|
|||
เว็บไซท์ที่น่าสนใจ |
![]() ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)
จากการศึกษาภาคสนาม พบว่า ความเชื่อและพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ได้ถูกนำมาเกี่ยวข้องกับการชนไก่เพราะเหตุผลทางจิตวิทยามากกว่าจะก่อให้เกิดผลจริงตามเชื่อ ด้วยสาเหตุที่คนรู้สึกเกรงกลัวและวิตกกังวลกับสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ โดยเฉพาะการแข่งขันหรืออาชีพที่มีความเสี่ยงสูงไสยศาสตร์ก็จะเข้ามามีบทบาท ทั้งนี้เพื้อสร้างขวัญและกำลังใจในการต่อสู้เพื่อรักษาชื่อเสียงและทรัพย์สินเงินทองของตน ในปัจจุบันนี้ผู้เลี้ยงไก่ชนไม่ค่อยให้ความสำคัญเรื่องพิธีกรรมทางไสยศาสตร์มากนัก จะมีเพียงผู้เลี้ยงไก่ชนรุ่นเก่าบางท่านที่ให้ความสำคัญ ซึ่งคนอีสานโบราณนั้นมีความเชื่อสามรถบันดาลให้เกิดทั้งสิ่งดีและร้ายได้ มีดังต่อไปนี้ 3.7.1 ดาวเพดาน ดาวเพดานเป็นดาวสองดวงซึ่งอยู่ตรงกัน มีรูปเหมือนเพดานเรือน คนอีสานเรียกว่า ดาวพิดานหรือ ดาวพิดานเมือง มีวิถีการโคจรเปลี่ยนตำแหน่งไปตามเวลา จึงเปลี่ยนตำแหน่งไปตาม วัน และ เดือน นายน้อย บุญตาแสงได้ให้สัมภาษณ์ถึงวิธีหาตำแหน่งของดาวเพดานกับผู้วิจัย ตามโฉลก หรือ โสก ของคนอีสาน ดังนี้ เจียงยี่สาม อยู่ก้ำเว็นตก สี่ห้าหก ตกไปอุดร เจ็ดแปดเก้า หยับเข้าบูรพา สิบสิบเอ็ดสิบสอง หยับมาทางใต้อยู่ใกล้ทักษิณ ซึ่งหมายถึง เดือน1 เดือน 2 เดือน 3 ดาวเพดานเมืองอยู่ทิศตะวันตก เดือน 4 เดือน 5 เดือน 6 ดาวเพดานเมืองอยู่ทิศอุดร เดือน 7 เดือน 8 เดือน 9 ดาวเพดานเมืองอยู่ทิศบูรพา เดือน 10 เดือน เดือน 11 เดือน 12 ดาวเพดานอยู่ทางทิศใต้ จากการสัมภาษณ์นายทองดี ไชยกำเนิด เซียนไก่ชนวัย 72 ปี ทำให้ทราบว่า ในคนตระกูลไชยกำเนิด มีความเชื่อถือเรื่องทิศในการออกไปชนไก่ กล่าวคือ ก่อนไปชนไก่ให้สังเกตดูดาวเพดาน ถ้าดาวเพดานขึ้นทิศใด ให้หลีกเลี่ยงทิศนั้น คือ การเดินทางไปชนไก่ก็จะไม่ไปในทางทิศนั้นและเวลาจะปล่อยไก่เข้าชนก็จะไม่หันหน้าไก่ไปทางทิศนั้น (ทองดี ไชยกำเนิด, สัมภาษณ์, 14 พฤษภาคม 2545) หากไม่หลีกเลี่ยงหรือที่เรียกว่า หันหน้าเข้าหาดาวเพดาน นี้แล้ว จะทำให้เกิดภัยอันตรายหรือความวิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนั้นคนอีสานโบราณค่อนข้างที่จะให้ความสำคัญกับดาวเพดานนี้มากและปัจจุบันยังมีผู้เลี้ยงไก่ชนในอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่นส่วนหนึ่งที่ยังให้ความสำคัญอยู่และผู้ที่เชื่อถือเรื่องนี้นั้นมักจะเป็นผู้เลี้ยงไก่ชนที่อยู่ในวัยสูงอายุเป็นส่วนมาก 3.7.2 หลาวเหล็ก หลาวเหล็กเป็นทิศที่ทำให้รับอันตราย และความไม่ปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สิน นับเป็นทิศที่ถือว่าอัปมงคล การจะทำพิธีมงคลต่างๆ การเดินทางไกล ไปค้าขายหรือการแสวงโชคพึงหลีกเลี่ยงทิศนี้ หลาวเหล็กจะเปลี่ยนตำแหน่งที่อยู่ตามเลาที่เปลี่ยนไปเช่นเดียวกันกัยดาวเพดาน การหาตำแหน่งทิศของหลาวเหล็กที่นายน้อย บุญตาแสง ได้ให้ข้อมูลกับผู้วิจัย เป็นโฉลก หรือ โสก ของอีสาน ดังนี้ ทิตย์ศุกร์ตก จันทร์เสาร์ออก คารพุธเหนือ พหัสใต้ ซึ่งหมายถึง วันอาทิตย์กับวันศุกร์หลาวเหล็กอยู่ทิศตะวันตก วันจันทร์กับวันเสาร์อยู่ทิศตะวันออก วันอังคารกับวันพุธอยู่ทิศเหนือและวันพฤหัสบดีอยู่ทิศใต้ การชนไก่ยังถือว่าเป็นการเสี่ยงโชค หากต้องการแต่ชัยชนะกลับมาหรือที่เรียกว่า โชคดี เท่านั้น ดังนั้นการปล่อยไก่เพื่อเข้าชนต้องหาทิศทางที่เหมาะสมโดยต้องไม่หันหน้าไก่ไปในทิศทางหลาวเหล็ก หากไก่ถูกหลาวเหล็กแล้วก็จะทำให้ไก่ได้รับบาดเจ็บ เช่น ตา บอด ถูกเดือย เป็นต้น จนต้องประสบกับความพ่ายแพ้ไปในที่สุด 3.7.3 หล่มหลวง คำว่า หล่ม ในภาษาอีสาน หมายถึง ล่ม หรือ ล่มจม ส่วนหลวงนั้น หมายถึง ใหญ่ หรือ ใหญ่หลวง เพราะฉะนั้น หล่มหลวง ก็คือ ทิศทางที่ทำให้เกิดความล่มจมอย่างมหาศาล และหากเป็นชาวบ้านมักเรียกว่า ดวงซวย คือตรงข้ามกับคำว่า หมาน ดังนั้นการจะทำการใดๆก็แล้วแต่ชาวบ้านผู้ที่มีความเชื่อเกี่ยวกัยเรื่องนี้ก็จะหลีกเว้นทิศทางหล่มหลวง แม้ไปชนไก่ก็ตาม ไก่เราเป็นต่ออยู่ดีๆ แต่ถ้าถูกหล่มหลวงแล้วก็จะกลับมาเป็นแพ้ได้ ทำให้เสียเงินเสียทองหรือทรัพย์สินอื่นอีกก็ได้ หรือที่ชาวบ้านมักพูดล้อเลียนว่า เจี๊ยสร้อย เจี๊ยแหวน เจี๊ยนาฬิกา หมายถึงมีอะไรก็เสียหายหมด ดังนั้นการชนไก่จึงไม่เดินทาง หรือไม่ปล่อยไก่ให้หันหน้าไก่ไปยังทิศหล่มหลวงเป็นอันขาด 3.7.4 เจ้าที่เจ้าทาง เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่รักษาสถานที่ต่างๆ จากการสัมภาษณ์นายสถิตย์ หลวงนันท์ ชาวบ้านโนนทันได้เปิดเผยกับผู้วิจัยว่า เมื่อถึงวันจะนำไก่ออกชนต้องมีการบอกเล่าเจ้าที่เจ้าทางที่ประจำอยู่สถานที่อันเป็นซุ้มไก่ก่อนทั้งนี้เพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาสถานที่แห่งนั้นได้ช่วยคุ้มครองและบันดาลให้ไก่ชนะกลับมา โดยก่อนจะออกไปเป็นการบอกเล่าหรือคอบเอาไว้ก่อน เมื่อไก่ชนะกลับมาแล้วก็กลับมาเลี้ยงหรือ ปงด้วย ข้าวห้าคำ กล้วยห้าลูก หมากห้าคำ บุหรี่ห้ามวล เหล้าขาวหนึ่งจอก(หนึ่งฝาขวดเหล้าก็ได้) ดอกไม้ห้าคูและเทียนห้าคู่ จากนั้นก็จุดเทียนสองเล่มแล้วบอกเป็นคำพูดในลักษณะว่า เมื่อวานนี่ ได้เอาไก่ไปตี ได้โชคได้หมานกลับมา บาดนี่ให้มากินซะเด้อ แล้วต่อไปกะให้โชคให้หมานคือเก่านี่หละ หมายถึง เมื่อวานนี้ได้นำไก่ออกชนและชนะกลับมา ขอให้เจ้าที่เจ้าทางมากินอาหารที่จัดเลี้ยง และหากนำไก่ออกชนอีกก็ให้ตามคุ้มครองให้ชนะกลับมาอีก 3.7.4 นางธรณี จาการสังเกตและผู้วิจัยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมการชนไก่กับซุ้มของนายสำเรียน เทพไกรวัลย์ ที่บ้านหว้า ตำบลบ้านหว้า อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยผู้วิจัยมีจุดประสงค์ที่จะสังเกตว่า ผู้เลี้ยงไก่ชนนั้นนำไสยศาสตร์และพิธีกรรมมาใช้ในการชนไก่อย่างไรบ้าง ก่อนการออกเดินทางเพื่อไปที่สนามหรือบ่อนไก่นั้น นายสำเรียน เทพไกรวัลย์ได้เดินหาต้นทองพันชั่งหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ต้นดอกไม้ ซึ่งอันนี้เห็นจะเรียกไม่ค่อยถุกต้องนักเพราะต้นทองพันชั่งมีแต่ใบไม่มีดอก และจะเด็ดเอาใบทองพันชั่งมาห้าคู่ แลว้กลับมาอุ้มไก่ไปในที่คนไม่ค่อยเดินผ่านหรืออาจเป็นโคนต้นไม้ในบริเวณที่เป็นซุ้มไก่ แล้วพูดกับนางธรณีว่า มื่อนี่สิเอาไก่ไปตี ให้แม่นางธรณีช่วยปกปักรักษา ให้มีแต่โชคแต่ชัยหมานเงินหมานทองกลับมาเด้อ หมายถึงวันนี้จะนำไก่ไปชนขอให้แม่ธรร๊ช่วยคุ้มครองให้ได้เงินกลับมา เมื่อพูดจบก็หยิบเอาดินใส่หัวไก่หนึ่งครั้งแล้วจึงออกเดินทางไปสนามหรือบ่อนที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ ต่อเมื่อไก่ชนะกลับมาแล้วจจะซื้อเหล้ามาร่วมฉลองความดีใจในการชนไก่ชนะในวันนั้น เมื่อเปิดเหล้าออก กอ่นอื่นจะต้องเทเหล้าใส่ฝาที่ปิดมากับขวดเหล้าเทลงพื้นโดยที่เหล้าขวดนั้นยังไม่มีใครดื่ม พร้อมกับบอกว่า มื่อนี่หมาน มากินซะเด้อ หมายถึง วันนี้ชนะกลับมาแล้วขอให้แม่ธรณีกินเหล้าที่รินให้ด้วย การ บอกแก่นางธรณ๊นี้ยังนำไปใช้ในตอนกอ่นปล่อยไก่เข้าชนได้อีก โดยหยิบดินจากพื้นมาใส่กระหม่อมของไก่เพื่อให้แม่ธรณ๊คุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากการต่อสู้ สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นวิถีชีวิตของคนเลี้ยงไก่ชน ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ว่ามีความสัมพันธ์กันอยู่ระหว่างคน กับสิ่งแวดล้อม และสิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ ชาวบ้านนำพิธีไสยศาสตร์มาเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ มีกำลังใจ เกิดความเชื่อมั่นและมั่นคงในชีวิตในยามที่ประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ และรู้สึกสับสนและสุ่มเสี่ยงให้มีความมั่นคงในทางจิตใจยิ่งขึ้น |
||
|