ไก่ชน2002    ภูมิปัญญาการเลี้ยงไก่ชน  มองวิถีชีวิตคนผ่านการเลี้ยงไก่

ค้นหา:

วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2547

คุณเข้าเยี่ยมชมคนที่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เว็บไซท์ที่น่าสนใจ
ไก่ชนพม่า
ซุ้ม ป.โชคชั
ตรีเพชรฟาร์มไก่ชน
ไก่ชนชลดา
ไก่ชนสยาม

ซุ้มขุนแผน
ผู้ใหญ่แสน
บ้านไก่ชน

ไก่ชน.คอม
thai.net/สุ่มไก่ 
บ้านไก่ไทย
ไก่ชนไทย
geocities/สุ่มไก่
thaicockfight.com
kaichon.com 
ไก่ป่าก๋อย

ซุ้มอ่างแก้ว
เสียงไก่ชน
ประดู่.คอม

ซุ้มวัฒนาไก่ชน
กรมปศุสัตว์
บุญเลี้ยงไก่ชน
เว็ปนครใหญ่ฟาร์ม

                              
  ปล่อยเลี้ยงแบบธรรมชาติ (ไก่คุณสมหวัง)

        3.3.9  กระบวนการคัดเลือกไก่ชน

                      ไก่ที่เกิดมาจากพ่อ-แม่ที่เป็นไก่ชนนั้นไม่ใช่จะใช้ชนได้ทุกตัว  ดังนั้นไก่ชนต้องผ่านกระบวนการคัดเลือกก่อน ซึ่งขั้นตอนนี้ต้องใช้ทั้งความละเอียดถี่ถ้วน ใช้ทั้งศาสตร์ ศิลป์     ประสบการณ์  ความรู้ความฉลาดที่ลุ่มลึกและซับซ้อน  มาพิจารณาคัดเลือกเพื่อให้ได้ไก่ชนที่ดีและชนเก่ง  จากข้อมูลภาคสนามพบว่าชาวบ้านในอำเภอเมือง  จังหวัดขอนแก่น  มีหลักการ   คัดเลือกไก่ชนดังต่อไปนี้

                        3.3.9.1  คัดเลือกจากสายเลือด (เหล่ากอเป็นการดูจากการถ่ายทอดสายเลือด  ว่าไก่ตัวนั้นมีพ่อ  แม่  ปู่  ย่า  ตา  ยาย  เป็นตัวไหน  มีประวัติการชนเป็นอย่างไร  จิตใจสู้ทรหด อดทนเพียงใด  เป็นไก่เชิง  ตีเจ็บ  ตีแผล  ตีหักหรือไม่  เพราะไก่ที่เป็นลูกเป็นหลานจะต้องได้รับการถ่ายทอดลักษณะดีเช่นนั้นออกมาด้วย (สงกรานต์ อภัยชา, สัมภาษณ์,14 มีนาคม 2545)    ดังนั้นการคัดไก่ชนต้องเลือกเอาตัวที่มาจากเหล่ากอที่ดีและมีชื่อเสียงในการชนมาก่อน

               3.3.9.2  คัดเลือกจากลักษณะภายนอก  เป็นการดูจากรูปร่าง  หน้าตา  ท่าทางโดยพิจารณาอย่างละเอียด จากอวัยวะภายนอกของไก่ทุกส่วนตั้งแต่จะงอยปากเลยไปจนเล็บเท้า(สงกรานต์  อภัยชา, สัมภาษณ์  : 14 มีนาคม 2545) เพื่อเปรียบเทียบกับตำราและความเชื่อของคนโบราณที่ได้รับการพิสูจน์ซ้ำมาแล้วว่าเป็นลักษณะไก่ชนที่ดี ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในหัวข้อต่อไป

                   3.3.9.3  คัดเลือกจากลักษณะภายใน  เป็นการดูจากความสามารถในการชนของไก่ให้ประจักษ์แก่สายตา  โดยการซ้อมหรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ”ปล้ำไก่” ว่ามีเชิงชนและ ลำหักลำโค่นพอที่จะนำไปเลี้ยงชนได้หรือไม่ก่อนที่จะนำไปเลี้ยงชน (วิรัตน์      เจียมเมืองปัก, สัมภาษณ์, 14 มีนาคม 2545)

จะเห็นว่าแม้จะคัดไก่ส่วนที่มีองค์ประกอบทางร่างกายไม่เหมาะที่จะนำมาเป็นไก่ชนได้ออกไปส่วนหนึ่งแล้ว  ส่วนที่ เหลือต้องนำมาคัดอีกโดยดูจากเหล่ากอ  เมื่อได้เหล่ากอที่ดีแล้วก็มาคัดจากดูลักษณะภายนอก  จากนั้นจะต้องนำมาทดลองปล้ำดูให้เห็นจริง  กระบวนการคัดไก่นั้นเป็นการคัดแล้วคัดอีกเพื่อให้ได้ไก่ชนที่มีคุณภาพ  จึงทำให้เกิดภูมิปัญญาที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเลี้ยงไก่ชนในขั้นตอนนี้มากมาย  หากผ่านกระบวนการนี้แล้วชาวบ้านจึงจะนำไปบำรุงเลี้ยงและฝึกซ้อมเพื่อชนต่อไป

3.3.9                การซ้อมเพื่อออกบ่อน

           ไก่ชนหากเปรียบกับคนก็เหมือนนักมวย ต่างกันที่ไก่ชนมีเชิงชนติดตัวมาโดย    สายเลือด  แต่นักมวยเรียนรู้เชิงมวยด้วยการฝึกหัด  การเอาคนมาต่อยมวยโดยไม่ได้ผ่านการฝึกซ้อมมาก่อนนั้นย่อมมีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ  ดังนั้นนักมวยจึงต้องมีการฝึกซ้อมและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ  ด้วยเหตุผลเดียวกันไก่ชนจะต้องมีการลงนวม  ฝึกซ้อม  ปล้ำนวมและ    ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายมีความแข็งแรง  มีพละกำลังและมีความอดทน  เพราะไก่ชนต้องใช้กำลังในการปะทะสูงและเอาร่างกายเข้าแลกกับความเจ็บปวด (วิรัตน์ เจียมเมืองปัก, สัมภาษณ์,  14 มีนาคม 2545)  ดังนั้นการฝึกซ้อมไก่ชนจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง  ส่งผลให้แพ้-ชนะได้  ชาวบ้านจึงมีวิธีการฝึกซ้อมและปล้ำไก่อยู่หลายวิธีดังนี้

       3.3.10.1 การซ้อมลงนวม

                       นำไก่ชนมาถ่ายพยาธิ  อาบน้ำตากแดด  วิ่งสุ่มและให้อาหารบำรุงไก่ชนครบ 7 วันแล้ว  จะนำไก่ไปซ้อมลงนวม โดยหาคู่ต่อสู้ที่มีอายุและน้ำหนักใกล้เคียงกัน การซ้อมครั้งนี้ไก่ชนจะต้องสวมสนับที่จะงอยปากเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดบาดแผลจากการจิกตีกันและพันแข้งด้วยผ้านุ่มๆหรือฟองน้ำ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นปล่อยไก่ชนกัน 2 ยกๆละ 15 นาที ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ  ครั้ง (สงกรานต์  อภัยชา, สัมภาษณ์, 14 มีนาคม 2545)  เนื่องจากการซ้อมไก่ต้องใช้ไก่สองตัวสมมุติสถานการณ์ให้เป็นคู่ต่อสู้กันชาวบ้านจึงนิยมเลี้ยงไก่สองตัวเพื่อจะใช้ปล้ำนวมกันได้โดยไม่เสียเวลาเดินทางไปหาคู่ซ้อมกับซุ้มอื่นหรือค่ายอื่น

        3.3.10.2 การซ้อมจริง

หลังจากที่ซ้อมลงนวมได้ประมาณ 3 ครั้งหรือ 6 ยกแล้วปล่อยให้ไก่พัก 3 วัน หลังจากนั้นให้หาคู่ซ้อมที่มีน้ำหนักและอายุไล่เรี่ยกันไม่นิยมนำไก่เหล่าเดียวกันซ้อมกัน  เพราะไก่เหล่าเดียวกันจะมีชั้นเชิงคล้ายกันจะทำให้ไม่รู้ว่าไก่ของเราดีอย่างไร  แค่ไหน  มีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร จึงต้องหาไก่ต่างซุ้มคนละ เหล่าเป็นคู่ซ้อม ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์โยงใยในสังคมของคนเลี้ยงไก่ชนได้เป็นอย่างดี การซ้อมจริงจะต้องใช้ผ้าปิดตอเดือยเพื่อป้องกันการแทงกันก่อนส่วนมากใช้ผ้ายีนส์ตัดให้กว้างประมาณ  นิ้ว  ยาว  10  นิ้ว  พันรอบขาและเดือย  4-5  รอบแล้วใช้ยางรัดไม่ให้ผ้าหลุดก็เป็นอันใช้ได้  การซ้อมควรปล่อยให้ซ้อมไม่เกิน 2 ยก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของไก่ การซ้อมจริงจะต้องเปลี่ยนคู่ซ้อมไปเรื่อยๆ เว้นช่วงห่างกันประมาณ 10 – 15 วัน  จึงซ้อม 1 ครั้งและเมื่อนับจำนวนยกที่ซ้อมจริงแล้ว รวมกันได้ 8 – 10 ยกจึงถือว่าไก่พร้อมที่จะออกบ่อนได้ (สงกรานต์  อภัยชา, สัมภาษณ์, 14 มีนาคม 2545)

3.3.10.3 การล่อไก่

การล่อจะเป็นการฝึกให้ไก่ออกกำลังโดยการวิ่งและบิน  ซึ่งการล่อไก่นี้จะทำหลังจากที่ผ่านลงนวมมาแล้ว ส่วนมากจะทำการล่อในช่วงเช้า โดยล่อเป็นทางตรงหรือทางอ้อมแล้วแต่สะดวก จุดประสงค์เพื่อให้ไก่ได้ออกกำลังกาย  เพื่อให้ไก่มีร่างกายสมบูรณ์  แข็งแรง  กล้ามเนื้อทุกส่วนมีความแข็งแกร่ง    การล่อไม่มีวิธีที่ดีที่สุด  การเลี้ยงไก่ออกบ่อนหนึ่งตัวอาจใช้การล่อหลายๆวิธีผสมผสานกัน (สงกรานต์  อภัยชา, สัมภาษณ์, 14 มีนาคม 2545)  ซึ่งการล่อไก่มีหลายวิธีดังนี้

                          1) วิธีให้ไก่ว่ายน้ำ เป็นวิธีแบบโบราณ ซึ่งได้สัมภาษณ์นายเพ็ชรผล  พันธ์ผาง กล่าวถึงวิธีนี้ว่า เคยเห็นคนเลี้ยงไก่ในสมัยก่อนทำกันมา  การล่อไก่วิธีนี้ทำโดยปล่อยไก่ให้ลงในสระหรือห้วยที่อยู่ใกล้บ้าน  ไก่จะบินและใช้เท้าพุ้ยน้ำเพื่อที่จะเข้าฝั่งหรือใช้เรือพายนำไก่ออกจากฝั่งไกลประมาณ  10 เมตร แล้วปล่อยไก่ให้ว่ายน้ำข้ามไปฝั่ง  ไก่จะใช้เท้าพุ้ยน้ำพร้อมกับกระพือปีกบินเพื่อพยุงตัวเองให้พ้นน้ำ  ทำเช่นนี้ทุกวันพร้อมกับเพิ่มจำนวนครั้งในการว่ายน้ำขึ้นเรื่อยๆ  จนเห็นว่าไก่เหนื่อยพอสมควร  วิธีนี้ได้กำลังขาและปีกไปพร้อมๆกัน  แต่มีข้อเสียคือ  ปีกไก่จะเปียกน้ำเป็นสาเหตุให้ขนปีกเปราะหักง่าย ใช้ชนได้ไม่นาน      (เพ็ชรพล  พันธุ์ผาง, สัมภาษณ์, 12 มีนาคม 2545) และมีข้อจำกัด คือ ต้องมีแหล่งน้ำด้วย

                           2) วิธีโยนไก่ ใช้มือหนึ่งจับที่ขาไก่รวบเข้ากันไว้  แต่จับแบบหลวมๆ  เพื่อไม่ให้ไก่เคล็ดขัดยอก  ส่วนอีกมือหนึ่งจับชูที่อกไก่พร้อมกับโยนไก่ขึ้นไปพอสุดปลายแขน  โดยที่ยังไม่ปล่อยไก่  แล้วให้ตกลงมาพร้อมกับเรานั่งลงโดยที่มือยังพยุงอยู่ไก่ก็จะกระพือปีกเป็นการบริหารปีก  การล่อไก่วิธีนี้ต้องทำด้วยความนุ่มนวลที่สุดและทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าไก่มีอาการเหนื่อยหอบพอสมควรจึงหยุด  วิธีนี้อาจทำให้ไก่ขัดยอกตามเนื้อตัวได้ง่าย  จึงมีการเปลี่ยนมาใช้ผ้าโยนแทน  โดยใช้ผ้าใบตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด  2.5X2.5 เมตร หรืออาจดัดแปลงใช้กระสอบป่านแทนก็ได้ ให้คนสี่คนจับคนละมุม  แล้วเอาไก่วางบนผ้า ดึงผ้าให้ตึง แล้วโยนขึ้นพร้อมๆกัน  ไก่จะลอยขึ้นไปบนอากาศแล้วจะกระพือปึก  ตกลงมาที่ผ้าเหมือนเดิม  เมื่อตกลงมาแล้วให้ดึงผ้าโยนขึ้นไปอีก  ทำเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าไก่เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบจึงหยุด  วิธีนี้จะเน้นให้ไก่บินได้เฉพาะกำลังปีกเท่านั้น (สงกรานต์  อภัยชา, สัมภาษณ์, 14 มีนาคม   2545)

                           3) วิธีผลักอก  ใช้มือข้างที่ถนัดชูอกไก่ไว้  และมืออีกข้างหนึ่งวางบนโคนหางไก่  แล้วมือที่อกให้ผลักขึ้นพร้อมๆกับมืออีกข้างกดโคนหางลง  ไก่จะกระพือตีปีกเหมือนกับตอนไก่จิกตีกัน  ทำไปเรื่อยๆจนไก่เหนื่อยหอบแล้วจึงหยุด  วิธีนี้มีข้อเสียคือ  เมื่อพบกับคู่ต่อสู้ที่ตีตัวแล้วมักจะออกอาการได้ง่ายๆ  แต่ก็มีผู้นิยมทำพอสมควรเพราะทำได้ง่าย  ประหยัดเวลาและใช้แรงงานน้อย  ไก่ได้ทั้งกำลังปีกและขา( นายสงกรานต์    อภัยชา , สัมภาษณ์  : 14 มีนาคม   2545  )  อย่างไรก็ตามการผลักอกจะทำให้ไก่ระบมบริเวณหน้าอกเมื่อถูกคู่ต่อสู้บริเวณนี้จะทำให้ไก่แพ้ได้ง่ายเช่นกัน

                              4) วิธีบินหลุม  ขุดดินให้เป็นบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.20 เมตร  ลึกประมาณ  1.50 เมตร  แล้วจับไก่ลงในบ่อแล้วใช้ไม้ไผ่เหลาเป็นไม้แส้ไล่ให้ไก่บินขึ้นจากหลุม  จำนวนครั้งการบินตั้งแต่  30 ครั้งไปจนถึง  100  ครั้ง แล้วแต่สภาพของไก่  ถ้าเห็นว่าไก่เหนื่อยหอบพอสมควรแล้วจึงหยุด  วิธีนี้มีคนใช้ถังซีเมนต์ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตรมาตั้งเรียงกันขึ้นไปก็จะได้ความสูง 1.50 เมตร  มาใช้แทนหลุม  แล้วใช้กระสอบป่านพาดรองรอบขอบบ่อเพื่อป้องกันขอบบ่อซีเมนต์บาดเท้าไก่  ก็ใช้ได้ผลเช่นเดียวกัน  วิธีนี้มีคนนิยมทำกันมากพอสมควร  ไก่ได้ทั้งกำลังปีกและขา( นายเพ็ชรพล     พันธุ์ผาง , สัมภาษณ์  : 12 มีนาคม   2545  ) ( นายสงกรานต์       อภัยชา , สัมภาษณ์  : 14 มีนาคม   2545  )

 อ่านต่อ
 ย้อนกลับ

กลับหน้าหลัก
กลับหน้าบทความวิชาการ

 

                                                           
ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด
19/03/2547 23:01:29