|
|||
เว็บไซท์ที่น่าสนใจ |
ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)
การให้น้ำไก่นั้นเป็นการทำให้ไก่หายจากอาการเหนื่อยหอบ ให้ไก่พักเอาแรงเพื่อจะชนในอันต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นการแก้อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการต่อสู้ที่อาจจะต้องใช้การผ่าตัด การเย็บ การรมควันและการประคบ เพื่อให้ไก่ฟื้นตัว คลายความบอบช้ำ แก้ไขอาการบาดเจ็บและพร้อมที่จะเข้าชนในยกต่อไป ดังนั้นมือน้ำจึงมีความสำคัญมากต่อการแพ้หรือชนะและจะต้องมีความรู้ ความชำนาญ ประสบการณ์ ไหวพริบ กล้าตัดสินใจ และคล่องแคล่วมากจึงจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ การให้น้ำเริ่มต้นด้วยการเช็ดหน้าตาด้วยน้ำอุ่น ใช้ขนไก่แยงคอเอาเสลดออก ตรวจดูบาดแผลและรอยฟกช้ำ จากนั้นจึงเช็ดน้ำตามตัวและใต้ท้องพอหมาดๆ เพื่อให้ไก่หายจากอาการหอบ ในอันแรกนี้ ไอ้จิ้งหรีด ยังพอมีอาการดีอยู่ ขันได้ แต่หนังตาด้านซ้ายบวมลงมาปิดตาทำให้มองเห็นลำบาก นายสงกรานต์จึงใช้ด้ายเย็บยกเปลือกตาขึ้นเพื่อให้ไก่มองเห็นได้ถนัด พร้อมกับใช้ด้ายถักปากบนยึดกับหงอนไว้เพื่อป้องกันปากหลุด จากนั้นจะแก้ไขการบอบช้ำของหัว เพราะไก่โดนตีที่หัวมากจะทำให้หัวบวมและมีอาการยกหัวไม่ขึ้น มีอาการเซื่องซึม ต้องทำการไขหัวโดยตำแหน่งที่จะไขหัวนั้นอยู่ตำแหน่งตรงกลางท้ายทอยที่ปลายหงอนชี้และระหว่างหูทั้งสองข้างมาบรรจบกัน จะพบจุดที่เป็นรอยบุ๋มเล็กๆ ไม่มีขนปิด เรียกว่า รอยไขหัว (ซึ่งอาจไม่เป็นกับไก่ทุกตัว) แล้วหยิบหนังไก่ตรงรอยนี้ขึ้นมาใช้เข็มแทงให้ทะลุ ใช้มีดโกนสะอาดกรีดจนถึงเข็มให้เป็นแผลแล้วใช้เข็มร้อยด้ายหมุนด้ายให้เป็นปมเล็กๆที่หัวเข็มแหย่ลงไปที่แผลไขหัวแล้วหมุนเอาเยื่อพังผืดบางๆให้ติดออกมาแล้วใช้มีดโกนปาดออกทิ้ง จากนั้นใช้หัวแม่มือรีดเลือดที่คั่งอยู่ที่หัวบวมมารวมที่แผลไขหัว มือน้ำจะใช้ปากดูดเลือดเสียนี้ออกจนหมด จะทำซ้ำหลายครั้งก็ได้ ตามด้วยดูดและเป่าจมูกไก่เพื่อไล่เอาน้ำมูกไก่ออกจะช่วยให้หายใจโล่ง จากนั้นก็ป้อนข้าว แตง ยาและน้ำ แล้วเอาผ้ากราดน้ำพับหนาๆคลุมหัวให้ปิดถึงตาและหูโดยใช้หัวแม่มือกับนิ้วชี้บีบรัดหูทั้งสองข้างเบาๆให้ไก่นอนพักผ่อน อีกคนจะช่วยจุดชุดรมควันพ่นเข้าใต้ท้อง ใต้ปีกเพื่อให้ไก่ได้รับความอบอุ่นทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก เมื่อเหลือเวลาพักประมาณ 5 นาทีจึงปล่อยไก่ให้เดินและถ่ายมูลออก นำมากราดน้ำอุ่นและประคบกระเบื้องเพื่อให้ไก่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า แล้วจึงนำเข้าสังเวียนไปชนในอันต่อไป คณะของเราทำงานประสานกันดีมาก เพราะสิ่งที่ทุกคนหวังในตอนนี้ คือ ชนะหรืออย่างน้อยต้องเสมอ ต่างคนต่างช่วยกันเท่าที่จะทำได้และทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แต่พอหมดอันสอง ราคาเขาเป็นต่อเราไปไกลเป็น 8 เอา 1 (เล่นแปดร้อยเอาร้อยเดียว) แต่อย่างไรก็ตามทุกคนก็ยังช่วยกันแก้ไขจนสุดกำลังของแต่ละคน จนถึงเวลาเข้าอันสาม ในอันสาม ไอ้จิ้งหรีด กลับมีความหวังขึ้นมาบ้าง ความพยายามสู้ของไก่ชนผนวกกับมือน้ำที่เข้าใจและมีประสบการณ์ การชนในอันนี้ราคาต่อรองจึงขึ้นมาเสมอ และลงท้าย ไอ้จิ้งหรีด กลับมาชนะในอันสี่ ท่ามกลางความชื่นชมยินดีของทุกคนที่ร่วมแรงร่วมใจกันในวันนั้น และนายสงกรานต์ อภัยชา ได้กล่าวเป็นปรัชญากับผู้วิจัยว่า ถ้าเราทำดีกับมัน(ไก่) มันก็จะทำดีกับเรา ซึ่งผู้วิจัยคิดว่า คำนี้สั้น แต่มีความหมายและกินใจ และผู้วิจัยขอเรียกปรัชญานี้ว่า ปรัชญาไก่ชน ในการเข้าสังเกตุกิจกรรมการชนไก่อย่างมีส่วนร่วมครั้งนี้ทำให้ผู้วิจัยได้รู้ซึ้งถึงความอดทนและความพยามของไก่ชนที่ชื่อ ไอ้จิ้งหรีด แล้ว ยังทึ่งในปรัชญาที่แฝงด้วยความหมายอันลึกซึ้งที่มาจากปากของคนที่มีอาชีพเลี้ยงไก่ชน ความรู้ระดับชั้นประถมปีที่ 4 ที่ชื่อ นายสงกรานต์ อภัยชา อีกด้วย |
||
|
|
