|
|||
เว็บไซท์ที่น่าสนใจ |
![]() ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)
การเลี้ยงไก่ชนของชาวบ้านล้วนมีจุดประสงค์ให้ได้ไก่เก่ง เชิงดี ตีเจ็บและมีรูปร่าง สีสันที่สวยงามตรงตามตำรา เพราะคุณค่าของไก่ชนนั้นอยู่ที่การชนเก่งและสวยงามอันจะนำมาซึ่งมูลค่าเพิ่ม ความภาคภูมิใจ และชื่อเสียงแก่ผู้เป็นเจ้าของ ดังนั้นผู้เลี้ยงไก่จะต้องขวานขวายหาความรู้จากแหล่งความรู้และประสบการณ์ต่างๆเพื่อนำมาพัฒนา สายพันธุ์ไก่ของตนอยู่ตลอดเวลาและการเลี้ยงไก่ชนต้องอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์อย่างสอดคล้องและผสมผสานเพื่อให้ได้ไก่ชนที่มีลักษณะอันพึงประสงค์ การเรียนรู้นั้นต้องอาศัยการสังเกต จดจำและการปฏิบัติจริงเป็นหลัก การถ่ายทอดความรู้นั้นจะถ่ายทอดกันในวงแคบ ซึ่งเป็น อัตลักษณ์ของคนไทยที่มักหวงเคล็ดวิชาเอาไว้กับตัวเท่านั้น กล่าวคือ จะถ่ายทอดให้เฉพาะบุคคลที่เป็นเครือญาติ เพื่อนและคนสนิทเท่านั้น ศาสตร์และศิลป์เหล่านี้ผ่านการพิสูจน์ซ้ำจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง จนกลายเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่รวมเป็นเคล็ดลับวิชาเลี้ยงดูไก่ชนอย่างเป็นระบบ มีความสลับซับซ้อน เป็นศาสตร์และศิลป์ที่ลุ่มลึกอย่างคาดไม่ถึง ผู้วิจัยได้ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชนจึงได้เสาะแสวงและสืบค้นจากทุกแหล่ง ข้อมูลเท่าที่เวลาและความสามารถจะเอื้ออำนวยเพื่อที่จะนำภูมิปัญญานี้ออกมาเผยแพร่ ในวงกว้าง เพื่อจะได้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ให้เป็นประโยชน์ต่อชาวบ้านอย่างแท้จริง 3.1 ความหมายและลักษณะของภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน ก่อนที่จะกล่าวถึงภูมิปัญญาที่นับว่าเป็นความฉลาดรอบรู้ของคนในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นในการเลี้ยงไก่ชน ผู้วิจัยจะขอกล่าวถึงความหมายและลักษณะของคำว่า ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน ดังต่อไปนี้ 3.1.1 ความหมายของภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชนคำว่า ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน เป็นคำสมาส ซึ่งผู้วิจัยจะแบ่งคำนี้ออกเป็นรากศัพท์สองส่วนเพื่อพิจารณาความหมายของคำ ดังนี้ ส่วนแรก ภูมิปัญญา หมายถึง ความรู้ ความฉลาดที่เกิดขึ้นและสั่งสมมาจากประสบการณ์ของชีวิตมนุษย์และมีการถ่ายทอดสืบต่อกันมา ส่วนที่สอง การเลี้ยงไก่ชน หมายถึง กระบวนการเลี้ยง นับตั้งแต่ การเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ การผสมพันธุ์ การคัดพันธุ์ การดูแลให้อาหารตลอดจนการการเลี้ยงและการบำรุงเลี้ยง(ปรน)ไก่ชน ไปจนถึงการนำออกชน ดังนั้นคำว่า ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน จึงหมายถึง ความรู้ ความฉลาดเกี่ยวกับการเลี้ยงไก่ชนตั้งแต่การเพาะเลี้ยง การคัดเลือก การดูแล การเลี้ยง การปรนตลอดจนการนำออกชนมาใช้ในการเลี้ยงไก่ชน เพื่อให้ได้ไก่ดี เก่งตามลักษณะที่ พึงประสงค์ของคนเลี้ยง 3.1.2 ลักษณะของภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน ลักษณะของภูมิปัญญา สามารถจำแนกตามแนวคิดของนิคม ชมภูทอง ได้ 2 ลักษณะ คือ ภูมิปัญญาที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ วัตถุและการกระทำ ความประพฤติและการปฏิบัติตัวของคน และภูมิปัญญาที่เป็นนามธรรม ได้แก่ ความรู้ ความเชื่อ ความสามารถหรือแนวทางในการแก้ปัญหา รวมทั้งการสร้างความสงบสุขให้กับชีวิต และ คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ได้กำหนดภูมิปัญญาไว้ มีทั้งหมด 9 ด้าน คือ ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ด้านการแพทย์แผนไทย ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ด้านสวัสดิการ ด้านศิลปกรรม ด้านภาษาและวรรณกรรม และด้านปรัชญา ศาสนาและประเพณี (นิคม ชมภูทอง, 2545 : 17-78) ภูมิปัญญาเกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติสิ่งแวดล้อม จะแสดงออกมาในลักษณะการดำเนินวิถีชีวิตขั้นพื้นฐาน ภูมิปัญญาที่เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคนอื่นในสังคมจะแสดงออกมาในลักษณะของจารีต ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ นันทนาการ ภาษาและวรรณกรรม ส่วนภูมิปัญญาที่เกิดระหว่างคนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือพลังอำนาจเหนือธรรมชาติจะแสดงออกมาในลักษณะของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ศาสนาและความเชื่อต่างๆ นอกจากนี้ภูมิปัญญายังเป็นวิธีการปฏิบัติที่ชาวบ้านได้มาจากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา แสวงหาทางออกและเพื่อปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ตามกาลเวลา สถานการณ์และสภาพแวดล้อม ซึ่งมีเงื่อนไขปัจจัยเฉพาะแตกต่างกันไป (สุจารี จันทรสุข,2534:10-11) ภูมิปัญญานั้นอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามสภาพแวดล้อมของแต่ละท้องถิ่น อาจเรียกภูมิปัญญานี้ว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งประเวศ วะสี ได้จำแนกลักษณะของ ภูมิปัญญาท้องถิ่นไว้ว่า มีความจำเพาะกับท้องถิ่นมีความสอดคล้องเรื่องราวของท้องถิ่น มีความเชื่อมโยงหรือบูรณาการสูง มีความเชื่อมโยงระหว่างกาย ใจ และสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมสัมผัสทั้งนามธรรมและรูปธรรมเพื่ออัตถประโยชน์สูงสุดและมีความมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ จริยธรรมมากกว่าวัตถุ (ประเวศ วะสี, 2536 : 20-23) นอกจากนี้ภูมิปัญญาท้องถิ่น มีลักษณะเป็นพื้นฐานความรอบรู้ของชาวบ้านที่เกิดจากการเรียนรู้ การสั่งสม การสืบทอด จากประสบการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นองค์ความรู้ที่เกิดจากการคิดเอง ทำเอง โดยสติปัญญาโดยอาศัยศักยภาพที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตในท้องถิ่นได้อย่างเหมาะสม จากที่กล่าวมาแล้วจะเห็นว่า การเกษตรกรรม นับว่าเป็นภูมิปัญญาด้านหนึ่งในทั้งหมดเก้าด้านที่คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติได้กำหนดเอาไว้ และการเลี้ยงไก่ชนก็เป็นส่วนหนึ่งของภูมิปัญญาด้านการเกษตรกรรมนั้น ดังนั้นการเลี้ยงไก่ชนจึงเป็นส่วนหนึ่งของภูมิปัญญานี้ด้วย จึงเรียกนี้ว่า ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน และจากการที่ผู้วิจัยเมื่อยังเป็นเด็กพอจำความได้ก็อุ้มไก่เป็น เพราะเกิดและเติบโตที่ชนบทจึงไม่มีโรงสีในหมู่บ้าน ชาวบ้านยังพึ่งครกกระเดื่องหรือที่เรียกว่า ครกมอง ตำข้าวในตอนเช้าทุกวัน ผู้วิจัยก็จะเล่นอยู่แถวครกมองนั้นด้วย ดูพวกพี่ๆ ตำข้าว ขณะเดียวกันไก่ก็จะมาหาจิกกินเม็ดข้าวที่หล่นจากครกมอง ผู้วิจัยจำไม่ได้ว่าคิดอย่างไรในตอนนั้นพอจับไก่ตัวผู้ได้จึงเอาเชือกผูกขาไก่ (ไก่ไม่เชื่องมันจะวิ่งหนีต้องจับเชือกนี้ไว้) แล้วอุ้มไก่หาคู่ชนรอบๆหมู่บ้าน (อุ้มไก่หาตีอ้อมบ้าน) ดังนั้นจึงทำให้ผู้วิจัยได้มีโอกาสสัมผัสกลิ่นอายไก่ชนมาตั้งแต่ตอนยังเด็ก จนมาถึงวันที่กำลังทำวิจัยนี้ก็ยังไม่รู้สึกเบื่อหน่าย จึงทำให้เห็นความรู้ความฉลาดของชาวบ้านหลายๆ อย่าง จากหลายๆ คน และหลายๆ ที่ ประกอบกับการออกภาคสนามจึงทำให้ผู้วิจัยเห็นว่า การเลี้ยงไก่ชนนั้นต้องใช้ภูมิปัญญาที่ลุ่มลึกและ ซับซ้อน ในทุกขั้นตอนตั้งแต่ก่อนลูกไก่เกิด หรือขั้นเลือกพ่อ-แม่ไก่ ตลอดจนถึงวันจบเกมส์การต่อสู้ของลูกไก่ตัวนั้นแม้จะได้รับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้หรือต้องใช้เวลาเฝ้าเพียรพยายามนับเป็นปีก็ตามชาวบ้านจะรู้จักและคุ้นเคยกับไก่ของเขาเป็นอย่างดี รู้ความต้องการของไก่ว่าชอบอะไร อย่างไร เช่น ในขั้นตอนสร้างโรงเรือนรู้จักนำหญ้าคามาทำหลังคาเพื่อปรับอุณหภูมิให้ พอเหมาะและเย็นสบาย ใช้ไม้ไผ่ที่หาได้ง่ายไม่ต้องลงทุนเป็นตัวเงินมาทำโครงสร้าง ทำรางน้ำ รางอาหาร ตลอดจนเป็นอุปกรณ์และวัสดุในการรองรังไก่ เป็นต้น ขั้นตอนการผสมพันธ์ก็ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างมาก ขั้นตอนการเลี้ยงดู การคัดไก่หนุ่ม การปรน การปล้ำ การซ้อม ฯลฯ ล้วนแต่ต้องอาศัยหลักภูมิปัญญา หรือทุกขั้นตอนของการเลี้ยงไก่ชนนั้นต้องดำเนินตามวิถีแห่งภูมิปัญญาทั้งสิ้น หากมองภาพรวมแล้ว ชาวบ้านรู้จักเลือกเลี้ยงไก่ชนให้เข้ากับการดำรงชีวิตของเขาเอง เห็นได้จาก ไก่ชนนั้นได้ตอบสนองชาวบ้านได้เกือบทุกด้าน ที่ผสมผสาน สอดคล้องและ ลงตัว หากพิจารณาแล้วไก่ชน มี ข้อดี สี่ถูก คือ ถูกลิ้น หมายถึงไก่ชนมีรสชาติอร่อย ถูกใจ หมายถึงรูปสวย หรือชนเก่ง ให้ความภูมิใจและพอใจแก่ผู้เป็นเจ้าของ ถูกอาชีพ หมายถึงอาชีพชาวบ้าน คือการทำนา ไก่ก็กินข้าวที่เป็นผลผลิตของชาวนา และเมื่อชาวนาเลี้ยงไก่ก็สามารถทำนาได้ตามปกติ ไม่ต้องเสียเวลามาสนใจไก่มากนัก ถูกวิถีชีวิต ตรงกับความเชื่อโดยใช้ไก่หรือไข่ในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตรวมถึงการเซ่นสรวงวิญญาณและผีต่างๆตามความเชื่อของชาวบ้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไก่ธรรมดาไม่สามารถตอบสนองได้เหมือนไก่ชน และสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชนทั้งนั้น |
||
|