|
มอริสพยุงตัวเองขึ้นช้าๆ ใช้มือข้างหนึ่งปาดคราบเลือดที่ริมฝีปาก ดวงตาคู่เล็กหยีจ้องมองไปยังร่างคนแขนเหล็กซึ่งนอนแผ่ราบอยู่บนพื้น ก่อนผินไปอีกด้านมองเข้าไปในเงามืด ทิศทางที่มาของท่อนเหล็ก
"พระเจ้า แกยอมให้มันต่อยฉันได้ยังไงกัน?"
ร่างหนึ่งในเงามืดขยับตัว
เสียงสวบสาบของเสื้อผ้าดังขึ้น ร่างในเงามือก้าวออกมาจากเงามืด แต่ก็ยังไม่หลุดพ้นจากเงามืด ไม่แม้จะก้าวผ่านธรณีประตูเข้ามา
แสงของโคมไฟสะท้อนวูบวาบ แสงสว่างกินเนื้อที่เข้าไปในเงามืดเล็กน้อย แต่ก็พอที่จะมองเห็นร่างในเงามืดได้รำไร
คนคนนั้นตัวผอมสูง เป็นผู้ชาย
ขายาวเกินไปไม่สมกับตัว แต่อาการยืนอย่างสงบของเขาลบคำสบประมาทคำนั้นไปได้อย่างดี ขาที่ว่ายาวหนักหนาก้าวออกมาจากเงามืด
"ขอประทานโทษขอรับ
.กระผมเสียใจที่เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น" น้ำเสียงนุ่มๆ ไม่ดังไม่เบาเกินไป
"เฮอะ!" มอริสปัดเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนฝุ่นของตัวเอง "ทำไมแกไม่ออกมาก่อนที่ฉันยังไม่ถูกต่อย!!! หา เทรันโต้!"
"ก็
ท่านสั่งว่า
ถ้ายังไม่เรียก
.."
" หุ บ ป า ก แ ก ซ ะ อ ย่ า บั ง อ า จ ม า แ ก้ ตั ว " เทรันโต้นิ่งเงียบ ดวงตาสีดำเกิดประกายลุกโชน แว่บหนึ่งมันกลายเป็น
สีแดง
ซึ่งสิ่งนั้นไม่ได้รอดพ้นสายตาของมอริสไปได้เลย
"แก โ ม โ ห รึไง?" คำว่า 'โมโห' ราวกับเป็นคำสบประมาทเทรันโต้ เขาหลบสายตาเจ้านายก่อนดันกระจกแว่นข้างเดียวให้เลื่อนติดดั้งจมูก
"ผมไม่เข้าใจ
" มอริสยิ้มด้วยมุมปาก
"อ้อ
ลืมไปว่าแกเป็นหุ่นยนต์" สายตาเหลือบมองร่างเทรเวน "ไม่อย่างนั้นคงขว้างเหล็กใส่มันเสียจนกระเด็นไปไกลขนาดนั้นไม่ได้หรอก
มันตายไหม?" ประโยคหลังหันกลับมาถามเทรันโต้
พ่อบ้านถอดแว่นตาออกจากดั้งช้าๆ แล้วใส่ลงในกระเป๋าเครื่องแบบพ่อบ้านของตนเอง
"ไม่ครับ
" สายไฟภายใต้หนังเทียมของหุ่นยนต์ ปูดขึ้นถี่ยิบรอบดวงตาทั้งสอง "มันยังไม่ตาย
" สายไฟยังคงปูดบวมเป็นสันอยู่ ดวงตากลายเป็นสีแดงทีละน้อย มอริสจ้องมองภาพนั้นจากข้างหลังเงียบๆ
"แกกำลัง ห งุ ด ห งิ ด ใช่ไหมล่ะ? ห งุ ด ห งิ ด ที่คนธรรมดารอดจากจัดการของแก"
"มันไม่ทำให้ผม Error ง่ายๆหรอกครับ
" เทรันโต้กล่าว "มันจะไม่รอดกลับไปแน่ถ้าท่านให้โอกาสผม
'เก็บ' มันอีกครั้ง" มอริสเลิกคิ้วข้างหนึ่งของตนขึ้น
"อย่าใจร้อนนัก ฉันยังไม่ได้ทุนคืนจากมันเลย
แต่อย่ากังวลไป ฉันไม่คิดเก็บมันไว้หลังจากรู้อะไรดีๆหรอก"
@@@@@@@
เทรเวนลืมตาขึ้นเพราะเท้าข้างหนึ่งเหยียบบนบาดแผลบนไหปลาร้าของเขา
"โอ๊ย!" อา
กลับมาที่เดิมแล้วหรือนี่?
"ตื่นแล้วครับ" เสียงคุ้นๆ เทรเวนมองผ่านม่านที่ไหลซึมาจากหน้าผาก เขาเช็ดเลือดออกจากดวงตาด้วยหัวไหล่อีกข้าง มอริสยืนค้ำหัวเขาอยู่ส่วนคนเหยียบ
อ้อ พ่อบ้านเทรันโต้นี่เอง
"อรุณสวัสดิ์
อีกครั้ง คิดว่าเมื่อสักครู่คุณคงทักทายผมไปแล้ว คุณ
อา
ชื่ออะไรน่ะครับ?"
"
"
"ถ้าไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่คงไม่รังเกียจถ้าผมจะเรียกคุณว่า โดมินิก "
"
ค
คุณถือไพ่เป็น
ต่อนี่" มอริสหัวเราะ ฟังดูเหมือนเสียงถุงน้ำที่กระเพื่อม
"งั้นดีแล้ว
คุณ โดมินิก ผมอยากจะขอ
.." มือข้างหนึ่งของมอริสล้วงเข้าไปในกระเป๋าของเทรเวน จนกระทั้งเขาพบของสิ่งหนึ่งในกระเป๋า ใบหน้าของมอริสยิ้ม ก่อนจะชักมือช้าๆ ตามออกมา เพชรสีขาวถูกดึงออกมาจากกระเป๋าของเทรเวน
.แสงของมันยังคงเป็นสีขาวเจิดจรัสแม้มัวไปบ้าง แต่สีขาวนั้น
ก็สร้างความยินดีใจให้กับมอริสมากมายนัก
หมอกขาว อัญมณีในตำนานได้กลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง
"ขอล่ะนะ หมอกขาวเม็ดนี้ ผมขอคืนล่ะนะครับ"
"
.."
"
คุณ
." มอริสเก็บเพชรเม็ดนั้นลงกระเป๋า เขาตบกระเป๋า 2-3 เพื่อสร้างความอุ่นใจ
"สวัสดีครับ
คุณโดมินิก"
"เทรัน
โต้"
"ฝีมือของผมเอง คุณหัวแข็งไม่เลวเลยนะครับ"
"ฝีมือนาย
." รุนแรงแบบนี้!
. เทรเวนเบือนหน้าไปอีกทางหนึ่ง
"ไม่ใช่
คน!"
"ครับ" รอยยิ้มเฉพาะริมฝีปากฉีกออก "ผมเป็นหุ่นยนต์ครับ"
"
คิดไว้แล้ว
"
"คุณก็ไม่ธรรมดานะครับ" เทรันโต้ถอดเสื้อสูทสีดำออกด้วยอาการสงบ "ไม่ใช่เก่งเกินธรรมดา
แต่เก่งเกินคนธรรมดา
กระโหลกของคุณทำจากอะไรกัน? ถึงได้ไม่แหลก?" เทรเวนหัวเราะให้กับคำชมนั่น
แต่มันช่างแหบแห้งเหลือเกิน เขาพลาดขนาดนี้เชียว
อา
เขาลงทุนซื้อความโลดโผนเสี่ยงอันตรายด้วยราคาแพงลิบลิ่ว
โอย
หัวเขา เจ็บแทบระเบิด รู้สึกเหมือนเอาหัวไปวางแท่นรางรถไฟ
"นั้นน่ะสิ
" เทรเวนยิ้ม "ทู่ซี้จริงๆ" เทรันโต้ไม่ยิ้มแล้ว ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเขาต่อ พ่อบ้านหันไปหาเจ้านาย
"จะให้ผมจัดการเลยไหมครับ ท่านมอริส" มอริสกำลังพิจารณาเพชรในมือ เขาจ้องมันราวกับเป็นอาหาร นายกเทศมนตรีเก็บเพชรลงกระเป๋าเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากลูกน้อง
"ยัง
" เขาเดินกลับเข้ามา "ยังมีเรื่องที่ฉันอยากรู้"
"
!"
คอเสื้อของเทรเวนถูกดึงกระชากขึ้น ชายหนุ่มรู้สึกเจ็บแผลขึ้นมา เลือดที่หน้าเริ่มไหลย้อยอีกครั้ง
เขาจะต้อง
เช็ดมันอีกแล้วหรือนี่
"คุณหาเพชรเม็ดนี้เจอได้ยังไง?"
หึๆ
"ค
คุณจะรู้ไป
ทำไม?"
เรื่องอะไรจะบอกล่ะ?
.โอ้! อูรีตี้ เจ็บแผลชะมัด เขาไม่ได้เจ็บแผลมานานเท่าไรแล้วนี่
รู้สึกว่าครั้งสุดท้ายก็ตั้งแต่แขนขวาขาดไป
ว้า
หลายปีแล้วนี่นา
"ผมจะได้รู้ว่า
ใครรู้เรื่องนี้บ้างนะสิ? คุณคงไม่ได้โพทะนาไปทั่วหรอกนะ"
เรื่องโง่ๆแบบนั้นใครจะทำ
"ไม่หรอก
ผมไม่
ได้ทำ"
ผมของเขาถูกจิก!
"ผมถามว่า ไ ด้ ม า อ ย่ า ง ไ ร ไม่ใช่ โ พ ท ะ น า ห รื อ เ ป ล่ า ?"
"
.ถามรัวแบบนี้
ผมก็
ขาดทุน
แย่
"
"ยังจะห่วงอีกรึ? คุณจะตายอยู่แล้วนะ" เทรเวนได้ยิ้มน้อยๆ เขากระพริบตาถี่ๆไล่เลือดให้พ้นดวงตา จะได้เห็นหน้าคนตรงหน้าให้ชัดๆ มอริส นายกเทศมนตรีแห่งเมเปิล... มือข้างหนึ่งยังจับส่วนผมของเขาอยู่ ดวงตาคู่นั้นจ้องเขาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แต่ภาพที่เขาเห็นกลับไม่ใช่ภาพตรงหน้า ภาพที่เขาเห็น คือตอนที่ผู้ชายคนนี้
ใช้ไม้เท้าฟาดโคน่า
โคน่า
นั้นสิ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? อ้อ
ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่
เทรเวนเลิกคิ้วน้อยๆ
"กำไร
มันคือ
ชีวิต
" มอริสมองผู้ที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเหยียดหยาม
"คุณมันงกจนวาระสุดท้ายจริงๆสิพับผ่า"
"ฮ่าๆ
"
"อย่าหาเรื่องออกนอกเรื่องไปหน่อยเลย ตอบมาดีๆ คุณจะได้ตายสบายถ้าไม่โกหก
"
"เอา
อย่างนั้นก็ได้
จะให้ผมเล่าแบบสังเขป
หรือ
เต็มเรื่องล่ะ
.?"
"เต็มเรื่อง! ผมไม่ชอบอะไรที่ตัดตอน"
"งั้น
เรามาแลกกันดีกว่า
"
"ฮะฮ้า! ฉวยโอกาสไม่ใช่เล่น จะตายอยู่แล้ว จะอยากรู้เรื่องอะไรอีก?"
"ไม่ใช่
ธุระของคุณเว้นแต่ว่า
คุณจะกลัวแม้กระทั้ง
" เทรเวนหยุดหอบหายใจ "เล่า
เรื่องให้คนใกล้ตายฟัง
"
"ผมไม่เคยกลัว!"
"งั้น
ก็ดี คุณ
เริ่มก่อน ยังไงซะ
ผม
ก็หนีไปไหน
.ไม่ได้อยู่แล้วนี่
"
"คุณนี่ฉวยโอกาสได้เก่งมากนะ
คุณโดมินิก" มอริสหัวเราะ "แต่ไม่มีวันซะหรอก!!!
ถ้าคุณไม่เปิดปากเล่า ก็มาประลองกันว่าใครจะทู่ซี้กว่า
"
"
..เห็นที
ผมจะแพ้จริงๆ
ต้องการรู้อะไรล่ะ?
คุณ
มอริส" ดวงตาคู่เล็กของมอริสหยีจนแทบจะเป็นเส้นเดียว เทรเวนไม่อยากเดาเลย
"งั้นดี! คุณรู้ได้ยังไงว่าผมมีหมอกขาว?" ชายหนุ่มรู้สึกว่าสมองซีกขวาเต้นตุบๆ เหมือนขนมปังที่กำลังพองขึ้นเพราะผงฟูที่มาเกินไป
"
.ผม
เห็นป้าย
บอกว่าหมอกขาว
"
"อ้อ!"
"
รอยของมัน
เป็นสี่เหลี่ยมของ
กล่องทองคำ
แบบเดียวที่คุณให้ผมหา
แล้วคุณได้
หมอกขาว
มายังไง
?"
"ซื้อมาจากพ่อค้าเพชรงี่เง่าที่ไม่รู้ค่าคนหนึ่ง
คุณเป็นใครกันแน่? ถูกท่อนเหล็กปาใส่แรงขนาดนั้น
ยังไม่สะทกสะท้านอีก?"
"
ก็ผม
เจ็บลุกไม่ขึ้น
อยู่นี่ไง"
"อย่ามาเสแสร้ง!" เสียงตวาดจากริมฝีปากมอริส ใบหน้าทั้งสองใกล้กันจนคนแขนเหล็กรู้สึกได้ถึงอารมณ์อันเดือดดาลของคนตรงหน้า
มอริสปล่อยมือจากศรีษะเขา ชายร่างอ้วนลุกขึ้นจุดซิกก้า ก่อนอัดมันเข้าปอดด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วก้มลงมาหาจำเลยของเขาอีกครั้ง!
" บ อ ก ค ว า ม จ ริ ง ม า
" ดวงตาสีเข้มของชายในโค้ทดำเปื้อนหลับลงอย่างอ่อนล้าสักครู่
"ผมไม่รู้
ว่าทำไม
ผมถึงได้
ไม่เป็นอะไร
คุณรู้ตำนาน
มาจากไหน?
" มอริสอัดซิกก้าเข้าปอดก่อนที่จะถูกดับด้วยการจี้ลงบนพื้นทั้งที่เพิ่งถูกจุดไม่ถึงนาที พลางบุ้ยใบ้ไปทางโคน่าที่นอนนิ่งบนพื้น
"พ่อของโคน่า กับตำราที่เชื่อได้อีก 2-3 เล่ม
คุณมาจากไหน? มาเพื่อขโมยแขนเหล็กอย่างเดียวรึ? เมื่อก่อนคุณเป็นอะไร?"
"
.มาจาก
รอคแซนทาวน์
ก่อนมาที่นี่ เป็นคนรับจ้าง
เอนกประสงค์
"
"ชื่อจริงคุณล่ะ?"
"ฮะๆ
ในที่สุด
คุณก็วก
กลับมาเรื่องนี้
จนได้
"
"ถ้าคุณไม่พูดก็ไม่มีประโยชน์
" มอริสหันไปหาเทรันโต้ "เทรันโต้
"
"ครับ
"
"เก็บ
คุณโดมินิกเสีย อ้อ
แล้วถอดแขนเหล็กออกมาด้วยนะ
" มอริสถอยออกไป "ส่วนโคน่า
ฉันจะจัดการเอง" ดวงตาของเทรเวนเบิกโพล่งขึ้นโดยเจ้าตัวไม่ทันรู้ตัว
"คุณจะทำอะไรกับเธอ!?" ร่างโทรมด้วยเลือดชันขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ก็ถูกเทรันโต้เหยียบซ้ำลงไป
น้ำเมือกใสที่ไม่อาจบอกได้แน่ว่าเป็นอะไรไหลทะลักออกจากปากของชายหนุ่ม ก่อนแขนขวาของพ่อบ้านจะเปลี่ยนจากมือธรรมดาไปเป็นปืนกลกระบอกหนึ่ง มันยกขึ้นจ่อใบหน้าของเทรเวนห่างไม่เกิน 4 นิ้ว ริมฝีปากของเทรรันโต้ไม่ยิ้มแล้ว ดวงตาที่ไม่เคยยิ้มก็ยังไม่ยิ้มอยู่เหมือนเดิม
"คุณหลบกระสุนปืน 1 นัดได้ คุณรอดจากท่อนเหล็กได้
แต่คุณไม่รอดแน่ครับถ้าคุณถูกอัดด้วยปืนกล
."
มอริสเหมือนเพิ่งใคร่ครวญหาคำตอบมาให้เทรเวนถูก เขาลูบหนวดเบาๆ ก่อนลูบรอยจ้ำเพราะหมัดบนใบหน้า
"เธอจะเป็นผู้กล้าที่ช่วยผมต่อสู้กับศัตรูของผมด้วยความกล้าหาญ
และ
" มอริสลูบปลายคางของตนอย่างครุ่นคิด "
.จะจากไปอย่างสงบเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว
"
"
!.."
"ผมจะให้ช่างปั้นจำลองของเธอเอาไว้ในศาลากลางของเรา
"
มอริสหุบปากลงเพียงเท่านั้น เขามองร่างที่นอนแผ่หราอยู่บนพื้น โลหิตเกรอะกรังยังปรากฏให้เห็นบนหน้าผากสีคล้ำ ดวงตาสีท้องฟ้าคืนเดือนมืดจ้องมองมาที่เขาอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะแปรเป็นค่อยๆอ่อนลงเรื่อยๆ
ชายหนุ่มผมสีน้ำมันจักรหลับตาลงช้าๆ ก่อนลืมขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว! ก่อนมอริสจะผินหน้ายกขาไปทางใด!
ก่อนปืนกลกระบอกนั้นจะเริงระบำสาดกระสุนใส่เขาด้วย!
"คุณมอริส!!!" เขารวบรวมพละกำลังทั้งหมดเปล่งเสียงออกไป ร้องเรียกชื่อมอริส ร่างอ้วนหันกลับมา
"มีอะ
" ก่อนจะจบประโยค! มีดเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้าหาร่างของเทรันโต้ แล้วก็ปักเข้าทะลวงข้อศอกผ่านเสื้อสีขาวแบบพ่อบ้านอย่างแม่นยำ!!!
ร่างของเทรันโต้งอลงโดยอัตโนมัติ ปืนกลเบนปากกระบอกออกจากใบหน้าของเทรเวน
ใครกันเป็นคนปาดมีดใส่ข้อศอกของหุ่นยนต์อย่างเขา!
คนคนนั้นจะต้องกะเกณฑ์อย่างแม่นยำ
เพราะผู้ที่จะรู้ว่าหุ่นยนต์จะมีจุดอ่อนเมื่อยกแขนตั้งฉากมีเพียง 2 ประเภท
หนึ่ง หุ่นยนต์! สอง คนสร้างหุ่นยนต์!
มันคนนั้นจึงจะจงใจปาดมีดใส่ข้อศอกเพื่อตัดสายไฟบังคับการปลายแขนทั้งหมด!
เทรเวนไม่รอให้โอกาสนี้ผ่านเลยไป เขากระโดดลุกขึ้นจากพื้น ทั้งเลือดยังคงเต็มตัว เลือดบางหยาดยังกระเซ็นใส่บุคคลที่อยู่ตรงหน้า เทรันโต้พยายามสกัดเชลย แต่จะมีประโยชน์อะไรเมื่อเขายังเป็นด้วนข้างเดียว
คนแขนเหล็กตวัดขาฟาดเทรันโต้จนล้มกลิ้ง จากนั้นก็ถอยหลังกรูหลายก้าวออกไปตั้งหลัก
มอริสมองร่างที่ล้มกลิ้งและถอยกรูของทั้งเทรันโต้และเทรเวนด้วยอาการงงงัน ทันทีที่เขาตั้งสติได้ก็หันไปยังต้นทางของมีดที่แล่นเข้ามา ก็ปรากฏร่างหนึ่งยืนอยู่
แม้ไม่มั่นคงนัก แต่ก็ไม่ล้มอีกง่ายๆแน่!
ดวงจักษุนั้นมองไปยังร่างในโค้ทแดงซึ่งยืนอยู่ตรงหน้า ประสาทสัมผัสว่างเปล่า มีเพียงเสียงหนึ่งมากระทบโสตประสาทเท่านั้น!
"
ผมจะบอกว่า
โคน่าฟื้นแล้ว
คุณจัดการเธอไม่ได้ง่ายๆอีกแล้วล่ะ
เสียใจด้วย!"
โคน่ายืนนิ่งอยู่ต่อหน้ามอริส ต่อหน้าเทรเวน และต่อหน้า
เทรันโต้ผู้ไม่สนใจการมีตัวตนของเธอแม้แต่น้อย หุ่นยนต์ในคราบเนื้อมีเพียงเป้าหมายเดียวตามที่ได้รับคำสั่งคือ
เก็บเทรเวน!
ใครจะรู้ว่าร่างที่ยืนตรงมั่นคงของโคน่า
แท้จริงแล้วในสมองของเธอสั่นคลอนเพียงใด เหมือนกับถูกเขย่าด้วยความถี่เร็ว หญิงสาวตามเรื่องทั้งหมดแทบไม่ทัน ทุกเรื่องทำไมถึงได้เป็นไปอย่างนี้
.เธออยากให้มันเป็นความฝัน
ฝันร้ายในรอบนับสิบปี
แท้จริงเธออาจฝันอยู่ก็ได้
มอริสในโลกความจริงอาจเป็นเพียงคุณลุงใจดีที่ชอบทำสวนผัก พอโคน่าตื่นขึ้น
โคน่าก็จะได้พบกับพ่อ
แล้วก็แม่
ใช่แล้ว! แม่
แม่ที่จะเดินเข้ามาปลุกเธอในห้องเหมือนเด็กหญิงคนอื่น สอนให้ทำอาหาร คอยเลือกเครื่องแต่งตัวให้
แล้วเทรเวนก็อาจเป็นชายหนุ่มที่เพิ่งย้ายมาใหม่
ที่บังเอิญ
บังเอิญไม่ถูกโฉลกกับคุณลุงที่ชอบปลูกสวนผักเท่านั้นเอง!
แต่น่าเสียดายที่เธอต้องให้ความจริงในคติไปเป็นความฝันเสียแทน
และนำความฝันในคติมาเป็นความจริง!
โลกสีเทาของโคน่าตอนนี้กลายเป็นสีดำสนิท!
ตอนนี้ความจริงที่เธอรับรู้พากันพันเป็นเกลียวแหลมทะลวงเข้าสู่สมอง มอริสไม่เคยทรยศพ่อเธอ
เพียงแต่โคเปีย
มีตราบาปจากการเจรจากับราชินีแห่งปราสาทผี
จะต้องระทมชั่วชีวิต
สิ้นใจอย่างอาภัพ
ผู้คนรอบกายเขาจะต้องทุกข์ระทม
แล้วเธอยังรู้ความลับของสิ่งที่มอริสทำหายไป มันคือเพชรที่เรียกว่า 'หมอกขาว' แม้ตอนนี้เขาจะได้มันคืน และไม่มีประโยชน์อะไรที่จะคิด แต่เธอก็ยังอดรำพึงไม่ได้ว่า
เธอเคยเห็นมันครั้งหนึ่ง
ผู้ชายสองคนถือมันเอาไว้
ถึงตอนที่มอริสถือมัน เพชรจะอับแสงไปมากแต่
เธอก็ยังยืนยันว่า มันคล้ายกับเม็ดที่เธอเห็นมากทีเดียว
แต่มันก็ไม่ใช่เม็ดเดียวกันอยู่ดี!
ดวงตาของมอริสวาวโรจน์ขึ้น เขาไม่ได้พูดอะไร
แต่โคน่ารู้ดีว่าเขาหมายถึงอะไร
สายตาแบบนั้นเธอสามารถสรุปได้ว่า
โคน่าน้อยของเขา
เป็นแค่ตลกจอมปลอม
ลาก่อน โคน่าน้อย
ตลอดกาล
"ปล่อยเขา
" โคน่าพูดช้าๆ โค้ทแดงคลุมครึ่งแข้งโยกไสวน้อยๆ ราวกับพยักเพยิดเห็นด้วย มอริสมองเธอ ก่อนจะส่ายหน้า
"เราไม่ได้จับเขาอยู่
สาวน้อย"
"แต่คุณก็ไม่ให้อิสระกับเขา!" มอริสไม่เถียง เขาเพียงแต่หลบสายตาหญิงสาว ก่อนยกมือขึ้นซุกในกระเป๋า โคน่ายังไม่ลดละ!
"คุณฟาดหนูทำไม?"
"ฉันต่างหากที่ต้องถามหนูว่า
ทำไมไม่เป็นอะไร?" มอริสหรี่ตา "ยังกับไม่ใช่คน!" โคน่าเพียงแต่หัวเราะขื่นๆอย่างผู้ได้รับชัยชนะที่แสนเศร้า เธอไม่ได้หัวเราะอย่างผู้เหนือกว่ามาหลายปีแล้ว อาจเป็นเพราะมันยุ่งยากก็ได้ แต่ถึงจะได้หัวเราะอย่างเหนือกว่าเธอก็ไม่ต้องการ ที่เธอต้องการคือ
โลกสีเทาแสนสงบของเธอ
เธอต้องการมันคืน! เธอไม่ต้องการโลกสีดำ โลกสีดำที่แสนความยุ่งยากอีกต่อไป!
"ก็คุณตีโดนกระเป๋าใส่เหล็กเต็มๆ
" โคน่าพูด "หนูก็จุกจนสลบเหมือดเหมือนกัน แต่อย่างว่า
ต้องขอบคุณเหล็กที่เหลือในกระเป๋าหนู มันช่วยทุ่นแรงตีไปเยอะทีเดียว
ไม่อย่างนั้น ลำไส้หนูคงเละไปแล้ว
" โคน่านิ่งไปสักครู่ "คุณจะไม่พูดอะไรกับเรื่องนี้หน่อยหรือ?"
"ไม่มี!" โคน่าถอนใจ เธอหมดพันธะทุกอย่างซักที
"เธอรู้แล้วใช่ไหม? เรื่องทั้งหมด"
"
" โคน่าไม่ตอบ แต่กระนั้นมอริสก็พอจะรู้ เขาชักมือออกจากกระเป๋าช้าๆ
"อย่างนั้นเธอก็รอดกลับไปไม่ได้ด้วยเหมือนกัน!" มอริสเตะขาโต๊ะที่หักอยู่บนพื้นขึ้นมาถือเอาไว้อย่างรวดเร็ว ชี้ปลายตรงมายังร่างโคน่า
โคน่าล้วงมือลงไปในโค้ท
"คุณไม่มีอะไรจะพูดแต่หนูมี
คุณมอริส" เธอมีท่อนเหล็กหักกลวงกลมเรียวยาวท่อนหนึ่งกลับขึ้นมา "หนูจะไม่ตายเพราะคุณแน่
" ร่างของมอริสพุ่งเข้ามาก่อนจบคำ
Part. 11 >>>
|