|
แสงสลัวสีทองยวงเกิดขึ้นจากตะเกียงน้ำมันขนาดย่อมนับสิบดวงที่แขวนอยู่ตามขื่อไม้บนเพดานถ้ำ ยามที่สะท้อนกับผืนน้ำมันทำให้ปรากฏเป็นสีทองยวงสวยงาม สะท้อนลงไปตามเจ้าหุ่นยนต์ทั้งสิบตัว แต่ละตัวมีรูปร่างหน้าตาไม่ต่างกันนัก พวกมันสูงตัวละ 6 ฟุต 3 นิ้ว ผิวทำจากเหล็ก
ข้อต่อทำมาจากอะลูมิเนียม มีเพียงข้อต่อที่ศรีษะเท่านั้นที่ทำมาจากยาง แขนทั้งสองยื่นออกมาจากหัวไหล่ขนาดเขื่อง มือมีเพียง 3 นิ้ว ขายาวใหญ่ ส่วนหัวป้อมๆเล็กๆ มีแก้วกระจกสีน้ำเงินดวงโตอยู่กลางใบหน้า (ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตา) บนกระหม่อมเป็นสายไฟหุ้มฉนวนอย่างดีฝังกระจุกอยู่
แต่ละตัวเดินเทอะทะมายังบ่อน้ำมัน ในมือมีถังใบใหญ่ พลัดกันก้มลงตักน้ำมันในบ่ออย่างงุ่นง่าน ก่อนจะเดินเข้าไปในอุโมงค์ขนาดใหญ่ ภายในมีท่อเหล็กต่อยาวไปตามเพดาน โยงไปตามที่ต่างๆโดยท่อลอดไปตามรูที่ถูกเจาะเอาไว้เป็นทางนำท่อ เบื้องล่างมีหลุมขนาดใหญ่ เหล่าหุ่นก้าวเข้ามาและเทน้ำมันจากถังในมือลงไป
หุ่นตัวหนึ่งแบกถังน้ำมันเข้า ร่างขนาด 6 ฟุตกว่าเทถังในมือด้วยกริยาเทอะทะ ก่อนที่จะเบี่ยงทางเดินออกไปให้เพื่อนเข้ามาบ้าง แต่ยังไม่ทันที่หุ่นตัวหลังจะได้เทน้ำมัน แสงสีแดงก็ส่องประกายขึ้นพร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น มือของหุ่นทุกตัวทิ้งถัง พากันวิ่งมาที่ปากทางอุโมงค์ก่อนเปลี่ยนมือซึ่งแต่เดิมมีสามนิ้วกลายเป็นใบมีดยาวแวววับคมกริบ บางตัวก็เปลี่ยนเป็นใบเลื่อย พื้นเพดานถูกแยกออกกลายเป็นทางลาดลง หุ่นอีก 4-5 ตัวซึ่งเคลื่อนที่ด้วยล้อออกมาเพดานอุโมงค์ตามมาสบทบ พวกมันมีขนาดย่อมกว่า แต่ก็ยังดูอันตรายอยู่ดี หุ่นที่ประมวลรวม 15 ตัวมายืนรวมกันหน้าอุโมงค์ทางเข้าตามโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้ คล้ายกับจะป้องกันอะไรสักอย่าง
.
.แต่กระนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น หุ่นแต่ละตัวต่างกลอกตาไปมาอย่างระแวดระวัง หุ่นตัวหนึ่งท่าทางวางอำนาจก้าวออกมายืนข้างหน้า หน้าอกของมันเป็นสีทอง มันเดินอย่างสง่าผ่าเผยเท่าที่หลังที่ทำจากเหล็กจะทำได้ ออกมายืนอยู่หน้าหุ่นทุกตัว
ดวงตาที่ทำจากกระจกสีน้ำเงินกลอกไปมา ประมวลภาพที่เห็นเข้ามาในสมองกล กลายเป็นภาพสีน้ำเงิน มันมองไปมา ไม่มีสิ่งใดนอกเหนือโปรแกรมที่ติดตั้งเอาไว้บุกรุกเข้ามา
'ไม่-มี-สิ่ง-แปลก-ปลอม-เข้า-มา-ตาม-การ-เช็ค-โดย-สะ-กรีน-ความ-ร้อน' มันพูด ก่อนจะหันหลังไปหาเหล่าลูกน้อง ส่งกระแสคลื่นแม่เหล็กออกคำสั่งให้หุ่นยนต์ติดล้อทั้ง 5 ตัวเคลื่อนออกมาหน้ากลุ่ม
'หุ่น-ลาด-ตระ-เวน-หา-สิ่ง-แปลก-ปลอม- - -ปะ-ฏิ-บัติ-งาน' เจ้าหุ่นหน้าอกทองออกคำสั่ง ก่อนร่างหุ่นเคลื่อนที่ 5 ตัวจะเคลื่อนที่โดยล้อออกไปข้างหน้าช้าๆ แยกย้ายออกไปเป็น 5 ทาง
เจ้าหุ่นหัวหน้าก็หันหลังไปหาหุ่นที่หน้าตาคล้ายคลึงกับตนอีก 9 ตัว
'หมาย-เลข -F-0-0-2 - ถึง - F-0-1-0-ออก-ลาด-ตระ-เวน-พบ-สิ่ง-แปลก-ปลอม-อะ-นุ-ญาต-ให้-กำ-จัด-รับ-ทราบ-ปะ-ฏิ-บัติ' ว่าจบหุ่นร่างยักษ์ 7 ตัว ที่มีอาวุธครบมือก็ย่างเดินออกไปด้วยท่าทีเงอะงะ เสียงใบเลื่อยและใบมีดครูดกับผนังหินจนเกิดประกายไฟ ทุกครั้งที่ท่อนเหล็กช่วงขาลงกระทบพื้น ก็เล่นเอาพื้นสั่นไปทุกครั้ง
เจ้าหุ่นทุกตัวเริ่มออกลาดตระเวนตามคำสั่งหาสาเหตุของสิ่งที่ทำให้สัญญาณเตือนภัยดังให้จงได้ ทั้งร่างใหญ่ร่างเล็กต่างเดินให้วุ่นไปหมด!
"ฟู่! บรึม!!!"
'adj[erjg;dfb สิ่ง-แปลก-ปลอม-โจม-ตี-ผิด- - - '
"บรึม!!!" เสียงระเบิดตูมของหุ่นยนต์หมายเลข F004 จากด้านหนึ่งของบ่อน้ำมัน เศษเหล็ก รวมทั้งเขม่าขี้เถ้าฝุ่นต่างปลิวกันว่อน
"ไปเลย!!!" สิ้นเสียงร้องของเทรเวน สองร่างของมนุษย์ก็โจนพรวดออกจากที่ซ่อน ก่อนไฟจะติดลุกลามไปบนบ่อน้ำมันอย่างรวดเร็ว เปลวเพลิงพุ่งสูงเพราะได้เชื้อไฟชั้นเยี่ยม ร่างของ F004 ซึ่งเหลือร่างตั้งแต่สะโพกลงไปล้มตึงลงกับพื้น ควันสีดำลอยโขมง หุ่นสิบกว่าตัวที่เหลือหันขวับพุ่งจอโฟกัสมายังแหล่งเกิดความร้อนแทบทันที
ทันทีที่เจ้าหุ่นยนต์หน้าอกทองพบเซ็นเซอร์สิ่งแปลกปลอม ก็พุ่งพรวดเข้ามาด้วยขาใหญ่ๆของมัน แต่ก็เคลื่อนที่ได้เร็วจนน่าเหลือเชื่อ หุ่นลาดตระเวนติดล้อ 5 ตัวพุ่งทะยานเข้ามาด้วยล้อคู่ชีพ ร่างของมันพุ่งลงพื้นอย่างรุนแรง พื้นสะเทือน ฝุ่นฟุ้งโขมง ก่อนเปลี่ยนมือของตัวเองเป็นปืนกลตั้งขึ้นเตรียมยิง
โคน่าใส่ท่อนเหล็กเอาไว้เต็มกระเป๋าเสื้อ เธอหยิบท่อนหนึ่งเหวี่ยงใส่เซ็นเซอร์ของหุ่นยนต์ ร่างของมันผละหงาย จอมอนิเตอร์กระจกต่างตาแตกพร้อมๆกับกระแสไฟลัดวงจรที่แล่นไปทั่วร่างเหล็กนั้น หุ่นเหล็กติดล้อตัวแรกล้มลง กระนั้นหุ่นติดล้ออีก 4 ตัวก็ยิงปืนกลในมือ
เทรเวนกระโดดเข้ามาเบื้องหน้าหุ่นเหล่านั้นด้วยแผ่นเหล็กหนาของช่างเชื่อม เป้าหมายที่เดิมเล็งไปยังโคน่าถูกเบนมายังคนแขนไม้ทันที
กระสุนนับสิบนัดจากหุ่นลาดตระเวนติดล้อทั้ง 4 ตัวเล็งยิงไปที่เทรเวนทั้งหมด ไม่มีตัวไหนสนใจหญิงสาว ชายหนุ่มทรุดเพราะแรงยิง กระสุนกระเด็นออกเมื่อเจอกับแผ่นเหล็กหนา เกิดประกายไฟวูบวาบ
เทรเวนลุกขึ้นตั้งตัวอีกครั้ง ก่อนที่จะออกแรงวิ่งฝ่าวิถีกระสุนตรงเข้าไปหา เขากระชับมีดบุโรทังที่เผอิญเจอในมือแน่น ทันทีที่ได้จังหวะคนผมสีน้ำมันจักรก็เหวี่ยงมีดจัดการกลุ่มเหล็กตรงหน้าทันที
"ฉัวะ!!!" เสียงมือถือปืนกลขาดจากท่อนแขน หุ่นรบติดล้อตัวแรกล้มตึงลงกับพื้นพร้อมกับกระแสไฟลัดวงจร ตัวอื่นเริ่มยิงเป้าหมายหนักข้อขึ้น เทรเวนรวบรวมแรงทั้งหมดพุ่งเข้าหาร่างเหล็กที่อยู่ใกล้ที่สุดและ
"ฉัวะ!! เช้งๆ!!!"
'เป้า-หมาย-หนี- - -' หุ่นติดล้ออีกสองตัวล้มลงด้วยสภาพแขนขาด ทันทีที่ร่างกระทบพื้น ส่วนสะโพกก็ขาดออกจากกัน เทรเวนพุ่งเข้าหาหุ่นปืนกล 2 ตัวที่เหลืออยู่ เขาจะต้องจัดการหุ่นรบระยะไกลตัวย่อมให้หมดทันท่วงที เพราะเขาไม่คิดว่าจะสามารถสู้กับพวกตัวเขื่อง 6 ฟุตได้โดยมีภาระอีกหนึ่งคน ซึ่งเขามีความจำเป็น
จำเป็นอย่างมากที่จะต้องทำให้เธอรอดชีวิต เทรเวนฟันแสกหน้าและฟาดมีดใส่ส่วนอกของหุ่นอีก 2 ตัว จนร่างขาดออกจากกันทั้งคู่
เสียงมีดยาวต่างมือของหุ่นยนต์พันธ์ยักษ์ที่เหลืออีกเกือบสิบตัวครูดกับกำแพงขณะเดินเข้ามา พื้นสะเทือนเพราะแรงเดินของพวกมัน โคน่าวิ่งเข้าไปยืนอยู่ข้างร่างของชายหนุ่ม ใบหน้าของเธอเปียกแฉะไปด้วยเหงื่อ ผสมกับคราบน้ำมันที่ติดใบหน้า เทรเวนลดแขนไม้ที่เกี่ยวแผ่นเหล็กลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในท่าเตรียมโจมตี เขาเหลือบสายตามองคู่หูจำเป็น
"ท่อนเหล็กนั้นน่ะ
" เขาหอบ "ขว้างแม่นจังนะ พูดจริงๆ" โคน่าโคลงศรีษะ แขนเธอแรงเยอะเสียจนเรียกว่าแข็งแรงมากก็ว่าได้ แม้ว่าตัวเธอจะติดอันดับว่าเล็ก แต่แขนที่แข็งแรงคือสมบัติของนักประดิษฐ์ที่ดี
"ฝึกยังไงกัน?"
"ไม่ยากหรอก
" โคน่าหลิ่วตา "นายก็ลองเล่นมาตรวัดน้ำต่างที่ปาเป้าทุกวันแล้วนายจะปามีดแม่นเองนั้นแหละ"
ร่างหุ่นยนต์สูงหกฟุตได้ลากสังขารเทอะทะหุ้มเหล็กเข้ามาใกล้ทุกที มันตั้งอาวุธต่างมือของมันขึ้นพร้อมกับฟาดลงที่ผนังหิน ฝุ่นปลิวกระจายไปทั่ว ทั้งโคน่าและเทรเวน ต่างฝ่ายต่างกระโดดหลบ โคน่ากำจัดเหล็กในกระเป๋าโดยการเหวี่ยงมันออกไปอีกสองสามท่อนใส่เซ็นเซอร์บนหัวของหุ่นยนต์
หุ่นผงะถอยหลังเพราะโดยทำร้าย แต่ก็มันก็กลับมายืนได้ใหม่ทั้งที่เซ็นเซอร์พังและมองดูว่าท่าทางจะบ้าดีเดือดกว่าเดิมเสียอีก มันลงมือทำลายล้างทุกอย่างอยู่ในรัศมีมือเอื้อมถึง ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกัน ไฟยังคงโหมรุนแรงเข้ามาทุกที หุ่นบางตัวที่อยู่ใกล้ไฟเกินไปก็ถูกไฟโหมไหม้ไปโดยปริยาย ส่วนมนุษย์สองคนก็ร้อนอบอ้าวจนเกือบไม่มีอากาศหายใจ เทรเวนลงมือจัดการพวกหุ่นอย่างไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย โคน่าเหวี่ยงท่อนเหล็กในกระเป๋าใส่หุ่นอีก 2-3 ตัวแล้ววิ่งตรงไปยังอุโมงค์
หุ่นยนต์สีทองยืนขวางทางปากอุโมงค์อยู่ราวกับเป็นผู้ดูแล(อันที่จริงก็เป็นนั้นแหละ) หุ่นตัวนี้ดูไม่ง่ายเสียด้วย โคน่าเลือกที่จะถอยห่างออกมาก่อน เพราะยังไงเธอสู้ไม่ได้อยู่แล้ว แต่ท่าทางหุ่นยนต์หัวหน้าตัวนี้จะไม่ได้คิดอย่างเธอ มันตั้งเลื่อยไฟฟ้าที่ส่งเสียงดังน่าสยองขวัญและย่างสามขุมเข้ามาหาเธอ หญิงสาวถอยหลังหนี ก่อนจะเหวี่ยงท่อนเหล็กใส่ร่างตรงหน้า แต่ร่างหุ่นก็ไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ซ้ำยังยื่นเลื่อยมาตั้งท่าจะหั่นเธอเสียอีก
เมื่อหญิงสาวเห็นว่าการใดๆก็ไม่ได้ผล เธอหันไปเทเศษเหล็กในกระเป๋าทิ้งทันทีเพื่อไม่ให้มันเป็นภาระ แล้วหันหลังหนีทันที แต่หุ่นหกฟุตไม่ยอมเลิกรา ยังตามหลังตัวเธอมาติดๆ มันยกเลื่อยฟาดลงมายังร่างของนักประดิษฐ์เฉียดไปเพียงนิดเดียว หลังเสื้อโค้ทขาดกระจุย
.
ร่างของคนแขนไม้พุ่งพรวดเข้ามาพร้อมกับแผ่นเหล็ก เขาเสียบมีดอย่างรุนแรงเข้าไปที่ช่องว่างของแผ่นเหล็กที่ร่างหุ่น หุ่นยนต์ยักษ์สะบัดร่างอย่างรุนแรง มันฟาดเลื่อยสะเปะสะปะเกือบจะกุดเอาหัวเทรเวนออกไป คนแขนไม้ฝั่งมีดเก่าๆในมือลงในช่องว่างที่ต้นคอหุ่นจนมิดด้าม
โคน่ายืนมองอยู่ไม่ไกลนัก เธอกระชากปืนกลจากซากหุ่นที่นอนแผ่อยู่บนพื้น เทรเวนไม่มีอาวุธ และเธอปล่อยให้เขาตายไม่ได้เช่นกันเพราะ เทรเวนตาย = โคน่า(ก็)ออกไปไม่ได้ เป็นเหตุผลพื้นๆที่มีรากฐานมาจากจรรณยาบรรณโดยแท้
นักประดิษฐ์ฉวยปืนขึ้นมาถือ มีลูกกระสุนรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่อย่างน้อยก็มีอาวุธในมือแหละน้า
"เทรเวน!!!" นักประดิษฐ์ตะโกนเรียกร่างที่เพิ่งกระโดดลงมาจากเจ้าตัวหุ่นยนต์ คนผมสีน้ำมันจักรหันไปหา ปืนกลก็ลอยละลิวเข้ามา ชายหนุ่มรับมันมาไว้ในมือ แล้วยิงกราดใส่หุ่นเหล็กตรงหน้าไม่ยั้ง โคน่าถอนใจด้วยความโล่งอกที่ปืนยังมีกระสุน
เจ้าหุ่นยักษ์ยืนโงนเงนอยู่ไม่นานก็ล้มลง ควันฟุ้งออกมา เครื่องกลข้างในคงไหม้ มันนอนคว่ำแผ่อยู่บนพื้น เทรเวนซึ่งยืนอยู่ข้างๆก็มีสภาพไม่ต่างกัน เขามองสำรวจจนแน่ใจว่ามันจะไม่ลุกขึ้นมา ก่อนจะกวักมือเรียกนักประดิษฐ์
"มันตายแล้วแน่นะ" โคน่าเดินเข้าไปอย่างไม่แน่ใจนัก ก้มดูร่างที่นอนแผ่หราห่างออกไป 3 เมตร
"ไม่รู้" เทรเวนส่ายหน้า "ช่างมันเถอะ พวกเราไปกันดีกว่า ต้องสู้กับใครอีกสักตัวฉันตายแน่" ว่าแล้วคนแขนไม้ก็วิ่งนำหน้ามุ่งเข้าไปในอุโมงค์
คนแขนไม้มองสำรวจไปตามอุโมงค์อย่างถี่ถ้วน ก่อนที่จะกระโดดเหยียบขอบบ่อน้ำมัน ทรงตัวขึ้นไปยังท่อเหล็กนั้น เขาใช้แขนโหนมันไปแล้วดีดตัวเข้าไปในช่องที่เจาะเอาไว้ให้กับท่อน้ำมัน เทรเวนหายไปสักครู่แล้วโผล่หัวกลับมา
"ขึ้นมาเลย" เขาบอก นักประดิษฐ์ก็เลยลงมือปีนที่ขอบบ่อน้ำมัน แต่ว่าเป็นไปไม่ได้เสียเลยที่จะสามารถดีดตัวอย่างว่องไวแบบเทรเวน
"ปีนขึ้นมาสิ!"
"ไหวที่ไหนเล่า!"
ร่างที่เคยล้มลงของหุ่นยนต์ เคลื่อนไหวอีกครั้ง มือของมันค่อยๆขยับ เลื่อยไฟฟ้าในมือทำงานอีกครั้ง มันยันตัวขึ้นจากพื้นด้วยความยากลำบากอย่างช้าๆ มือโตๆของมันกุมหัวพลางบิดส่ายไปมา
'เป้า-หมาย-อยู่-ใน-อุ-โมงค์- - - ' เสียงดังออกจากปากโปรแกรมที่ยังใช้การได้ กระแสไฟแล่นปลาบไปทั่วร่าง มันลุกขึ้นยืน เดินย่างสามขุมเข้าไปในอุโมงค์
"เฮ้อ" เทรเวนถอนใจ "อะไรกันเนี่ย เอาเถอะ ส่งมือมาฉันจะช่วย
." เทรเวนหยุดไปสักครู่ ดวงตามองข้ามศรีษะของหญิงสาวไป เขาเบิกตากว้าง
"มาเร็ว!" คนแขนไม้ร้องด้วยสุ่มเสียงตื่นตระหนกเต็มที่ เขาฉุดแขนหญิงสาวตรงหน้าเต็มแรง ร่างทั้งคู่กระเด็นเข้าไปในทางท่อ พร้อมๆกับเสียงเลื่อยไฟฟ้าที่ฟาดเต็มแรงลงที่ท่อน้ำมัน ร่างของทั้งคู่นอนแผ่หราอยู่บนพื้น แต่ต่างคนก็รีบถอยรนแทบจะในทันที เมื่อภาพเลื่อยไฟฟ้าส่องประกายเสียบเข้ามาใกล้โคน่าหดขาอย่างรวดเร็ว เลื่อยจึงเพียงแต่คว้านเอาได้แต่ชายเสื้อเธอไปได้เท่านั้น
คนแขนไม้กระโดดลุกพรวด โคน่ายันตัวเองกับท่อส่งน้ำมัน ต่างคนต่างวิ่งออกไปตามทางท่อส่งอย่างรวดเร็ว โดยไม่แม้จะเหลียวหันมามองข้างหลังเลย
หลังจากวิ่งมาได้ระยะใหญ่ ไม่มีเลื่อยตามมาอีก ทั้งคนแขนไม้และนักประดิษฐ์ก็เปลี่ยนเป็นท่าเดิน ทั้งคู่เดินไปตามช่องเล็กๆนั้นที่ดูเหมือนว่ามันจะยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
"จะไปโผล่ที่ไหนล่ะเนี่ย" โคน่าเปรยขึ้นลอยๆ พลางใช้มือเคาะตามผนัง เผื่อว่าจะมีประตูกลบ้างล่ะน้า
เทรเวนไม่ได้ติดใจตอบคำถาม แต่ก็รับรู้อยู่ในหัว มันต้องมีทางออกไปจากแถวนี้ ในเมื่อมีท่อเจาะไปตามที่ต่างๆ ทั้งสองไม่ได้พูดอะไรอีกหลังจากประโยคนั้น ไม่พูดประโยคอมตะที่รู้อยู่เต็มอก
เหนื่อย
หิว
เวลาเท่าไรแล้ว?
ทั้งสองไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานสักเท่าไร รู้เพียงแต่ว่าน่าจะผ่านไปนานเอาการ พวกเขาทั้งคู่คงไม่ได้ออกไปจากที่นี่จริงๆ ตามตำนานของศาลากลางเมเปิ้ล
โคน่าเป็นฝ่ายทรุดตัวนั่งก่อน เธอไม่อยากทำตัวเป็นตัวถ่วงแต่
"พักก่อนได้ไหม?" เธอถามขึ้น เทรเวนหันกลับมา ท่าทางของเขาก็บอกบุญไม่รับเช่นกัน
"เออ
" คนแขนไม้พูดเพียงเท่านั้น "ก็ดี" พูดจบเขาก็ลงนั่งบ้างโดยไม่พูดอะไรต่อ
"กี่โมงแล้ว?" นักประดิษฐ์พลั้งปากถามคำถามจนได้
"ฉันง่วงนอน" เทรเวนตอบแบบสามวาสองศอก แล้วก็เอนตัวลงนอนพิงผนัง
"ฉันหิว
" โคน่าเริ่มบ่น เทรเวนมองนักประดิษฐ์อย่างเห็นด้วย "เสบียงก็ทิ้งไปหมด ในบ่อน้ำมัน!"
"
."
"
" ทั้งคู่นิ่งไปพร้อมกัน โคน่ากำลังสำคัญตัวเองว่าพูดผิด ส่วนเทรเวน
กำลังทำสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน เขารู้สึกผิด เขารู้สึกถึงความรับชอบกับภาระ คนที่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับเขาเลย แต่เขารู้สึกมีความกดดันที่จะต้องนำตัวเธอออกไปให้ได้
เทรเวนล้วงนาฬิกาแบบเปิดจากกระเป๋า เขาคิดจะดูมันเสียหน่อยแต่นาฬิกาไม่เดิน ชายหนุ่มเคาะมันอย่างหัวเสีย และเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรดีขึ้นจึงเก็บมันใส่กระเป๋าเอาไว้ตามเดิม
"มันเสีย
ฉันก็ไม่รู้เวลาเหมือนกัน" เทรเวนเอนตัวติดผนัง "ภาพพ่อของเธอก็หายไปด้วยใช่ไหม?"
"เครื่องมือทุกอย่าง
แต่ไม่สำคัญเท่าภาพของพ่อหรอก"
"อืม" เทรเวนก้มหน้า "เรื่องภาพของพ่อเธอถ้ามีโอกาสฉันจะหามาคืนให้" เขาบอก นักประดิษฐ์ส่ายหน้า "ฉันไม่มีรูปของพ่อให้เป็นแบบหรอก แล้วพ่อฉันก็ไม่ใช่คนดังที่ใครๆรู้จักหน้า เพราะฉะนั้นมันไม่มีประโยชน์เลย"
"งั้นหรือ?
" เทรเวนพึมพำ "ว่าแต่พ่อเธอเป็นใครกันน่ะ?" นักประดิษฐ์มองพื้น ก่อนเงยหน้ามองเพดาน
"เป็นนักประดิษฐ์เหมือนฉัน
" เธอกลืนน้ำลาย "ชื่อโคเปีย โอรีอา"
"โคเปีย โอรีอา!"
"ทำไม?"
"เปล่าๆ ชื่อมันคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยิน" คนแขนไม้ตบใบหูตัวเองเบาๆ ชื่อคุ้นๆ เหมือนเคยได้ยิน เขาเคยได้ยินมาจากไหนน่ะ? ชื่อโคเปีย โอรีอา
"แล้วแม่เธอล่ะ?" โคน่าหน้าตึงขึ้นมาทันที
"ฉันไม่มีแม่
เคยมี
แต่แม่หายไปนานแล้ว ตั้งแต่ฉันยังจำความไม่ได้
" หญิงสาวเว้นวรรค "แม่ไม่รักฉัน! และฉันก็อยู่ได้โดยไม่มีแม่ เราต่างคนต่างอยู่ดีแล้วล่ะ"
"แล้วรู้หรือว่าแม่เธออยู่ไหน?"
"ไม่รู้ ไม่คิดหาด้วย!" โคน่าหันไปมองเทรเวนบ้าง
"แล้วนายล่ะ? เป็นใครมาจากไหน? อยู่คนเดียวตลอดเลยรึไง? นายมีแม่บ้างหรือเปล่า?" คนผมสีน้ำมันจักรเงียบบ้าง เขาล้มตัวลงนอนตะแคง
"มีซิ!" เขาตอบ "แต่ก็เหมือนเธอ
มีเหมือนไม่มี
" จู่ๆ เทรเวนก็เปลี่ยนเรื่อง "เอาล่ะๆ ฉันง่วงแล้ว หิวด้วย ขอฉันนอนหน่อย อย่าปลุกฉันจนกว่าจะมีของกินให้นะ อย่างน้อยพักผ่อนก็ยังดีกว่าต้องเดินไปเรื่อยไม่มีจุดหมายหลังจากสู้กับไอ้หุ่นงี่เง่าพวกนั้น ฉันจะนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์" ว่าแล้วชายหนุ่มก็หนุนแขนไม้และหลับตา
ฝ่ายโคน่ายังงุนงงเล็กน้อยในการเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน เธอส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนที่จะพิงหลังตัวเองลงหันผนังบ้าง การได้นั่งพักเหนื่อยหน่อยก็ดีเหมือนกัน
โคน่าคิด เธอคิดว่าจะนั่งพักสักหน่อย แต่ทันทีที่เธอเอนตัวลงไป เพียงชั่วครู่เธอก็หลับไป
โคน่าตื่นขึ้นเพราะแขนไม้ของเทรเวนที่มาสะกิดที่หัวไหล่ หญิงสาวขยี้ตาอย่างงัวเงีย เธอปัดผมที่ปรกไปเต็มใบหน้าให้ละออกไป ก่อนหันไปทางชายหนุ่ม เพยิดหน้าราวกับถามว่า 'มีอะไร?'
"เดินทางต่อ" เทรเวนพูดด้วยประโยคคำสั่ง น้ำเสียงแนะนำ "นาฬิกาเพิ่งเดินเมื่อกี้ มันบอกฉันว่าตอนนี้จะตี 4 แล้ว เราเหลือเวลาอีกไม่นานจะรุ่งเช้า เราน่าจะหาทางออกไปจากที่นี้เสียก่อน"
"ก็ดี" โคน่าขี้เกียจเถียง "เผื่อว่าเราจะได้เจอคุณมอริส อย่างน้อยจะได้แน่ใจว่าเราจะไม่ตาย"
"เออ! มันก็ไม่แน่นักหรอก" เทรเวนพูดด้วยน้ำเสียงประชด "มอริสๆๆๆ ช่วยเลิกพูดถึงเขาระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันไม่ได้หรือยังไงนะ? ฉันไม่ค่อยได้ขอร้องใครนะ แต่ช่วยหลีกเลี่ยงหน่อย ไม่ขอเปลี่ยนความคิดเธอที่มีต่อเขานะ แต่จะบอกให้ว่าฉันได้กลิ่นตุๆของเจ้าหมอนี่ ฉันไม่ชอบหน้ามัน โอเคๆไหม!"
"ได้" โคน่าคำราม "ฉันจะไม่พูดถึง นายก็อย่าสบประมาทเขาให้ฉันได้ยินอีก นายไม่ชอบเขา แต่ฉันชอบ!!!"
"ใช่ๆ" เทรเวนประชด "เธอชอบเขา คุณโอบาคอน ชอบคนแก่"
"หุบปากนะ"
"ตกลงๆ ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว เรามีผลประโยชน์ร่วมกันนี่นา"
"และเราก็ไม่ใช่พวกเดียวกันด้วย!" โคน่าเสริม คนแขนไม้ยักไหล่
"รู้แล้วๆ อย่างเดียวที่ฉันจะขอจากเธอคืออย่าเปิดโปงฉันหลังเสร็จงานก็แล้วกัน"
"ฉันไม่สนใจเรื่องจุกจิกที่ไม่เป็นประโยชน์พรรณนั้นหรอก! ไปได้หรือยัง?" เทรเวนไม่พูดอะไร เขาออกเดินนำหน้า โคน่าเดินตาม
เราไม่ใช่พวกเดียวกัน
เธอบอกตัวเอง
แค่ไปทางเดียวกันเท่านั้นเอง
ทั้งสองเดินมาถึงที่ที่มีท่อแยกเป็นสามทาง เทรเวนแหงนมองท่อที่แยกขึ้นไปด้านบน
มีทางขึ้นไปด้านนั้นต่อ
เขาสะกิดโคน่า
"โน้น" เขาชี้ นักประดิษฐ์มองตาม
"ใครปีนก่อน?" ชายหนุ่มเบนนิ้วโป้งมาทางตัวเอง
"ฉัน"
"แล้วฉันจะตามนายขึ้นไป" คนแขนไม้ถอดโค้ทดำออก เขาพันตัวเองและท่อเหล็กเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะค่อยๆปีนขึ้นไปบนท่อเหล็ก เสียงดังเท้ากระทบเหล็กดังเป็นระยะ โคน่าเงี่ยหูฟังสักครู่แล้วจึงถอดโค้ทแดงออกบ้าง แล้วตามขึ้นไป ทั้งคู่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่หาเรื่องกันระหว่างที่อยู่ด้วยกัน
ท่อเหล็กที่ตั้งขึ้นไปข้างมีขนาดใหญ่ราวแขนโอบไม่ถึง มีสีเหล็กสนิม มันคงโดนความชื้นเสียจนขึ้นสนิมไปหมด ทางที่เทรเวนเป็นคนปีนขึ้นไปก่อนดูเหมือนว่าจะดำสนิท เป็นความมืดของคืนที่ราตรีไม่มีดาว ปลายรองเท้าของชายหนุ่มและเสียงปีนเท่านั้นที่เป็นเครื่องยืนยันความมีชีวิตอยู่สำหรับหญิงสาว
โคน่าไม่ใคร่อยากบ่นให้ใครฟัง แม้แต่ตัวเองก็ไม่อยากยอมรับ ว่าเธอแทบไม่มีแรงอีกแล้ว ทุกครั้งที่ออกแรงปีน เธอกลัวว่าตัวจะหมดแรงแล้วตกลงไปได้ทุกครา ทั้งขาและแขนสั่นระริก การหมกตัวอยู่แต่ในห้องกับพ่อสร้างความสามารถทางการประดิษฐ์ให้เธออย่างยิ่งยวด แต่ก็กลายเป็นศรร้ายกลับมาทำร้ายตัวเธอเองอีกด้วย
"เฮ้! ยังอยู่รึเปล่า?" เสียงเทรเวนร้องลงมาจากด้านบน เสียงของเขาก้องขึ้นไปทั้งล่างและบน
"อยู่" โคน่าครางอ่อยๆ มือรัดท่อแน่น
"ฉันเจอแสงสว่างแล้ว ท่อมันวางผ่านตะแกรงอยู่ข้างบน"
"ข้างในท่าทางจะเป็นห้อง" โคน่าคะเน เทรเวนเอียงศรีษะมอง
"น่าจะใช่" คนแขนไม้ว่า แล้วก็ปีนขึ้นอีก
"เดี๋ยวก่อน" โคน่าท้วง "ถ้าในห้องมีคน หรือแบบ
ที่เราเจอก่อนหน้านี้จะทำยังไงล่ะ?" คนผมสีน้ำมันจักรหยุดปีน
"เธอต้องหัดเสี่ยงบ้าง" เขาตอบ "ฉันอยู่กับความเสี่ยงมาตลอด ไม่เหมือนกับเธอหรอกนะที่อยู่กับตัวเลขและเปอร์เซ็นความถูกต้อง"
"ความน่าจะเป็น" โคน่าโต้ขึ้นบ้าง "มาจับคู่กันดีกว่า ว่าถ้าเราถูกจับเราจะหนียังไง นายเตรียมทางหนีไว้รึยัง?"
"ทางหนีรึ?" คนแขนไม้ทวน "เธอละเตรียมไว้รึเปล่า?" โคน่ายักไหล่
"ต้องสารภาพว่า
ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ระหว่างที่ปีนตามนายขึ้นมาเนี่ยแหละ และตอนนี้ฉันก็นึกทางหนีได้แล้วเหมือนกัน"
"งั้นก็ดี" เทรเวนปีนขึ้นไปตามท่ออีกเล็กน้อย "ฉันเตรียมทางหนีไว้วิธีหนึ่ง ถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็แผ่นด้วยวิธีตัวเองก็แล้วกัน ไปเจอกันที่ฐานด้านล่างล่ะ"
"เออ"
เทรเวนเริ่มปีนขึ้นไปตามท่อเหล็กอีกครั้งหลังจากหยุดไปสักครู่ ร่างของเขาใกล้ตะแกรงข้างบนเข้าไปทุกที จนกระทั้งเขาเข้าไปถึง ชายหนุ่มมองรอดตะแกรงไปอย่างระมัดระวัง ข้างบนเป็นห้องอย่างที่โคน่าบอกไว้ มองเห็นเพียงแสงสว่าง เพดานสีอ่อน กับฐานโต๊ะอีก 2-3 เท่านั้น ไม่มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนที่ให้เห็น ไม่มีเสียง ไม่มีกลิ่น ไม่มีวี่แววของการมีตัวตน แต่ก็ประมาทไม่ได้
ชายหนุ่มใช้มือค่อยๆเปิดตะแกรงอย่างระมัดระวัง นุ่มนวลแผ่นเบาที่สุด หากมีการถูกพบเห็น เขาพร้อมที่จะหนีได้ทุกเมื่อ
ตะแกรงสีดำสนิท เห็นได้ว่าได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มันถูกวางเอาไว้เฉยๆปิดทางเอาไว้ เทรเวนค่อยๆดันตะแกรงขึ้น มันเคลื่อนออกไปในเวลาไม่นานนัก ชายหนุ่มเลื่อนมันวางไว้ข้างๆ พร้อมกับโผล่ขึ้นไปสำรวจภายใน
แขนสองข้างของเทรเวนดันลำตัวเอาไว้ ร่างของเขาโผล่ขึ้นเหนือช่อง
ชายหนุ่มมองสอดส่องไปมา
ว่างเปล่า
สายตามองเห็นเพียงแต่ห้องขนาดย่อม ที่สร้างขึ้นอย่างมิดชิด มีกลิ่นอับของฝุ่น สีผนังเป็นสีไม้แท้ ส่วนภายในห้อง เต็มไปด้วยตู้และแท่นตั้งวางของมากมาย
เทรเวนค่อยๆยกตัวขึ้นจากช่องนั้น เท้าของชายหนุ่มค่อยๆก้าวเดินไปทั่ว ภายในห้องมีแต่ของแปลกตาหลายอย่าง คนแขนไม้จ้องมองไปทั่วสักครู่ ก่อนหันไปทางช่องทางมา
"ขึ้นมาได้แล้ว" โคน่าปีนขึ้นมาบ้าง เธอเท้าแขนเอาไว้ที่ขอบ และดันตัวเองขึ้น ภาพเบื้องหน้าสร้างความแปลกใจให้กับโคน่าไม่แพ้เทรเวน เธอก้มลงปัดสนิมที่หัวเข่า
"ยังกับห้องนิทรรศการ!" เทรเวนเดินไปมาทั่วห้อง เขามองตู้โชว์และแท่นโชว์มากมาย ในตู้มีของแปลกๆใส่ไว้ การจัดห้องมีลักษณะเป็นรูปวงกลม ล้อมรอบแท่นสีขาวขนาดใหญ่ที่หนึ่งตรงกลาง มันมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ด้านบนครอบกระจกเอาไว้ ภายในเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดย่อม คล้ายกับเป็นที่ใส่ของซึ่งว่างเปล่าอยู่ หน้าแท่นมีป้ายสีทองติดไว้
"หมอกขาว
" โคน่าซึ่งเพิ่งเดินมาใหม่อ่านขึ้น เธอเหลียวไปมองชายหนุ่มข้างๆที่มีทีท่าแปลกไป เขาเบิกตาโพล่ง มองดูตื่นเต้นเสียเต็มประดาก่อนจะแปรเป็นท่าทางหงุดหงิด เหมือนกับเห็นขุมทรัพย์ที่มลายหายไปกับตา
เทรเวนไม่พูดอะไร เขาเดินไปรอบห้อง ก่อนที่จะไปหยุดที่แผ่นที่ติดผนัง ชายหนุ่มยิ้ม แล้วหันมาทางหญิงสาว
"ที่นี่คือกลางศาลากลาง ที่ที่ฉันต้องการมา บังเอิญดีชะมัด"
"!!!" โคน่าหน้าตึง เธอวิ่งพรวดเข้ามา แผ่นที่บอกอย่างที่เทรเวนพูดไว้ไม่มีผิด
"นายต้องการอะไร?" เธอถาม
"ทำไม?" เทรเวนถามอย่างยียวน "เธอจะขวางฉันเหรอ?"
"ใช่! ทำแน่ ฉันอยู่ข้าง เออ
เอาเป็นว่าฉันไม่ได้อยู่ข้างนายก็แล้วกัน" เทรเวนไม่ได้สนใจกับคำพูดของนักประดิษฐ์ เขาออกเดินออกไป ลงมือค้นสิ่งของในตู้ แม้ว่าบ้างตู้จะล็อค เขาก็ใช้เครื่องมือสะเดาะกระเทาะออกหมด ชายหนุ่มเริ่มรื้อค้นของภายในตู้โชว์ สังเกตแท่นวางของ เขามองทุกอย่างด้วยความเอาจริงเอาจัง
โคน่าไม่สามารถขวางการรื้อค้นได้เลย เธอรู้ตัวว่าเข้าไปซี้ซั่วสักแต่จะไม่เป็นประโยชน์ เธอมีโอกาสเดียวคือการขวางคนแขนไม้ขณะที่เขาหยิบของที่เขาต้องการออกมา
ชายหนุ่มไม่มีท่าทีกังวลในอุปสรรคชุดแดงเลย เขาลงมือหาของต่อไป เขาหยิบของทีละอย่างออกมาอย่างระมัดระวัง ราวกับเป็นจอมโจรมืออาชีพ แล้วมือของชายหนุ่มก็ไปสัมผัสกับของชิ้นหนึ่ง เย็นชืด
คนผมสีน้ำมันจักรค่อยๆหยิบมันออกมา
สิ่งที่อยู่ในมือของเขาคือแขนเทียมข้างหนึ่ง มันเป็นแขนเทียมตั้งแต่ข้อศอกลงมาถึงมือ ทำจากเหล็ก เป็นเหล็กผสมอย่างดี
ทนทานราวกับดาบนักรบ แต่เบาไม่เทอะทะ เทรเวนลูบมันอย่างถนุถนอม ในที่สุดเขาก็ได้พบ แขนเหล็กมาอยู่ในมือของเขาแล้ว ต่อไป
เขาจะได้ไม่ต้องใช้แขนไม้ไร้ประโยชน์อีกต่อไป
ขณะที่เขากำลังสำรวจแขนเหล็กอยู่นั้น สายตาก็ไปปะทะกับสิ่งหนึ่ง รอยอักษรบนแผ่นทองเหลืองเล็กๆบนท่อนแขนเหล็ก
"โคเปีย
โอรีอา
ประดิษฐ์" โคน่ามองคนเบื้องหน้าด้วยความตกใจ คนแขนไม้หันมามองเธอและเดินเข้าไปหา
"โคเปีย โอรีอา
พ่อของเธอ?" โคน่าผงะถอย
"พ่อ
พ่อเป็นคนสร้าง" เธอพยายามยืนให้นิ่ง "ฉันยิ่งให้นายไม่ได้!" ว่าแล้วร่างเล็กๆของนักประดิษฐ์ก็โถมเข้าหาร่างสูง เธอจับแขนเหล็กในมือชายหนุ่มแล้วกระชากออกสุดแรง แขนเหล็กหลุดออกไป เทรเวนคว้านมือคว้าแต่ก็ไม่ได้แขนเหล็กคืน ทันทีที่โคน่าได้แขนเหล็ก เธอก็วิ่งหายออกไปในหมู่ตู้โชว์ที่ตั้งอยู่เต็มห้อง
เธอวิ่งไปแอบหลังตู้โชว์ตู้ใหญ่ที่หนึ่ง หญิงสาวกอดแขนเหล็กชิดอกเอาไว้แน่น หอบหายใจเล็กน้อย เธอเงี่ยหูฟังเสียงของอีกฝ่าย
เทรเวนสะบัดแขนไม้อย่างหัวเสีย อุปสรรคในชุดแดงสร้างปัญหาให้เขาเสียแล้ว แต่คงไม่หนักหนาสาหัสอะไรนัก แค่จับตัวเธอให้ได้ เอาของที่เขาสู้อุตส่าห์ดั้นด้นตามหามานานคืนมา
ชายหนุ่มออกเดินอย่างระมัดระวังด้วยฝีเท้าเงียบกริบตามแบบฉบับ เขาล้วงตะขอออกมาจากกระเป๋าโค้ท มันเป็นตะขอขนาดไม่ใหญ่นัก มีเอ็นรอยที่หัวตะขอยาวหลายเมตร ใช้สำหรับยึดเกาะโดยเฉพาะ
คนแขนไม้แนบหลังกับตู้หลังหนึ่ง มองหารอบตู้รอบตู้อย่างรวดเร็วเพื่อตามหาตัวโคน่า ในมือถือตะขอเหล็กที่พร้อมขว้างออกได้มุกเมื่อ!
"โคน่า โอรีอา!" เขาพูดด้วยเสียงน่าเกรงขามดังพอจะได้ยินทั้งห้อง "ส่งแขนเหล็กอันนั้นออกมาซะ ฉันไม่รับรองความปลอดภัยให้เธอหรอกนะ ถ้าฉันเป็นคนไล่ตามจับตัวเธอเองน่ะ"
.เงียบ
ไม่มีเสียงตอบ
โคน่าแนบหลังกับหลังตู้กว่าเดิม เธอหายใจเข้าออกอย่างระมัดระวัง
ใจเย็นๆ โคน่า
ใจเย็นๆ
.
เทรเวนเดินเข้าไปอีก เขาเลี้ยวซ้ายทีหนึ่ง สายตาสอดส่ายมองหาการเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่น่าเสียดาย ที่การอยู่กับคนแขนไม้ชั่วระยะหนึ่งทำให้โคน่ารู้ความสามารถของเขาพอสมควร หญิงสาวไม่ขยับเขยื้อนเลย ตราบใดที่ระยะสายตาอันแหลมคมของชายหนุ่มจะจับได้!
เทรเวนเลื่อนมือจากที่จับหัวตะขอ มาจับที่ต้นเอ็น เขาแกว่งมันน้อยๆ เขามองซ้ายมองขวาช้าๆ
โคน่าฉวยโอกาสที่สายตาละไป เธอกระโดดจากหลังตู้โชว์ไปยังหลังแท่นตั้งแก้วคริสตัลรูปประหลาดทันที
เทรเวนรู้สึกถึงการเคลื่อนที่ แต่เมื่อเขาหันกลับไป ทุกอย่างก็กลายเป็นปกติเสียแล้ว
"เตือนครั้งที่สอง โคน่า!" คนผมสีน้ำมันจักรส่งเสียงกลบเกลื่อนเสียงฝีเท้าของเขาที่เดินไปยังจุดที่ต้องสงสัย "ส่งมันออกมา เธอจะปลอดภัย ฉันจะทำงานเสร็จ เราหมดพันธะกัน! ตกลงไหม?"
เงียบ
นักประดิษฐ์เหล่ตามองไปตามเสียงที่เคลื่อนเข้ามาใกล้ หญิงสาวหันกลับมามองตรงหน้า กริชด้ามทองส่องประกายแวววับอยู่ตรงหน้าเธอ มันคงออกมาได้ตอนที่เทรเวนรื้อออกมา
หญิงสาวเอื้อมมือออกไปหยิบมันอย่างรวดเร็ว เอาล่ะ
ในเมื่อตอนนี้เทรเวนไม่ประกันความปลอดภัยให้เธอ เธอก็จะประกันความปลอดภัยให้ตัวเอง หญิงสาวกำกริชแนบอก นั่งนิ่งเงียบ เกมซ่อนแอบครั้งนี้อาศัยความใจเย็นเป็นพื้นฐาน
ความหงุดหงิดในใจของเทรเวนประทุขึ้น ตัวของชายหนุ่มเองพยายามปลอบใจให้สงบ แต่ก็ลำบากนัก เขาไม่มีเวลามากนัก งานของเขายังไม่ลุล่วง ยังถอยไม่ได้ เทรเวนผู้ไม่เคยพลาด จะไม่ยอมพลาด!
คนผมสีน้ำมันจักรเสี่ยงกับการถูกจับได้ ทันทีที่มอริสรู้ว่ามีคนเข้ามาในห้องแห่งนี้ เขาย่อมลากพนักงานคุ้มภัยทั้งเมืองมาสกัด เทรเวนมีศึกสองทางครึ่ง ทางหนึ่งหลบมอริสไปจากเมืองนี้ ส่วนอีกทางคือการเอาแขนเหล็กคืนมา อีกครึ่งทางที่เหลือ
คือการทำให้ภาระชุดแดงที่เขาทำเธอซวยซ้ำซากปลอดภัยที่สุด
ชายหนุ่มแอบขมวดคิ้ว
ทำไมเขาต้องมาใส่ใจกับภาระที่เขาไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ หรือว่าเขาคิดจะเป็นคนดีขึ้นมา
เทรเวนส่ายหน้า
จะยังไงก็แล้วแต่ นี่ไม่ใช่เวลาจะมาวิเคราะห์ความ
สิ่งที่ต้องทำคือจับตัวโคน่า และทางที่จะทำให้ได้ตัวเธอเร็วที่สุดคือการทำให้เธอเคลื่อนไหว แต่จะทำยังไงล่ะ? ให้เคลื่อนไหว
"พ่อ" เทรเวนพึมพำ โคน่าพร่ำพูดถึงแต่พ่อ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอรักพ่อมาก เล่นกับพ่อเธอก็สิ้นเรื่อง
โคน่าที่แอบอยู่หลังตู้โชว์ลอบมองคนแขนไม้ด้วยความประหลาดใจ ที่จู่ๆเขาก็หันหน้าไปในทางตรงข้าม
"โคน่าฉันรู้ว่าเธออยู่ตรงนั้น!" ชายหนุ่มร้อง
"ยายบ้า เธองี่เง่าเหมือนพ่อไม่มีผิด ฉันพอได้ยินเรื่องโคเปียมาเหมือนกัน เขา
เป็นคนสติเฟื่องที่ไม่มีใครยอมรับใช่ไหม?" หญิงสาวขบฟันอย่างโกรธเกรี้ยว!
นี่มันเล่นกันถึงบุพการีเลยรึนี่? แต่ใจเย็นโคน่า มันตั้งใจยัวะเธอ
หญิงสาวกลืนความโกรธลงลำคอ นั่งนิ่งต่อไป
"โคเปียหัวโล้น จมูกใหญ่ คนทั่วไปเรียกพ่อเธอว่า 'โอรีอาในบ้านราคาฟักทอง' ใช่ไหม?" โคน่ากำมือแน่น
"พ่อเธอไม่มีปัญญาแม้แต่ดำรงอยู่ แม่เธอหนีไป เธอกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไม่มีใครต้องการ เพราะพ่อของเธอล่ะสิ! โคเปีย โอรีอา! ยังน่าดีใจที่เขายังมีความดีที่สิ่งประดิษฐ์ แต่มันจะไปมีประโยชน์อะไรที่ลูกสาวของเขามีชีวิตราวกับเป็นดินสอเขียนแบบอันหนึ่งของเขา เธอดีได้ไม่ถึงของสักชิ้นของโคเปีย!" นัยน์ตาของหญิงสาวกล่ำแดง
ไม่มีใครรักฉัน ไม่มีใครอยากยุ่งกับฉันจริงๆด้วย
โคน่าเช็ดน้ำตากับโค้ทที่เกรอะน้ำมัน เธอลอบมองไปอีกครั้ง สติของเธอเลือนลาง เมื่อเห็นเทรเวนหันไปทางอื่น
หญิงสาวจึงนั่งอยู่ในท่าคุกเข่าเตรียมตัวย้ายที่
"โคน่าเอ๊ย! เธอช่าง
." เสียงของเทรเวนยังดังต่อไป!
โคน่ากอดแขนเหล็กไว้ในอ้อมแขน ออกแรงดีดตัวออกไปยังอีกสถานที่
เทรเวนหันกลับมาอย่างรวดเร็ว
ร่างของโคน่าหายไปยังอีกฟาก แต่สายตาของชายหนุ่มเห็นปลายเท้าของเธอ ร่างสูงของคนแขนไม้ออกวิ่งสุดฝีเท้าเข้าไปหาทันที!
หญิงสาวรับรู้ถึงฝีเท้าที่วิ่งเข้ามาหา เธอลุกขึ้นวิ่งหนีทันที
ชายหนุ่มมาถึงขณะที่หญิงสาวกำลังออกวิ่ง เขาไล่ตามไปสองก้าวก่อนควงตะขอร้อยเอ็นในมือใส่เป้าหมาย
ตะขอตรงเข้าหาร่างหญิงสาว
ตะขอเกี่ยวเสื้อ เอ็นเข้ารั้งท่อนขา
โคน่าล้มลง
แขนเหล็กลอยหลุดมือ กลิ้งออกไป
Part. 8 >>>
|