written by: earthy

CHAPTER 1: FAKE?

ณ ดินแดนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล ใครเล่าจะคิดว่าคนคู่นี้มาโคจรมาพบกันได้...

...21:45...เวลามาตรฐานประเทศญี่ปุ่น

"fuxx!!! ไอ้หมอนั่นมันคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ!!!!" เสียงชายหนุ่มลูกครึ่งสบถคำที่ติดปากของเขาอยู่เสมอออกมาอย่างรู้สึกขัดใจ เขารู้สึกว่าวันนี้เริ่มต้นการทำงานได้อย่างไม่สวยนัก
"ใจเย็นๆหน่อย ken คุง" producer พยายามเกลี้ยกล่อมให้อีกฝ่ายสงบสติอารมณ์ด้วยน้ำเสียงที่เจ้าตัวพยายามทำให้อ่อนอย่างสุดกำลังเพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มคนที่กำลังโมโหอยู่ตรงหน้าเขาคนนี้อารมณ์รุนแรงขนาดไหน การหยอกหรือกระเซ้าเย้าแหย่ใดๆก็อย่าหวังว่าจะทำให้คนๆนี้อารมณ์ดีขึ้น อย่าแม้แต่จะคิด...
'หมอนั่น' ที่ว่านั้นหมายถึงผู้ร่วมงานของเขาอีกคนหนึ่งซึ่งจนป่านนี้แล้วยังเงียบเชียบไม่ปรากฏแม้เงา นี่มันอะไรกัน คนที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างเขากลับต้องมาเสียเวลาจากการ'รอ'อย่างนั้นหรือ นี่มันหนที่เท่าไรแล้ว ตารางเวลาทุกอย่างของเขาเป็นอันต้องเสียไปเพราะเจ้าหมอนี่อีกแล้ว
"ยังไงก็ต้องทำงานร่วมกันนะ ken คุง ระงับอารมณ์ไว้บ้างก็ดี"
"วะ! แล้วผมไม่ใช่ผู้ร่วมงานของมันรึไง ทำงี้มันไม่ให้เกียรติกันนี่หว่า ผมจะกลับแล้ว" คว้าเสื้อแจ็คเก็ตที่วางอยู่ที่เก้าอี้ขึ้นพาดบนไหล่ก่อนที่จะก้าวออกจากห้องพร้อมเสียงกระแทกประตูอย่างรุนแรงที่ดังตามมา producer ได้แต่กุมขมับพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
Ken เป็นนักร้องหนุ่มเสียงดีมากคนหนึ่ง เขาไม่เคยรู้สึกยากลำบากกับการทำงานทุกอย่างเท่ากับช่วงเวลานี้ การทำงานร่วมกับคนที่ไม่มีความรับผิดชอบโดยเฉพาะเรื่องของเวลานั้นถือว่าสร้างปัญหาให้เขาเป็นอย่างมาก ทางบริษัทต้องการให้เขารวมตัวกับใครสักคนเพื่อฟอร์มวงขึ้นใหม่ แต่ยังไม่มีผู้ร่วมงานคนไหนที่ทำให้เขาพึงพอใจได้เลยและตอนนี้เขากำลังลุ้นอยู่กับการที่จะได้พบ Inoran เป็นครั้งแรกในสัปดาห์หน้าซึ่งเขารู้ดีว่าคนๆนี้เคยโด่งดังมาก่อนจากการเป็นมือกีตาร์ใน Luna sea
ระหว่างที่คิดอะไรต่างๆนานาอยู่นั้น เขาได้แวะที่สวนสาธารณะซึ่งเป็นทางผ่าน ตั้งใจว่าจะหาที่เหมาะๆสงบสติอารมณ์สักครู่ก่อนจะกลับ แต่เมื่อนึกถึงเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมาก็ทำให้หงุดหงิดขึ้นมาอีก เขาเงื้อเท้าเตะไปที่ก้อนหินที่อยู่ในรัศมีเท้าพอดีอย่างรุนแรงจนโด่งและกระเด็นไปไกลพอดู ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่ม้านั่งอย่างโกรธๆ
"โอ้ย!!!!!" เสียงร้องที่ดังไม่ไกลนักขึ้นทำให้ Ken สะดุ้งสุดตัว เขาไม่แน่ใจเท่าไรว่าเป็นเพราะเขาเตะก้อนหินไปโดนใครเข้าหรือเปล่า ไม่หรอกบังเอิญมากเกินไป เขาคิด
แต่อย่างน้อยความบังเอิญที่ว่านี้แหละที่ทำให้คนสองคนนี้มาพบกันได้ ก้อนหินลอยมาไกลสุดโต่งและตกเข้าที่หัวของใครคนหนึ่งเต็มๆจนเขาต้องร้องออกมา
Ken รีบลุกจากม้านั่งพร้อมกับเดินไปทางเจ้าของเสียงทันที เขาพบตัวคนที่ต้องการได้ไม่ยากเย็นนักเพราะเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะพบว่ามีใครที่กำลังเอามือกุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวดพร้อมๆกันทีเดียวหลายคน แต่เขาไม่แน่ใจเพียงอย่างเดียวว่าคนๆนี้เป็นผู้หญิงหรือว่าผู้ชายกันแน่เพราะอีกฝ่ายอยู่ในอิริยาบทที่ทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าได้ถนัดนัก ซ้ำผมที่ยังยาวลงมา...สีบลอนด์! เขาจึงพยายามสนทนาภาษาอังกฤษกับอีกฝ่ายจากความเข้าใจของตนเองว่าอีกฝ่ายเป็นคนต่างชาติ
"Hey, you! Did it hurt?" นั่งลงที่ด้านข้างของอีกฝ่าย
"โอ้ย did บ้า did บอไรล่ะวะ เจ็บจะตายชัก!" เมื่อได้รับคำตอบดังนี้ Ken ชักสีหน้าเล็กหน้า ถ้าเป็นปกติคงมีเรื่องกันไปแล้วแต่เป็นเพราะเขายังมีความสงสัยอะไรอยู่มากพอสมควรและเมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาทำให้ Ken ถึงกับผงะไปอีกครั้งเพราะเป็นใบหน้าที่งดงามที่สุดในชีวิตที่เขาได้เคยพบเห็นมา
"I..เอ้อ ขอโทษที" คำที่เขาพูดน้อยมากจนแทบนับครั้งได้ตั้งแต่เกิดมาลืมตาดูโลก แต่กลับพูดได้อย่างง่ายดายเมื่ออยู่ต่อหน้าชายหนุ่มรูปงามแปลกหน้าผู้นี้และเมื่อเสียงกังวานไพเราะเอ่ยขึ้น Ken รู้สึกราวกับต้องมนต์สะกดโดยชายหนุ่มรูปงามคนนี้
"เอ่อ ต้องขออภัยที่เมื่อครู่เสียมารยาทส่งเสียงดังไป จะไม่แนะนำตัวซักหน่อยรึ" เสียงไพเราะนั้นเอ่ยขึ้นอีกครั้ง
"K...Ken นาย...แล้วนายล่ะ" งงตัวเองอยู่เหมือนกันว่าจะแนะนำตัวไปทำไมกัน
"เรียกเราว่า Orlando" Ken รู้สึกทะแม่งกับวิธีการพูดจาของชายหนุ่มที่เรียกตนเองว่า Orlando มาตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ยินแล้ว แต่เขาเพิ่งจะได้สังเกตดีๆว่าลักษณะการแต่งกายช่างดูราวกับเพิ่งหลุดออกมากจากยุโรปยุคกลางยังไงยังงั้น แต่เขารู้สึกแปลกใจมากกว่าถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงทำไมเขาถึงสามารถสนทนากันได้รู้เรื่อง สมองของเขาคงไม่ได้เบลอถึงขึ้นแปรตัวเองให้เป็นระบบ bilingual ภายในเวลา 5 นาทีหรอก ในที่สุดเขาจึงตัดสินใจถามออกไป
"นาย...เป็นใครกันแน่" อีกฝ่ายหันมาอย่างเชื่องช้า
"ถ้าบอกว่าเราไม่ใช่มนุษย์เช่นเดียวกับท่านแล้วจะเชื่อเราหรือไม่" Ken พยักหน้ารับอย่างหน่ายๆ เริ่มแน่ใจว่าเจ้านี่จะหลุดออกมาจากโรงพยาบาลประสาทที่ไหนสักแห่งแถวๆนี้ นี่เราเผลอคุยกับคนบ้าไปได้เป็นตุเป็นตะเลยหรือนี่ แถมเกือบจะหลงเสน่ห์เพราะใบหน้าสวยๆนี่เสียด้วย น่าเสียดายที่หน้าตาก็ดี ไม่น่าเป็นบ้าซะได้
"ท่านเชื่อใจผู้อื่นง่ายอย่างนี้เสมอรึ" ต่อมอารมณ์ร้อนของ Ken ทำงานอีกครั้งทันทีที่ได้ยินคำพูดล้อเลียน เขาจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่อง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับอมยิ้มเพราะเพิ่งจะเคยได้พานพบกับคนอารมณ์ร้อนเยี่ยง Ken เป็นคนแรก
"หน้าฉันดูเหมือนกำลังเชื่ออยู่มั้ยล่ะ หัวไม่มีแผลก็ดีแล้ว ฉันจะได้กลับซะที" หมุนตัวเตรียมออกจากบริเวณนี้ทันที แต่อีกฝ่ายหยุดเขาโดยเอาบางสิ่งที่เห็นเป็นเงาเพียงรางๆในความมืดขวางหน้าไว้
"คำพูดเมื่อกี๊นี้หมายความว่าท่านไม่เชื่อในสิ่งที่เราพูดเช่นนั้นหรือ"
"คิดว่าท่อนไม้แค่นี้จะทำอะไรฉันได้เรอะ" Ken จ้องหน้า Orlando อีกครั้ง เขาคิดว่าตนเองกำลังถูกอีกฝ่ายหาเรื่องกวนโมโห วันนี้มีเรื่องรบกวนเขามากพอแล้ว เขาเองก็กำลังต้องการหาทางระบายออกอยู่พอดีถ้าอยากจะมีเรื่องกันเขาก็พร้อมเสมอ เขาปัดสิ่งที่ขวางเขาออกไปให้พ้นทางพร้อมกับเงื้อหมัดขึ้นหมายจะอัดอีกฝ่ายให้สลบไปซักคืนเผื่อว่าฟื้นขึ้นมาแล้วจะได้หายบ้าและจำอะไรได้บ้าง
"ช่างเป็นบุคคลเลือดร้อนเสียจริง" Orlando เอี้ยวตัวหลบหมัดนั้นได้อย่างรวดเร็วพร้อมกับใช้มือจับที่ด้ามของสิ่งที่ Ken เข้าใจว่ามันคือท่อนไม้เมื่อครู่พร้อมกับกระแทกปลายด้านหนึ่งเข้าไปที่หน้าอกของ Ken อย่างแรงจนกระเด็นและล้มลงไป ชายหนุ่มกุมหน้าอกด้วยความเจ็บ เขาไม่เคยเสียท่าใครง่ายๆอย่างนี้มาก่อนเลย
"ต้องขออภัยอีกครั้งที่ต้องมีการลงไม้ลงมือทำให้ท่านบาดเจ็บ" ค้อมตัวให้อย่างสุภาพแต่ Ken ยิ่งรู้สึกว่าเขากำลังถูกกวนประสาทมากกว่าเดิม
"แล้วก็กรุณาพิจารณาสิ่งนี้ให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง" Ken มองตามยังสิ่งของที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายแล้วพบว่ามันเป็นคันธนูยาว ไม่ใช่ท่อนไม้อย่างที่เขาเข้าใจในตอนแรก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามตอนนี้เขารู้สึกเหลืออดเต็มทีเหลือเกินแล้ว
"อันที่จริงเราไม่อยากเกี่ยวข้องอันใดกับท่าน แต่ ณ เวลานี้เราถือว่ามีพันธะต่อกันเสียแล้ว"
Ken แทบอยากจะร้องออกมาเป็นภาษาเอลฟ์ ถ้านี่เป็นความฝันก็อาจจะดีหรอกแต่เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว เขายันตัวเองให้ลุกขึ้นยืนช้าๆพร้อมกับตะโกน
"โว้ย! ไอ้นั่นจะเป็นอะไรก็ช่างมันเถอะ! แล้วพันธะบ้าบออะไรก็ไม่ใช่ธุระของฉัน หลีกไปซะ!" Ken เดินออกจากบริเวณนั้นทันทีโดยไม่คิดที่จะสนใจใยดีกับคนที่เรียกตัวเองว่าไม่ใช่มนุษย์
ชายหนุ่มเดินพึมพำไปเรื่อยตลอดทางเขาคิดว่าควรแวะซื้ออะไรก่อนเข้าบ้าน เขาจึงตัดสินใจเดินเลี้ยวไปทางมินิมาร์ทแต่แล้วเมื่อเขาหันกลับมาพบร่างของ Orlando ยืนอยู่ก็มีอันตกตะลึงอีกครั้ง
"เฮ้ย!!!! อะไรวะ ยังจะตามมาอีก บอกแล้วไงว่าธุระไม่ใช่ ไปห่างๆเลยไป!" แหกปากไล่เสียงดังลั่นทำให้คนที่เดินสัญจรไปมาบริเวณนั้นต่างก็พากันตกใจไปตามๆกัน Ken รู้สึกตัวจึงลดเสียงลงแต่ก็ไม่ได้ค่อยลงกว่าเดิมมากเท่าใดนัก
"แล้วจะตามมาทำไมอีก เดี๋ยวก็อัดซะหรอก" พูดไปอย่างนั้นหวังว่าท่าทางของเขาจะข่มขู่อีกฝ่ายให้เกรงกลัวได้บ้างแต่ผลลัพธ์กลับเป็นตรงกันข้ามเสียสนิทเพราะอีกฝ่ายดูสงบนิ่งเฉยไม่มีอาการให้เห็นว่าเกรงกลัวอะไรเลย
"เราลืมบอกท่านว่านอกจากท่านไม่มีใครมองเห็นเราหรอกนะ" พูดพลางกลั้นยิ้มอย่างนึกขำ
"ว่าไงนะ!?" Ken หันมาเผชิญหน้า ตกใจหนักยิ่งกว่าเก่า
"ความหมายเป็นไปอย่างที่พูด มีสิ่งใดเข้าใจยากหรือ"
Ken เหลียวมองรอบตัวเองซ้ายทีขวาทีอย่างวิตก สายตาของคนที่อยู่รอบๆตัวเขาชักจะทำให้เริ่มเชื่อขึ้นมาบ้างแล้วว่าเขามองเห็นบุรุษปริศนาคนนี้อยู่เพียงคนเดียว ทำไมซวยอย่างนี้เนี่ย สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนด้วยสถานการณ์ถ้าหากยังมีใครสังเกตได้ว่าเขาคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่แถวนี้คงมีผู้หวังดีโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวเขาไปแน่ เขาเอาสองมือล้วงกระเป๋าอย่างอดกลั้นไม่ให้ตั๊นหน้าบุคคลที่แลดูเหมือนอากาศธาตุคนนี้ก่อนจะเดินนำหน้าลิ่วไปทันที ระหว่างที่เดินตามอยู่นั้น Orlando ก็เอ่ยขึ้น
"ถ้าท่านจะฟังกันสักหน่อยช่วยกรุณาหยุดสักครู่" และได้ผล Ken หยุดชะงักทันทีพร้อมหันหน้าบูดบึ้งของเขากลับมามอง
"...ยืดเยื้อจริง มีอะไรว่าไป" เอ่ยอย่างยอมรับสภาพไปครึ่งหนึ่ง อีกอย่างก็คงไม่มีอะไรมาทำให้เขาประสาทเสียมากไปกว่านี้อีกแล้ว...หรือว่าไม่ใช่
"เราปรากฏตัวในร่างมนุษย์ได้" ชายหนุ่มประสานมือทั้งสองเข้าหากันราวกับจะทำอะไรบางอย่าง Ken รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างไรพิกล 'เจ้าหน้าหวานนี่คงไม่ได้คิดจะโผล่ออกมาตรงนี้ดื้อๆใช่มั้ย' เขาคิด และความคิดนั้นดูท่าว่าจะกลายเป็นจริงเสียด้วยเมื่อเขาสังเกตว่ามีแสงบางอย่างเรืองรองออกมาจากร่างของชายหนุ่มตรงหน้าเขาและโดยไม่รอช้า Ken รีบกระชากแขนของอีกฝ่ายรีบพุ่งตรงไปยังห้องพักของเขาทันทีพร้อมทั้งด่าซ้ำ
"โผล่ออกมาตรงนั้นผู้คนได้แตกตื่นกันหมดหรอก จะบ้าเรอะไงวะ!!!" เมื่อตะโกนเสร็จก็หอบด้วยความเหนื่อย
ทว่าเสียงบ่นด่าไม่มีผลต่อชายหนุ่ม Orlando มากนักเพราะสายตาของเขากำลังทอดไปยังรอบๆห้อง สำหรับเขาที่นี่เป็นสถานที่ที่ดูแปลกตาอีกทีหนึ่ง Ken มองท่าทางของชายหนุ่มที่มีต่อห้องเขาก็ถอนหายใจยาวออกมา
"ที่นี่ห้องฉัน อยากจะปรากฏตัวหรือทำอะไรก็ทำ แล้วรีบๆไปซะทีเหอะ" Ken เดินเข้าห้องของตนเองแล้วกระแทกประตูใส่อย่างไม่ใยดี พร้อมกับทิ้งตัวลงบนที่นอนและหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน ยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก วันนี้เป็นวันที่ทำให้เขาเหนื่อยเอามากๆ แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาพบกับใบหน้าหวานอีกครั้งทำให้เขาสะดุ้งสุดตัว
"มีหลายอย่างที่เราต้องอธิบายและท่านเองก็เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างที่ไม่อาจช่วยได้" Ken เพิ่งจะได้มองการเปลี่ยนแปลงของ Orlando อย่างชัดเจน กระทั่งการแต่งกายด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์ที่ดูแตกต่างจากที่เขาได้เห็นครั้งแรกอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างช่างดูเหมือนคนทั่วไปทุกประการเว้นเสียแต่การพูดจาที่ยังคงยืดเยื้อฟังแล้วชวนง่วงนอนสิ้นดี
ชายหนุ่มได้อธิบายให้ Ken ฟังว่าเขาได้รับมอบหมายหน้าที่ให้มาประจำอยู่ที่เมืองนี้ แต่ว่าการปรากฏตัวของ Ken นั้นถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เขาไม่คาดฝันซึ่งเขาต้องแก้ไขโดยต้องมี Ken ร่วมรับผิดชอบ มิฉะนั้นต้องได้รับโทษทัณฑ์จากสิ่งที่เกิดขึ้น
"ฟังให้ดี นายกำลังทำอะไรอยู่ฉันไม่สน ฉันไม่ใช่นักบุญที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องเดือดร้อนของคนอื่น แล้วก็จะพูดอีกแค่ครั้งเดียวนะ ออก-ไป-ซะ!" เขาพูดพลางชี้นิ้วไปทางประตูห้อง
"เรารู้ว่าท่านไม่ใช่ผู้ที่จิตใจโหดร้ายเช่นยักษ์มารเพราะท่านมีความเป็นห่วงบาดแผลบนศีรษะของเรา" Ken สวนไปว่าที่เขาทำอย่างนั้นเพราะความรับผิดชอบต่างหากที่เขาเตะก้อนหินไปโดนหัวของชายหนุ่มเข้า
"เมื่อมีความรู้สึกผิดชอบอยู่ท่านยิ่งควรจะช่วยเหลือเราเนื่องจากท่านเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้"
Ken รู้สึกจนมุมเนื่องด้วยคำพูดของตัวเขาเองทำให้เขายอมช่วยเหลือ Orlando ตามคำขอร้อง ชายหนุ่มต้องการให้ Ken ช่วยตามหาผู้ชายคนหนึ่ง ที่จริงแล้วเขาได้อยู่ที่สวนสาธารณะแห่งนั้นด้วยหากแต่ Ken ไม่ทันสังเกต ตามปกติแล้ว Orlando สามารถล่วงรู้ตำแหน่งของผู้ที่อยู่ในงานของเขาล่วงหน้าก่อนเสมอ แต่เมื่องานผิดพลาดเขาจำเป็นต้องตามหาคนผู้นี้ด้วยตัวของเขาเอง
"ท่านอาจจะเข้าใจผิดว่าเราเป็นผู้มีอำนาจวิเศษ ถ้าเราเป็นเช่นนั้นเราคงไม่จำเป็นต้องลำบากให้ท่านช่วยเหลือ"
Ken ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าสิ่งที่ออกมาจากปากของคนผู้นี้จะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนแต่ก็ไม่มีอะไรที่จะมาพิสูจน์ได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขามีเหตุผลส่วนตัวเพิ่มขึ้นมาอีกประการหนึ่ง เขาจึงรับปากกับ Orlando ว่าจะช่วยก็ได้แต่มีเรื่องที่ต้องตกลงกันก่อน
"นายควรจะพูดกับฉันให้เหมือนที่ฉันพูดกับนายนะ เหมือน'คน'เค้าคุยกันน่ะ หวังว่าคงทำได้นะ" อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยกมือขึ้นเกาที่แก้มด้วยความไม่แน่ใจตนเอง แต่ Ken ไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดว่าจะทำได้หรือไม่ เขายื่นคำขาดให้ Orlando เลิกเรียกเขาว่า'ท่าน'เป็นอันดับแรก





Ken


Orlando
to be continued...