คติธรรม นำสุขใจ ตอน ๑๖ พระโอวาทของท่านอรหันต์จี้กง...

รายละเอียด :

ชีวิตย่อมเป็นไปตามลิขต (ละชั่วทำดี)...........................วอนขออะไร
วันนี้ไม่รู้เหตุการณ์ในวันพรุ่งนี้....................................กลุ้มเรื่องอะไร
ไม่เคารพพ่อแม่แต่เคารพพระพุทธองค์.........................เคารพทำไม
พี่น้องคือผู้ที่เกิดตามกันมา.........................................ทะเลาะกันทำไม
ลูกหลานทุกคนล้วนมีบุญตามลิขิต................................ห่วงใยทำไม
ชีวิตย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จได้..........................ร้อนใจทำไม
ชีวิตใช่จะพบเห็นร้อยยิ้มกันได้ง่าย................................ทุกข์ใจทำไม
ผ้าขาดปะแล้วกันหนาวได้............................................อวดโก้ทำไม
อาหารผ่านลิ้นแล้วกลายเป็นอะไร...................................อร่อยไปใย
ตายแล้วบาทเดียวก็เอาไปไม่ได้.....................................ขี้เหนียวทำไม
ที่ดินคือสิ่งที่สืบทอดแก่คนรุ่นหลัง.................................โกงกันทำไม
โอกาสจะได้กลายเป็นเสีย.............................................โลภมากทำไม
สิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เหนือศรีษะเพียง ๓ ฟุต...........................ข่มแหงกันทำไม
ลาภยศเหมือนดอกไม้ที่บานอยู่ไม่นาน..............................หยิ่งผยองทำไม
ทุกคนย่อมมีลาภยศตามวาสนาที่ลิขิต...............................อิจฉากันทำไม
ชีวิตลำเค็ยเพราะชาติก่อนไม่บำเพ็ญ................................แค้นใจทำไม(บำเพ็ญไวไว)
นักเล่นการพนันล้วนตกต่ำ.............................................เล่นการพนันทำไม
ครองเรือนด้วยความขยันประหยัดดีกว่าไปขอพึ่งผู้อื่น........สุรุ่ยสุร่ายทำไม
จองเวรจองกรรมเมื่อไรจะจบสิ้น...................................อาฆาตทำไม
ชีวิตเหมือนเกมหมากรุก................................................คิดลึกทำไม
ฉลาดมากเกินจึงเสียรู้...................................................รู้มากทำไม
ดีชั่วย่อมรู้กันทั่วในที่สุด.................................................โต้เถียงกันทำไม
ใครจะป้องกันมิให้มีเรื่องเกิดขึ้นได้ตลอด..........................หัวเราะเยาะกันทำไม
ฮวงซุ้ยที่ดีอยู่ในจิตไม่ใช่อยู่ที่ภูเขา....................................แสวงหาทำไม
ข่มเหงผู้อื่นคือทุกข์ รู้ให้อภัยคือบุญ..................................ถามโหรเรื่องอะไร
ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย.........................................วุ่นวายทำไม

...จากหนังสือ เหตุต้น - ผลกรรม...

จากคุณ :

โก๋ 2000 ปี [อ. 25 เม.ย. 2543 - 12:52:38 น.]

ความคิดเห็น :

โอวาทอรหันต์จี้กงคงดีหมด
จำทุกบทใส่เกล้าเว้าวอนท่อง
เป็นจริงทุกถ้อยถ้วนกระบวนกรอง
ความถูกต้องคติธรรมนำสุขใจ

โดยคุณ :

กุหลาบเวียงพิงค์ [อ. 25 เม.ย. 2543 - 23:59:46 น.]

ความคิดเห็น :

อรหันต์จี้กงตรงสอนธรรม
ควรน้อมนำจำสอนใจ
ดีทำ ชั่วละไป
ผลประสบพบดีงาม.

โดยคุณ :

ดอกสารภี [พ. 26 เม.ย. 2543 - 14:30:59 น.]

คติธรรม นำสุขใจ ตอน ๑๗ รักลูก...........ลูกรัก

รายละเอียด :

พ่อแม่ก็แก่เฒ่า
จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน
เพียงเสี้ยววารของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก
เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนทาน
ย่อมร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร
อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัน
คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า
เพียงเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน
คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึง
ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องให้ยามป่วยไข้
ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนโตใหญ่
แม่เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ยล
เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด
ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ
หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝั่ง
มีหรือหวังอยู่ทนได้
วันหนึ่งคงล้มไป
ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง

...หน้าสุดท้าย จากหนังสือ อานิสงส์ของการสวดพระพุทธคุณ
ของพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี...

จากคุณ :

โก๋ 2000 ปี [อ. 25 เม.ย. 2543 - 12:54:38 น.]

ความคิดเห็น :

พ่อแม่แลรักลูก
ยอมทนทุกข์เพื่อลูกขวัญ
เหนือยนักแสนจาบัลย์
โศกเศร้านั้นแม่ยอมทน

หวังเห็นเป็นฝั่งฝา
ทุกเวลาไม่ยอมบ่น
แสนเข็ญก็ยอมทน
ทุกข์ท่วมท้นบนน้ำตา

มิเคยหวังสักนิด
ว่าลูกคิดนิดเถิดหนา
มิเผยเอ่ยออกมา
หรือหวังไว้ให้ดูแล

โดยคุณ :

กุหลาบเวียงพิงค์ [พ. 26 เม.ย. 2543 - 00:17:17 น.]

ความคิดเห็น :

พ่อแม่แน่รักลูก
หมั่นฝังปลูกลูกถูกควร
กายใจใฝ่ชักชวน
พึงละชั่วทั่วทำดี

อดทนมิบ่นว่า
ดั่งแก้วตาลูกเป็นนี้
ถนอมป้องภัยมี
ลูกสุขสันต์พลันพอใจ

ลูกรักนักซึ้งค่า
ความเมตตาการุณไว้
ตอบแทนแม้นแสนไกล
เอื้อแม่พ่อไม่รอกาล.

โดยคุณ :

ดอกสารภี [พ. 26 เม.ย. 2543 - 12:54:55 น.]

คติธรรม นำสุขใจ ตอน ๑๘ วิธีทำสมาธิและวิปัสสนากรรมฐานแบบง่าย ๆ.............

รายละเอียด :

วิธีนั่ง...
...ให้นั่งขัดสมาธิ คือขาขวาทับขาซ้ายนั่งตัวตรง หลับตา
เอาสติมาจับอยู่ที่สะดือที่ท้อง พอง ยุบ
เวลาหายใจเข้าท้องพอง กำหนดว่า พอง หนอ
ใจนึกกับท้องที่พองต้องให้ทันกันอย่าให้ก่อนหรือหลังกัน
หายใจออกท้องยุบ กำหนดว่า ยุบ หนอ
ใจนึกกับท้องที่ยุบต้องทันกันอย่าให้ก่อนหรือหลังกัน
ข้อสำคัญให้สติจับอยู่ที่ พอง ยุบ เท่านั้น
อย่าดูลมที่จมูกอย่าตะเบ็งท้อง...

ให้มีความรู้สึกตามความเป็นจริงว่า
ท้องพองไปข้างหน้า
ท้องยุบมาข้างหลัง

อย่าให้เห็นเป็นไปว่า
ท้องพองขึ้นข้างบน
ท้องยุบลงข้างล่าง

ให้กำหนดเช่นนี้ตลอดไป จนกว่าจะถึงเวลากำหนด...

เมื่อมีเวทนา...
เวทนาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดจะต้องบังเกิดขึ้นกับผู้ปฏิบัติแน่นอน
จะต้องมีความอดทน เพื่อเป็นการสร้างขันติบารมีไปด้วย
ถ้าผู้ปฏิบัติขาดความอดทนเสียแล้ว
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้นก็ล้มเหลว...

ในขณะที่นั่งหรือเดินจงกรมอยู่นั้น
ถ้ามีเวทนา ความเจ็บ ปวด เมื่อย คัน เกิดขึ้น
ให้หยุดเดินหรือหยุดกำหนดพองยุบ
ให้เอาสติไปตั้งไว้ที่เวทนาเกิด และกำหนดไปตามความเป็นจริงว่า
ปวดหนอ ๆ ๆ ๆ เจ็บหนอ ๆ ๆ ๆ
เมื่อยหนอ ๆ ๆ ๆ คันหนอ ๆ ๆ ๆ เป็นต้น
ให้กำหนดไปเรื่อย ๆ จนกว่าเวทนาจะหายไป
เมื่อเวทนาหายไปแล้ว ก็ให้กำหนดนั่งหรือเดิน ต่อไป...

จิต...
เวลานั่งอยู่หรือเดินอยู่ ถ้าจิตคิดถึงบ้าน
คิดถึงทรัพย์สิน หรือคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ นานา
ก็ให้เอาสติปักลงที่ลิ้นปี่ พร้อมกับกำหนดว่า
คิดหนอ ๆ ๆ ๆ ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจิตจะหยุดคิด
แม้ดีใจ เสียใจ หรือโกรธ ก็กำหนดเช่นเดียวกันว่า
ดีใจหนอ ๆ ๆ ๆ เสียใจหนอ ๆ ๆ ๆ โกรธหนอ ๆ ๆ ๆ เป็นต้น...

เวลานอน...
เวลานอน ค่อย ๆ เอนตัวนอน พร้อมกับกำหนดตามไปว่า
นอนหนอ ๆ ๆ ๆ จนกว่าจะนอนเรียบร้อย
ขณะนั้นให้เอาสติจับอยู่กับอาการเคลื่อนไหวของร่างกาย
เมื่อนอนเรียบร้อยแล้วให้เอาสติมาจับที่ท้อง
แล้วกำหนดว่า พองหนอ ยุบหนอ ต่อไปเรื่อย ๆ
ให้คอยสังเกตให้ดีว่าจะกลับไปตอนพอง หรือตอนยุบ...

อิริยาบทต่าง ๆ...
การเดินไปในที่ต่าง ๆ
การเข้าห้องน้ำ การเข้าห้องส้วม การรับประทานอาหาร
และการกระทำกิจการงานทั้งปวง
ผู้ปฏิบัติต้องมีสติกำหนดอยู่ทุกขณะในอาการเหล่านี้
ตามความเป็นจริง คือมี สติสัมปชัญญะเป็นปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา...

...หนังสือ อานิสงส์ของการสวดพระพุทธคุณ
ของพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี...

จากคุณ :

โก๋ 2000 ปี [อ. 25 เม.ย. 2543 - 12:56:49 น.]

ความคิดเห็น :

จุดเริ่มต้นอยู่ที่ปัจจุบัน ทุกขณะปัจจุบันที่รู้สึกตัว
จะต้องมีความตั้งใจ ธรรมแท้ๆ ต้องมีสติรู้อยู่
"ภายใน กาย ภายในใจตน" เท่านั้น
เอ...จะใช่ไหมคะ รู้จะต้องเป็นรู้ของปัจจุบัน
รู้สึกตัว "มีสติ" รู้สึกตัว รู้การกระทำที่เกิดขึ้น
จิตรู้สึกกายเกิดอะไรขึ้น "สุข ทุกข์"
รู้การเคลื่อนไหวทุกขณะจิต "ยินดี ยินร้าย"
เอ...เป็นแบบนี้ใช่เปล่า

โดยคุณ :

กุหลาบเวียงพิงค์ [พ. 26 เม.ย. 2543 - 00:27:02 น.]

ความคิดเห็น :

สติปัฏฐานสี่
ทางเอกนี้ชี้นิพพาน
กาย เวทนา จิต ผ่าน
อีก ธรรมา พารู้ทัน

กาย รู้ยุบพองไว้
เวทนาไซร้ให้รู้นั้น
ชังชอบรู้เร็วกัน
จิต หมองชื่นตื่นตามดู

ธรรมาว่าดำเนิน
นิวรณ์เพลินเชิญรับรู้
อย่างไรได้นำสู่
สติสี่มีฐานตาม.

โดยคุณ :

ดอกสารภี [พ. 26 เม.ย. 2543 - 12:47:06 น.]

คติธรรม นำสุขใจ ตอน ๑๙ การจุดธูป ๓ ดอก และเทียน ๒ เล่ม...

รายละเอียด :

ธูป ๓ ดอก หมายถึง
ดอกที่ ๑ พระปัญญาคุณ...
ดอกที่ ๒ พระวิสุทธิคุณ...
ดอกที่ ๓ พระมหากรุณาธิคุณ...

การจุดเทียน ๒ เล่ม หมายถึง
เป็นการบูชาพระธรรมและพระวินัย

เล่ม ขวาของพระพุทธรูปหรือด้านซ้ายของผู้จุดเทียน
เป็นเทียนพระธรรม...

เล่มซ้ายของพระพุทธรูปหรือด้านขวาของผู้จุดเทียน
เป็นเทียนพระวินัย...


...หนังสือ อานิสงส์ของการสวดพระพุทธคุณ
ของพระราชสุทธิญาณมงคล วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี...

จากคุณ :

โก๋ 2000 ปี [อ. 25 เม.ย. 2543 - 12:58:15 น.]

ความคิดเห็น :

คติธรรมนำใจใสสะอาด
เป็นโอกาสศึกษาอย่าหลงไหล
เพลิดเพลินเจริญตาอาหารใจ
ธรรมะไซร้เป็นส่วนดีไว้ชี้แจง

โดยคุณ :

กุหลาบเวียงพิงค์ [พ. 26 เม.ย. 2543 - 00:37:08 น.]

ความคิดเห็น :

ธูปสามตามพุทธคุณ
มานำหนุนบุญเหลือหลาย
คุณพระนะมากมาย
น้อมรำลึกฝึกทำตาม

เทียนสองธรรมวินัย
หนทางไปใสทุกยาม
คุ้มคองทุกเขตคาม
ด้วนสำรวมร่วมกายใจ.

โดยคุณ :

ดอกสารภี [พ. 26 เม.ย. 2543 - 12:37:43 น.]

คติธรรม นำสุขใจ ตอน ๒๐ อย่า...

รายละเอียด :

อย่านอนตื่นสาย
อย่าอายทำกิน
อย่าหมิ่นเงินน้อย
อย่าคอยวาสนา
อย่าเสวนาคนชั่ว
อย่ามั่วอบายมุข
อย่าสุกก่อนห่าม
อย่าพล่ามก่อนทำ
อย่ารำก่อนเพลง
อย่าข่มเหงผู้น้อย
อย่าคอยแต่ประจบ
อย่าคบแต่เศรษฐี
อย่าดีแต่ตัว
อย่าชั่วแต่คนอื่น
อย่าฝ่าฝืนกฎระเบียบ
อย่าเอาเปรียบสังคม
อย่ชื่นชมคนผิด
อย่าคิดเอาแต่ได้
อย่าใส่ร้ายคนดี
อย่ากล่าวจีมุสา
อย่านินทาพระเจ้า
อย่าขลาดเขลาเมื่อมีทุกข์
อย่าสุขจนลืมตัว
อย่าเกรงกลัวงานหนัก
อย่าพิทักษ์พาลชน
อย่าลืมตนเมื่อมั่งมี...

...จากหนังสือ พระในบ้าน...

จากคุณ :

โก๋ 2000 ปี [อ. 25 เม.ย. 2543 - 12:59:32 น.]

ความคิดเห็น :

อย่าทั้งสิ้นสิ่งไม่ดีจงหนีห่าง
อย่าทุกอย่างสิ่งชั่วอย่ามัวหลง
อย่าต่ำช้าพาตัวกลัวต้องปลง
อย่าลุ่มหลงมัวเมาอับเฉานาน

โดยคุณ :

กุหลาบเวียงพิงค์ [พ. 26 เม.ย. 2543 - 00:44:14 น.]

ความคิดเห็น :

ชั่วทุกทางห่างไกลไม่เกี่ยวข้อง
ตามครรลองทำดีมีทุกเมื่อ
ทุกขณะไม่ละนะจุนเจือ
สำรวมเพื่อพ้นภัยไหลเข้าตน

ดำริธรรม นำนึก ฝึกไม่เที่ยง
เพียงรวมเสี่ยง ปัจจัยเสริม เติมเป็นผล
ปัจจัยจาก พรากมี นี้สัตว์คน
ยึดถือตน หม่นใจ ไม่ร้างรา.

โดยคุณ :

ดอกสารภี [พ. 26 เม.ย. 2543 - 12:31:59 น.]