลังสุกพอดีอยู่ในเตาเผา ใบหน้าคมเข้มแฝงแววลึกลับ ตัวสูงเพรียว แขนข้างที่จับมีดอยู่กอปรด้วยเส้นเลือดโปน แต่อีกข้างกลับเป็นไม้ ไม้ที่ต่อออกมาตั้งแต่ข้อศอก ชายแปลกหน้าสวมเสื้อโค้ทสีดำสนิทไม่ติดกระดุม ข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตธรรมดา

หลังจากเขาแนบศรีษะอยู่กับประตูสักครู่ก็เอาหัวออก

"คงตามไม่เจอ" เขากระหยิ่ม ก่อนจะมาทางเธอ หันปลายมีดมาทางโคน่า

"ขอพักสักครู่น่ะ คุณนาย" เขาว่า พลางมองโคน่าอย่างถี่ถ้วน แล้วอุทานออกมา

"เธอไม่เคยซักเสื้อรึยังไง?" เขาโบกมีดไปมา "เคยอาบน้ำบ้างรึเปล่า ทำไมเหม็นน้ำมันอย่างนี้?"

"ฉันเป็นนักสร้าง…เอ๊ย…นักกลไก เอ๊ะ!ไม่สิ ฉันเป็นนักประดิษฐ์ก็ต้องมีกลิ่นน้ำมันจักรเป็นธรรมดา…" โคน่าชี้แจง รู้สึกไม่ชอบใจเลยที่ถูกทักอย่างนี้ โดยเฉพาะผู้ชาย ผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อ…

ชายหนุ่มไม่สนใจคำชี้แจง เขาหันไปมองของต่างๆในห้องแทน มันวางอย่างรกๆ บ้างก็สุ่มๆเอาไว้ โคน่าทำความสะอาดไม่เก่งอีกเหมือนกัน

"รก" ชายแปลกหน้าเปรยขึ้น น้ำเสียงของเขาทุ้มๆห้าวๆ แหบแห้งเป็นบางประโยค เขาพูดค้างเอาไว้ ก่อนที่จะขมวดคิ้ว

"รกเหมือนรังหนู!"

"อ้อ" โคน่าร้อง เธอเพิ่งเข้าใจเมื่อสักครู่เอง ที่เขาว่ารัง เป็นการเปรียบเทียบว่ารังหนู โคน่าหน้าแดง ทั้งอาย ทั้งโกรธ ทั้งหงุดหงิด ที่อยู่ดีๆก็โดนบุกรุกบ้าน ยังต้องนั่งเฉยๆทำอะไรไม่ได้อีก แล้วผู้ชายแปลกหน้าว่าเอาๆ โคน่าผู้มีโลกสีเทาดำรู้สึกว่าโลกของเธอใกล้สีดำเข้าอีกหน่อยหนึ่งแล้ว

ชายหนุ่มแปลกหน้านั้นท่าทางจะสนใจที่รู้ว่าเธอเป็นนักประดิษฐ์ เขาเดินไปตามตู้โต๊ะต่างๆที่มีข้าวของวางเอาไว้ หยิบโน้นดูนี่ด้วยความสนใจ

"นี่อะไร?"

"ตุ๊กตากล"

"นี่ล่ะ?"

"สารหล่อลื่น"

"อื้อ!" ชายหนุ่มเดินหยิบโน้นนี่ไปมา โคน่านั่งอยู่บนเตียง มองดูเขาอย่างลำบากใจ จะไล่ไปก็ไม่รู้จะเชิญยังไง จะให้อยู่เธอก็ทำอะไรไม่ได้

ชายหนุ่มเริ่มดูของไปเรื่อย จนกระทั้งไปถึงขวดแก้วคริสตัล แล้วก็กรอบรูปพ่อของโคน่า เขาหยุดยืนดู ก่อนจะคว้ารูปลงมาโดยพลการ

"ใครน่ะ?"

"อย่ายุ่งน่ะ!" โคน่าแว้ด วิ่งเข้าไปฉวยกรอบรูปคืนจากชายหนุ่มโดยไม่สนมีดในมือของเขา

"ชะ ไม่กลัวถูกแทงรึไง?" ผู้ชายที่มีแขนเดียวมองดูอย่างตะลึงเล็กน้อย จึงยกมีดขึ้นขู่อีกครั้ง โคน่าหันเหลือบมองเขา ยังไม่ทันติดกรอบรูปคืนด้วยซ้ำ เธอก็ต้องยืนนิ่งอีกครั้ง

"ไปนั่งที่เตียงใหม่ได้แล้ว" เขาสั่ง โคน่ายืนนิ่ง ตัวสั่น เธอเดินกลับไปนั่งที่เตียงช้าๆแล้วนั่งลงตามเดิม ชายหนุ่มจึงลงนั่งบ้าง ที่ที่เขาเลือกคือขอบหน้าต่าง เขาใช้แขนข้างที่เป็นแขนไม้เท้าขอบ นักประดิษฐ์นั่งนิ่งอยู่สักครู่ จึงเปรยขึ้นด้วยเสียงสั่นๆ

"เมื่อไรนายจะไป?"

"ต่อเมื่อ…ช่างฉันเถอะ ว่าแต่…" แต่แล้วการสนทนาต้องหยุดลงกระทันหันเมื่อมีเสียงขึ้นบันไดมายังห้องใต้หลังคา โคน่าทำท่าจะลุกขึ้น แต่คนแปลกหน้าหนุ่มเข้ามาขวางไว้พลางจ่อมีดไปที่สะโพกของเธอ

"เธอเปิด ค่อยๆน่ะ ถ้าทำตัวมีพิรุธล่ะก็…" โคน่าพยักหน้า ถึงเธอตีความไม่ค่อยเก่งนักแต่เธอก็พอจะเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร

"เปิด…ค่อยๆ" ผู้บุกรุกกระซิบ เขาดันตัวเธอไปเปิดประตู โคน่ามองที่ช่องโหว่ ภาพที่เห็นคือคุณจอร์จจากร้านอาหาร โคน่าค่อยๆแง้มประตูออกช้าๆ

"ไง โคน่า" คุณจอร์จทักทายเมื่อเห็นหน้าโคน่า เขาย่นจมูกเมื่อเห็นชุดเปรอะน้ำมันของเธอ บริกร 2-3 คนที่ตามเจ้าของร้านอาหารมาก็ทำท่ารังเกียจเช่นกัน

"สวัสดีค่ะ คุณจอร์จ มีอะไรหรือค่ะ"

"ฉันมาตามหาคน เธอเห็นบ้างไหม? ผู้ชายสูงๆ ผิวคล้ำ ผมสีแปลกๆ สีน้ำมันจักร เธอน่าจะรู้จักนี่! ใส่โค้ทดำ"

"ม…ไม่ค่ะ" เธอตอบ ภาวนาให้คุณจอร์จไป เจ้าคนถือมีดจะได้ไปให้พ้นเธอซักที แต่ผิดความคาดหมาย

"หาผมอยู่หรือ?" โคน่าสะดุ้งสุดตัว เมื่อได้ยินเสียงของผู้บุกรุกห้องเธอ ผู้ชายถือมีดเมื่อสักครู่เก็บมีดเรียบร้อยแล้ว เขาขยับสาบโค้ทให้เข้าที่และเดินมาอยู่หน้าประตู

"แก!" เจ้าของร้านอาหารร้อง ชี้หน้าคนแปลกหน้าเขม็ง ก่อนจะชายตาลงมามองโคน่าอย่างเยาะเย้ย

"ไหนว่าไม่เห็นไง โคน่า!" เจ้าของร้านอาหารไม่มองเปล่า ยังร้องถามด้วย หญิงสาวก้มหน้ามิด คางจรดเสื้อเปื้อนน้ำมัน

"คือ…" เธอพยายามแก้ตัวด้วยเสียงแผ่วเบา แต่ก็ถูกคุณจอร์จพูดกลบด้วยเสียงอันดัง

"จ่ายเงินมาเดี๋ยวนี้!!! พวกกินแล้วหนี" นายจอร์จร้อง พลางพยายามลุกล้ำเข้าไปในห้องของโคน่า หญิงสาวรีบใช้สองมือดันตัวของเจ้าของร้านอาหารเอาไว้

"อย่าค่ะ ได้โปรดเถอะ ไปทะเลาะกันข้างนอก"

"เฮ้ใจเย็นๆก่อนสิคุณ" ชายแปลกหน้าหัวเราะอย่างไม่ยี่หระ เขายกแขนข้างที่เป็นไม้ดันหน้าผากของเจ้าของร้านอาหารเอาไว้

"ผมจะจ่ายเงินแล้ว เอาสิ จะได้เลิกวุ่นวายสักที"

"จริงเรอะ" เจ้าของร้านอาหารยั้งเท้ากลับที่เดิม "งั้นก็รีบจ่ายๆมา ฉันจะได้กลับเสียที" เขาแบมือออกมาต่อหน้าชายหนุ่มที่ใส่โค้ทดำ

"ได้" ชายแปลกหน้ารับคำ เขายกแขนไม้ขึ้นเท้าบนหัวไหล่ของโคน่า "แต่เดี๋ยวก่อน พวกคุณไม่สังเกตเลยรึว่าผมมาหาคุณผู้หญิงคนนี้" เขาอรัมภบท

"ดูสิผมเป็นแขกของเธอน่ะ น่าจะให้เกียรติผมบ้าง" คุณจอร์จเลิกคิ้วให้กับคำพูดของชายแปลกหน้าคนนั้น เขาหันมาหาโคน่า

"นี่เป็นแขกของเธอเรอะ โคน่า" โคน่าส่ายหน้าทันที

"ไม่! โอ๊ย! เป็นค่ะ" โคน่ารับคำ ปลายมีดแหลมจ่ออยู่ที่หลังของเธอ มันครูดหลังเธอไปมา คล้ายหาทำเลแทง

"นั้นไง อย่างที่ผมว่าเลยล่ะ"

"แล้วไหนล่ะ เงิน" จอร์จไม่สนอะไรทั้งสิ้น เขาเข้าใจที่คนแปลกหน้าพูด ชายหนุ่มเป็นแขกของโคน่า หมายความว่า…เธอต้องจ่าย

สายตาของเจ้าของร้านอาหารมองมายังโคน่าที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เขาลดมือมายังใบหน้าของโคน่า และมีทีท่าไม่พอใจเมื่อโคน่าถามเขาว่าทำไม ชายแปลกหน้าดูเหมือนจะรู้สถานการณ์อย่างดี เขาก้มหัวให้กับเจ้าของร้านอาหาร แล้วฉวยถุงเงินเล็กๆถุงหนึ่งออกมา

"เท่าไหร่?" เขาถาม

"2 เหรียญเงิน"

"งั้นรึ?" โคน่าได้ยินเสียงหยิบเงินกรุ๋งกริ๋งจากข้างหลังเธอ เธอหันกลับไปดู และต้องมองตาค้าง นั้นมันถุงเงินของเธอ!!!

"ว้ามีแค่หนึ่งเหรียญเงินกับสองเหรียญทองแดงเอง หยวนๆหน่อยไม่ได้เหรอ?"

"ไม่! ถ้าไม่มี คุณก็ต้องให้ใครทำงานชดใช้ เข้าใจไหม? โคน่า"

"เอ๊ะ! ทำไม?"

"ไม่นานหรอก เงินขาดไม่เท่าไร เธอทำงานไม่มากหรอกโคน่า ฟังน่ะ เอาเป็นวันมะรืนนี้ก็แล้วกัน มาทำงานที่ร้านของฉันตอนเย็น ต้องมาซะ ไม่อย่างนั้นฉันมาลากตัวของเธอไป!!!"

"ครับ ทราบแล้ว รู้แล้วน่ะ โคน่า อย่าลืมเสียล่ะ เอาล่ะคุณได้เงินแล้ว เชิญกลับไปได้แล้วครับ… ไป๊!" เจ้าของแขนไม้ผลักประตูใส่หน้าของเจ้าร้านอาหาร เสียงประตูปิดดังสนั่น ฝุ่นร่วงกราวลงมาจากเพดาน

โคน่ายืนตกตะลึงอยู่หน้าประตู

"เอาล่ะ!" คนแขนไม้หัวเราะร่วน "ขอบคุณมากน่ะ โคน่า…" ยังไม่ทันจะพูดอะไรได้จบประโยคดี นักประดิษฐ์ร่างเล็กก็กราดเข้าไปหาคนแขนไม้ เธอกระชากเสื้อของเขาอย่างแรง

"ไอ้เลว" เธอร้อง "แกทำอะไรกับเงินของฉัน ห๊า! ยังไม่พอ แกยังให้ฉันไปทำงานแทนอีกเรอะ!!!"

"ไม่ได้เลว" คนแขนไม้พูดอย่างใจเย็น ก่อนผลักร่างหญิงสาวออกไกลตัว

"ฉันไม่ได้เลวหรอก ฉันเป็นหนี้บุญคุณเธอต่างหาก เอาเถอะ ฉันสัญญาว่าเงินแค่นั้นจะใช้คืนให้เป็นสิบเท่าเลยล่ะ"

"ใช้คืนเรอะ!" โคน่าร้อง ฟันเฟืองในหัวเธอเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว "แค่นี้นายยังใช้ฉันไปทำงานแทนเลย เอาอะไรกับเงินคืน นั้นเป็นที่ฉันเก็บมาเป็นเดือนน่ะ ฉัน!" คนแปลกหน้ายกมือขึ้นห้ามโคน่าไม่ให้พูดต่อ

"เธอชื่อโคน่าสิน่ะ เอาล่ะ ฉันชื่อเทรเวน เป็นคนที่เพิ่งผ่านมาแถวนี้ เธอไม่ต้องกลัวหรอก เงินแค่นั้นฉันจะใช้คืนให้…" เขากระชับโค้ทพลางมองไปรอบๆ

"ฉันหิวแล้วล่ะ มีอะไรให้กินบ้างไหม? หนีเจ้าพวกนั้นเปลืองแรงเป็นบ้าเลย"

"ไม่มี" หญิงสาวตอบอย่างแน่วแน่ ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างมีเลศนัย เขาสูดลมหายใจเข้าแรงๆ

"ฉันว่าฉันได้กลิ่นขนมปังน่ะ" ว่าแล้วผู้ชายที่บอกว่าตนชื่อเทรเวนก็เดินเข้าไปค้นตู้อย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้อง

เทรเวนสามารถค้นเจอขนมปังก้อนสุดท้ายที่ซ่อนเอาไว้อย่างไม่ยากเย็น เขาหยิบมันออกมานั่งเคี้ยวอย่างสบายอารมณ์ต่อหน้าเจ้าของห้อง โคน่ามองดูผู้บุกรุกด้วยความระอาใจ เธอไม่สามารถสู้ได้ และไม่สามารถหนีออกไปอยู่ที่ไหนได้อีกด้วย หญิงสาวเดินมาทรุดลงบนเตียงโดยไม่สนใจอีกคนที่จับตามองอยู่ เธอซบหน้าลงบนหัวเข่า ไม่ได้ร้องไห้ แค่ถอนหายใจอย่าท้อแท้

"แค่ให้ออกเงินให้ กะขอกินขนมปังหน่อย อย่าถึงกับร้องไห้สิ"

"ฉันไม่ได้ร้องไห้!"

"โอ๊ะ ตายแล้วฉันสำคัญผิดรึ? เอาเถอะ…เฮ้!!! มีคนมาเยี่ยมเธออีกแล้วแน่ะ" คำพูดนั้นทำให้โคน่าเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เธอเสยผมที่ปรกหน้าออกแล้วเงี่ยหูฟัง… โคน่าได้ยินเสียงขึ้นบันได เสียงลั่นของบันได และ…เสียงเคาะประตู

"คะ" เธอรับอย่างเสียไม่ได้ ลุกขึ้นจากเตียงไปที่ประตูห้อง ก้มมองที่ช่องโหว่อีกครั้ง คราวนี้เป็นเจ้าของตึกตัวจริง เขามากับลูกน้องด้วย โอ๊ยตายล่ะ ทำไมวันนี้มันถึงได้ยุ่งยากอย่างนี้

สุภาพสตรีร่างสูงมีผมหงอกขาวแซมบนผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นหย่อมๆ เธอรวบมันมัดตึงไว้บนศรีษะ ชุดที่ใส่เป็นแบบชุดกระโปรง มันเหมือนสุ่มไก่มากกว่าในสายตาของโคน่า แต่หลายครั้งเหมือนกันที่โคน่าอยากจะใส่กระโปรงแบบนั้นบ้าง

ชายร่างใหญ่อีกหลายคนยืนอยู่เบื้องหลังของสุภาพสตรีคนนั้น แน่นอนล่ะว่าเป็นนักเลงถิ่น ในตึกที่มีหลากกิจการย่อมต้องมีนักเลงคุม โดยเฉพาะตึกที่มีผู้เช่าชอบเบี้ยวค่าเช่าบ่อยๆอย่างนี้

"เปิดออก!" เสียงแหลมสูงของมาดามเจ้าของตึกตวาดลั่น เธอยกมือขึ้นทุบประตูเสียงดังลั่น "เปิดออก!!! โคน่า โอรีอา ฉันรู้ว่าเธออยู่…." ยังไปทันจบประโยค หญิงเจ้าของตึกก็ต้องหน้าถลำ เพราะโคน่าถลาเข้ามาเปิดประตูเข้าเสียก่อน

"มาดาม" โคน่ายืนอย่างสงบอยู่หน้าประตู เธอพอจะรู้ว่าหญิงผู้นี้มาทำไม และไม่ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ เมื่อมาดามเริ่มพูดแล้วเธอไม่มีวันหยุดพูดได้ ฉะนั้นโคน่าจึงจำต้องชิงพูดขึ้นก่อน

"มาดาม ได้โปรดเถอะค่ะ" หญิงสาวใช้สุ่มเสียงขอร้อง "หนูยังไม่มีเงินเลย แล้วเมื่อสักครู่ เงินก้อนสุดท้ายของหนูก็…."

"ถูกนำออกมาจ่ายค่าอาหารแทนชายหนุ่มยากจนคนหนึ่งที่ไม่มีค่าอาหาร แล้วยังเอื้อเฟื้อที่พักและแบ่งปันอาหารให้เขาอีกน่ะครับ มาดาม คนดีอย่างนี้น่าจะยืดเวลาให้อีกหน่อย" เสียงดังมาจากมุมห้อง โคน่าหันไปมองเขาด้วยตาเขียวปั้ด

"หุบปากนายไปซะดีกว่า!"

"อ้อ" เทรเวนปัดมืออย่ายียวน "ได้สิครับท่านเจ้าบ้าน" มาดามร่างสูงมองทั้งสองอย่างเคลือบแคลง เธอมองเทรเวนด้วยหางตา ก่อนจะหันกลับมาเขม็งที่โคน่า

"ใจบุญจริงน่ะ" สุภาพสตรีในชุดกระโปรงประชด "ฉันต้องแปลกใจมากแน่ๆ ถ้าไม่รู้เรื่องมาจากคุณจอร์จก่อน ถึงได้ขึ้นมาดูให้แน่ใจ" เธอจัดชุดกระโปรงของเธอให้เข้าที่

"ถ้าเธอมีเงินมาจ่ายแทนคนอื่น เธอน่าจะจ่ายค่าเช่าให้ฉันสักทีน่ะ"

"โธ่ มาดามค่ะ ขอเวลาหน่อยเถอะ หนูก็จะจ่ายให้แล้ว"

"ทำไมเธอไม่ลองขายอะไรไปล่ะ?" เทรเวนที่นั่งอยู่มุมห้องออกความเห็น หญิงเจ้าของตึกมองอย่างไม่สบอารมณ์

"ถ้าขายได้ราคาก็จะดี" เธอบอกห้วนๆ พลางพลิ้วกายออกไป ส่งสัญญาณด้วยสายตาให้คนของเธอจัดการให้

เสียงลงบันไดของหญิงวัยกลางคนไม่โสภาเสียเลย สำหรับหูของโคน่า สัญญาณอันตรายกำลังจะดังขึ้นเร็วๆนี้

"อย่าประพฤติตัวเหมือนพ่อของเธอเลย โคน่า" คนตัวใหญ่คนหนึ่งเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เขายืนพิงกรอบประตูห้องของเธออยู่

"ห้องราคาเท่าฟังทองกิโลเดียวก็ไม่มีจ่าย แนะนำให้เธอพิจารณาตัวเองใหม่"

"ไม่เข้าใจว่านายจะยุ่มย่ามอะไรกับฉันด้วยน่ะ โนบอร์" โคน่าทำท่าจะผลักประตูปิด แต่ผู้ชายตัวโต กักขฬะ ดันประตูเอาไว้ โคน่าจ้องหน้าคนที่ขวางประตู ส่วนหมอนั้นก็ทำไม่รู้ไม่ชี้

"ฉันพิจารณาคำพูดไม่เก่ง ขอฉันไปนั่งคิดสักวันสองวัน แล้วนายค่อยมาเอาคำตอบ อ้อ…ออกจากประตูด้วย" นักประดิษฐ์ดันประตูอีกครั้ง โนบอร์กลับรั้งประตูเอาไว้

"ไม่ต้องรออีกหรอก ฉันจะอธิบายคำพูดให้ฟังน่ะ ยายโง่" เขาใช้มือจิ้มหน้าผากขาวซีดของโคน่า

"ฉันสั่งให้เธอออกไป ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย" แต่โคน่าตบมือที่จิ้มหน้าผากเธอออกดังฉาด

"ไม่!" เธอตวาด "ออกไป ไม่อย่างนั้นฉันจะย่างสดแกด้วยน้ำมันจักร ไปซิ!!" โคน่าวาดนิ้ว ก่อนที่จะรีบปิดประตู แต่โนบอร์ผลักประตูกลับมา ประตูดีดอย่างแรงทำให้โคน่าต้องกระโดดหนี เจ้านักเลง ก้าวเข้ามากระชากคอเสื้อของโคน่า แล้วยึดเธอไว้กับตู้ไม้เก่าๆในห้อง

"ฉันจะเหวี่ยงแกออกไป" โนบอร์คำราม

"ก็ลองดูสิ" โคน่าท้ากลับ เธอคว้าประแจอันเขื่องที่อยู่ไม่ไกลกลับมาฟาดศรีษะของเจ้านักเลงอย่างแรง โนบอร์ถอยผละออกไป เขากุมศรีษะพลางสะบัดหัวไปมา โคน่าหลุดจากการยึด เธอกลับมายืนบนพื้นอีกครั้ง กุมหน้าอกที่ถูกกดจนปวด

ส่วนชายแปลกหน้าที่อุปโลกน์ตัวเองเป็นแขกนั่งมองดูเหตุการณ์มาก่อนตั้งแต่ต้น มองดูหญิงสาวสู้กับคนตัวใหญ่อย่างสงบ

"แหม! แรงแขนดีจริง" เทรเวนพึมพำในคอเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปหาคู่ต่อสู้ที่กำลังตีกันอย่างดุเดือด เขาเข้าไปขว้างหน้าประตูไว้เมื่ออีกหลายคนที่อยู่นอกประตูตั้งท่าจะก้าวผ่านธรณีประตูเข้ามา

"แหม ให้เกียรติแขกที่มาก่อนมั้งสิ"

"ได้ อย่างนั้นแกก็เลิกเป็นแขกซะ" ใครคนหนึ่งในนั้นก้าวออกมาข้างหน้า ฉวยมีดด้ามยาวเล่มหนึ่งออกมาจากด้านหลัง ก่อนที่จะพุ่งตัวเข้ามาหาเทรเวน ชายหนุ่มยกแขนไม้ตรงที่มีห่วงเหล็กหุ้มรับไว้อย่างแม่นยำ

"ชิ ไอ้ด้วน"

"นั่นสิ" เทรเวนยิ้มน้อยๆ "แต่ระวังจะแพ้เดชไอ้ด้วนล่ะ" เขาสะบัดแขนไม้ ปัดมือของคู่ต่อสู้ มีดในมืออีกฝ่ายถูกเหวี่ยงไปปักกับบานประตู ชายหนุ่มไม่รอช้า เขากระโดดขึ้นเหยียบไหล่ของอีกฝ่าย โหนคานประตู แล้วถีบผู้บุกรุกหน้าใหม่จนถอยรนไปข้างหลัง ล้มเอนทับอีกหลายคนที่อยู่ข้างหลัง เทรเวนหยิบมีดเปลือยปลอกของตนออกมาบ้าง พลางเดินเข้าหาผู้บุกรุก

"นายชื่ออะไร?"

"จะรู้ไปทำไม?" คู่ต่อสู้ตวาดถามด้วยโทสะ

"ฉันมีมีดน่ะ"

"ฉ…ฉันชื่อ สปาเกโต้" คนถูกขู่ตอบ เทรเวนควงมีดแล้วย่นจมูก

"แหม ชื่อเหมือน สปาเกตตี้" ชายหนุ่มผมสีน้ำมันจักรวิจารณ์

"แล้วไง!" เจ้าคนถูกว่าตวาดกลับอย่างเกรี้ยวกราด

"ฉันเกลียดสปาเกตตี้น่ะสิ" ยังไม่ทันขาดคำดี เจ้าของประโยคก็โถมกายเข้าหาชายหลายคนที่อยู่หน้าประตู ออกแรงทั้งต่อยทั้งผลัก ใช้แขนไม้ซัดเข้าทั้งองคาพยพไม่ยั้ง ก่อนจะบีบให้เจ้าพวกนั้นถอยตกบันไดไป

เสียงตกบันไดดังโครมใหญ่ ห้องใต้หลังคาสั่นไปทั้งห้อง โคน่าใช้ปลายนิ้วปาดเลือดใต้จมูกตัวเอง เธอปาดมันกับกางเกงขายาวที่ใส่อยู่

"ท่าทางแกไม่ยอมออกไปง่ายๆน่ะ โคน่า" โนบอร์กล่าว เขาไม่สนใจแผลที่ถูกประแจฟาด หลังจากสู้กัน โคน่าถูกต่อยหลายหมัด ดวงตาเธอเธอมัวไปหมด ศรีษะเหมือนหมุนตลอดเวลา

"ถ้าไม่อยากถูกประแจฟาดละก็…." โคน่าพูดกลับด้วยเสียแหบพร่าโบกประแจขู่ จ้องจะฟาดลิ้นปี่ของคู่อริให้ได้

"เออ" อีกผ่ายเงื้อหมัด "ฉันไม่ต่อยผู้หญิง แต่ฉันไม่นับแก"

"ไม่ต้องต่อยหรอก เพราะไม่มีผู้หญิงเขาเข้าใกล้แกอยู่แล้ว" โนบอร์ยกหมัดขึ้นเตรียมต่อย ขณะที่โคน่ายกประแจป้องกัน ทันที่ที่ผู้ชายตัวใหญ่กระโจนเข้ามา เขาก็ชะงักแล้วก็ล้มลงกองกับพื้น

"ท้ายทอยอ่อนจริง!" เสียงหนึ่งเปรยขึ้นอย่างผิดหวัง โคน่ามองข้ามร่างที่ล้มลง ชายแขนไม้ยืนอยู่ตรงนั้น เขาจับแขนไม้แล้วปัดมันเบาๆด้วยมืออีกข้าง โคน่ายืนตัวแข็ง เทรเวนไม่สนใจ เขาใช้ปลายเท้าสะกิดตัวของคนที่ตนติงว่าท้ายทอยอ่อน ดูว่าหมดสติไปจริงหรือไม่ โคน่าชะโงกหน้ามองข้ามไหล่ของชายหนุ่มไป พยายามกลบเกลื่อนความทึ่งกับสิ่งที่ตนได้เห็นเมื่อครู่ การจู่โจมโดยใช้หลักด้านกายวิภาค การบุกโจมตี…ที่ไม่ช้าไปกว่าสภาพไร้น้ำหนักเลย ทำไมเธอถึงได้ไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลยน่ะ

"นายจัดการพวกนั้นเองหมดเลยเรอะ" เทรเวนชายตามองโคน่าเล็กน้อยก่อนผินหลังให้

"อย่างที่เห็นนั้นล่ะ" เขาก้มลงจับขาทั้งสองข้างของชายร่างยักษ์ แล้วออกแรงลาก ร่างนั้นออกเคลื่อนไปอย่างช้าๆ

"จะให้ฉันเอาไปไว้ไหน?"

"ตามใจนายเถอะ" เทรเวนเอียงคอเล็กน้อย ก่อนที่จะลากร่างยักษ์ให้ตามตนไป ใช้ปลายเท้าเตะประตูให้เปิดอ้ากว่าเดิม ไม่นานนักโคน่าก็ได้เสียงอะไรบางอย่างที่ใหญ่เอาการกลิ้งตกบันได

เทรเวนเดินกลับเข้ามาในห้อง…

โคน่าทรุดตัวลงนั่งบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน… เธอกุมขมับ ใช้อีกมือกุมใกล้จมูกที่ถูกต่อย เทรเวนเดินผ่านเตียงแล้วขึ้นไปนั่งบนขอบหน้าต่างเงียบๆ ทั้งคู่เงียบไปพักใหญ่ ต่างกำลังจมอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง เทรเวนมองออกไปนอกหน้าต่าง โคน่านั่งจับแผลบนจมูก….

"เป็นอย่างนี้บ่อยไหม?" เทรเวนทำลายความเงียบขึ้น

"ไม่ ครั้งนี้ครั้งแรก" โคน่าตอบ ก่อนจะร้องโอดครวญเพราะจับแผลแรงเกินไป "ไม่คิดว่าเจ้าของตึกจะทำรุนแรงอย่างนี้"

"อ้อ แล้วนั้นใคร?" ชายหนุ่มซัด

"โนบอร์…คู่อริตอนเด็กๆ" โคน่าสลับยกขาเปลี่ยนท่านั่ง แต่นิ้วยังจับที่แผล "ตอนนี้ไม่นึกว่าจะมาเป็นนักเลงอยู่แถวนี้" เทรเวนมองดูเจ้าบ้านที่ตนเข้ามาอาศัย

"ใส่ยาซะ…แผลที่จมูกน่ะ" เขาเตือน ทำให้โคน่ารีบปล่อยมือออกจากจมูกแทบในทันที

"ยา…"

"เอาเถอะ ถ้าไม่อยากหยิบเอง อยู่ไหนล่ะ จะหยิบให้"

"ไม่…ไม่มีหรอก"

"หา?" เทรเวนถามเยาะๆอย่างไม่ค่อยจะเชื่อ

"ไม่มีหรอก" โคน่าย้ำ "ฉันไม่มียาอะไรทั้งสิ้น ฉันไม่เคยเป็นแผลจนต้องทายามาหลายปีแล้ว จะมีก็แค่พลาสเตอร์ไม่มีอันหรอก"

"โอ๊ย! อูรีตี้แห่งปราสาทผีเป็นพยาน ฉันมาเป็นแขกยาจกรึนี่?" เทรเวนร้อง โคน่าหน้าแดงจัด ตอนนี้ความรู้สึกของเธอกลับมาอีกครั้ง ทั้งความหงุดหงิด แค้น และเจ็บปวด เธอกระโดดลุกขึ้นยืนบนเตียงแผ่นกระดานบางๆนั้น น้ำตาเอ่อคลอมาจากความเจ็บปวดจากแผลและเจ็บใจ

"ฉันก็ไม่ได้เชิญนายมานี่!!!" เธอร้องตวาด "และไอ้การที่ฉันต้องมาเจอเรื่องอย่างนี้มันก็เพราะนายไม่ใช่เหรอ!" โคน่าจ้องหน้าหนุ่มผมสีน้ำมันจักรด้วยความขุ่นเคือง

"อ้าว" เทรเวนกระโดดลงจากขอบหน้าต่างบ้าง "พูดอย่างนี้ก็หาเรื่องน่ะสิ ใครช่วยเธอบ้างหึ? นอกจากไอ้ประแจอันนั้นน่ะ"

"แล้วใครแกล้งฉันหึ?" โคน่าสวน "ใครเอาเงินฉันไป แล้วให้ฉันต้องไปที่ร้านอาหารน่ะ ใครกัน?"

"ไม่รู้" ชายหนุ่มปฏิเสธหน้าตาเฉย "เอาเป็นว่าศัตรูของเธอมีแค่นี้ใช่ไหม? เพราะถ้ามีมากกว่านี้ เธอคงต้องหาของกินมาให้ฉันอีกเพราะตอนนี้ฉันต้องการพลังงานเพิ่มเสียแล้ว สู้กับพวกประหลาดๆทั้งนั้นเลยวันนี้ คนหนึ่งก็ตาแก่งกเงิน อีกคนก็ป้าแก่ๆที่งกห้องใต้หลังคา"

"ศัตรูฉันมีแค่เจ้าของตึก นอกนั้นของนาย"

"อืม...ปัดได้ดีเชียว อย่าไปบอกคนอื่นอีกเชียวน่ะว่าเธอไม่ถนัดเรื่องคำพูดคำจาน่ะ" ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ก่อนกระโดดลุกขึ้น ทั้งคู่เลิกเถียงกันโดยปริยาย ต่างคนต่างนั่งนิ่ง เทรเวนขึ้นไปนั่งที่ขอบหน้าต่างแล้วมองไปข้างนอกอีกครั้ง ส่วนโคน่าก็เริ่มค้นหาพลาสเตอร์ปิดแผล เธอพบอันหนึ่งในถุงเก็บตะปูควง หญิงสาวหยิบมันขึ้นมา ใช้นิ้วมือเล็กๆแต่แข็งแรงของเธอปัดฝุ่นที่เกาะหนาเตอะ แล้วแกะมันออกมาปิดแผล ก่อนกลับมานั่งที่เดิม ตอนนี้โคน่าเห็นแค่สีเทา ที่ใกล้ดำ เกือบดำ และจะเป็นดำเข้าไปทุกที...

Part. 3 >>>