เพลงดังจากวงนี้ยังมีอีกเยอะ อาทิ Black Night, Burn, Stormbringer, Strange Kind of Woman, Woman From Tokyo, Demons Eye, Soldier of Fortune, When a Blind Man Cries หรือ เพลงจากอัลบั้มแรกๆ อย่าง Hush ใหม่กิ๊กก็มีแม้สมาชิกวงจะเปลี่ยนไปเยอะก็ยังน่าฟัง
Black Sabbath โคตร HeaVy MeTal
ช่วงปี 1970 กำลังฟังเพลงฮาร์ตร็อกมันส์ๆ ก็มีวงใหม่จากอังกฤษออกมาให้ตื่นเต้นและโดนใจขาโจ๋สมัยนั้นเป็นบ้า เพลงอะไรไม่รู้ฟังดูโหยๆ แต่เสียงกีต้าร์หนักแน่น สำเนียงต่างชาวบ้านอย่างเห็นได้ชัด เสียงร้องก็หายห่วงเข้าลึกถึงทรวง ปีเดียววง Black Sabbath ออกเพลงมา 2 ชุด ชุดแรกชื่อเดียวกับชื่อวงคือ Black Sabbath ส่วนชุดที่สองชื่อ Paranoid ติดหูทั้งคู่ พอวงนี้โผล่เข้ามานักดนตรีมืออาชีพก็แกะเล่นกันทั่ว ก็มีแต่วงหลักๆ เท่านั้นนะที่เล่นได้เหมือน อย่าง V.I.P. พวกเด็กๆ อย่างเราพอจะเล่นได้ก็มีแต่เพลง N.I.B.,Paranoid กับ Iron Man ส่วนเพลงอื่นๆ เล่นยังไงก็ไม่เหมือน ยิ่งออกชุดที่ 3 ยิ่งเล่นยากไปใหญ่เพราะสมัยนั้นใครจะไปรู้ว่า อีตา Iommi มันจะโกงคนอื่นโดย Tune กีต้าร์ Gibson จากมาตรฐาน E เป็น C# ให้เสียงต่ำลงไปจากปรกติ วงนี้เล่นล้ำหน้ายุคสมัยมาหลายสิบปี พูดอย่างนี้เพราะเดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์ดีๆ สามารถปรับเสียงให้เหมือนเดี๋ย ! ได้สบายมาก
Black Sabbath ยุคก่อตั้งมี Ozzy (John) Osbourne นักร้องนำร่วมกับ Tony Iommi มือกีต้าร์ ผู้มีสองนิ้วเทียมเพราะเสียนิ้วไปสมัยทำงานโรงงาน Geezer (Terry) Butler กีต้าร์เบสส์กับ Bill Ward มือกลอง ก่อนหน้านี้ประมาณปี 1967 เคยเล่นด้วยกันมาแล้วในนามวง Polka Tulk Blues Band (ต่อมาเปลี่ยนเป็น Pulka Tulk) และเปลี่ยนชื่อวงใหม่เป็น Earth ซึ่งช่วงนั้นยังเล่นเพลงบลูส์ร็อกกันอยู่ และเริ่มค้นพบหนทางใหม่เมื่อมีคนเขียนเพลง Black Sabbath ขึ้นมา คนเขียนเพลงนี้คือ Geezer Butler ผู้มีรสนิยมวรรณกรรมมนต์ดำเป็นพิเศษ แต่ชื่อเพลงนี้เคยมีคนตั้งมาแล้วตั้งแต่ปี 1963 หลังจากใช้ชื่อ Earth เพียง 7 เดือนก็เปลี่ยนชื่อวงใหม่อีกครั้งเป็น Black Sabbath
อัลบั้มแรก Black Sabbath ถือฤกษ์(ไม่)งามยามดี ม่าง !... วางแผงวันศุกร์ที่ 13 เดือนกุมภาพันธ์ 1970 พร้อมกับสัญลักษณ์ไม้กางเขนหัวกลับ แต่กางเขนบนสร้อยคอกลับไม่กลับหัว ต้นทุนอัดเสียงใช้เงินไปแค่ 600 ปอนด์ ( 600 ปอนด์ ) ใช้เวลาทำแค่ 3 วันเพราะทุนน้อย มี Roger Bain เป็นโพรดิวเซอร์ให้ คนนี้คนเดียวกันที่ไปทำให้วง Judas Priest ปกชุดแรกดูคลาสิคแบบนรกๆ มีผีห่าซาตานในชุดคล้ายนักบวชโบราณยืนขางต้นไม้ใหญ่ฤดูใบไม้ร่วง ฉากหลังเป็นริมบึงมีบ้านสมัยโบราณถ่วงภาพกับต้นไม้ สีที่เล่นเป็นดำ น้ำตาลแดง และขาว บรรยากาศโลกัลย์กำลังเยือนแท้ๆ
เขาว่าวงนี้ไม่เป็นที่ประทับใจคนอังกฤษสักเท่าไหร่ แต่ไปถูกหูคนฟังในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะกลับมาดังในบ้านของตัวเอง สำหรับป๋าแล้วบอกได้เลยว่าเพลงชุดแรกของ ชายเสื้อดำ ผู้มาจากขุมนรกเหล่านี้โดนหูคนฟังที่อุดรธานีเต็มเปา ชอบทุกเพลงไม่ว่าจะเป็นเพลง Black Sabbath, The Wizard, Behind The Wall Of Sleep, N.I.B.,Evil Woman, Sleeping Village, Warning หรือ Wicked World ส่วนชุดที่สองที่ออกมาปีเดียวกันก็ดังสนั่น ไม่ว่าจะเป็นเพลง War Pigs, Paranoid, Planet Caravan, Iron Man
เพลง Black Sabbath ซึ่งอยู่ไตเติ้ล แทร็กของชุดแรกฟังแล้วมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ เขาปล่อยเสียงฝนตกกระทบพื้นโลกจั๊กๆ แบบไปเรื่อยๆ ไม่รุนแรง เสียงระฆังแววและค่อยดังชัดขึ้นประกบกับเสียงฟ้าคำราม จินตนาการถึงคนสวมหมวกทรงสูงชุดดำยืนหลบฝนหน้าปราสาทรอใครสักคนหนึ่งที่กำลังเดินทางมากับรถม้าในยามราตรี ชายคนนั้นก้มหน้านิ่งไม่เคลื่อนไหว เฝ้ารอ
เสียงกีต้าร์ดังขึ้นพร้อมเบสและกลอง ใช้จังหวะ Grave คือ ช้ามากอย่างโหยหวนหรือช้าอย่างโศกเศร้า ก่อนจะปล่อยให้กีต้าร์กับกลองชักจูงจิตวิญญาณไปยัง ณ ที่นั้น ไปเพื่อฟังเสียงร้องของ Ozzy Osbourne เนื้อหาเป็นอย่างไรลองดูแค่นี้ก็ได้ Satan Sitting There He's Smiling
.. Pease God Help Me! ดนตรีและร้องเยี่ยมจริงๆ เยี่ยมทุกอย่างว่างั้นเถอะ ! เพลงที่ 2 คือ The Wizard ฟังหีบเพลงปากตอนแรกก็โหยหวนสุดแล้ว เพลงชุดแรกที่คนนิยมแกะไปเล่นคือ N.I.B ขึ้นด้วยเสียงเบสส์ Riff ของเพลงนี้คล้ายๆ กับเพลง Sunshine of Your Love ของวง Creame เนื้อหาเพลงเกี่ยวข้องกับปีศาจ เนื้อเพลงเฉลยว่า ฉันคือ ลูซิเฟอร์ มาจับมือกับฉันสิแม่สาวน้อย โอ๊ย ! เจ๋งฟ่ะ ! เพลงมันบ่งบอกว่าปีศาจโคตรๆ ตกหลุมรักสาวและกำลังจะกลับตัวเป็นคนดี ส่วนชื่อเพลงย่อมาจากคำว่า "Nativity in Black" ชุดประเดิม ต้องหามาครอบครองให้ได้ ฟังเมื่อไหร่สบายอกสบายใจเมื่อนั้น
ชุดที่สองก็ต้องสะสมล้วนมีแต่เพลงเจ๋งๆ ทั้งนั้น เนื้อหาก็เจ๋งด้วย เพราะอัลบั้มนี้ Black Sabbath ออกมาประกาศเจตนารมย์ต่อต้านสงครามโดยเฉพาะ ไตเติ้ลแทร็ก คือ เพลง War Pigs เนื้อหาเป็นเพลงแนวต่อต้านสงครามเวียดนาม ประณามคนส่งคนไปตาย และผู้ก่อสงครามสกปรกไร้สาระ นักการเมืองก่อสงครามเสร็จก็ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง แล้วพวกเด็กๆจะไปรบทำไมฟ่ะ รอให้ถึงวันพิพากษาโลกมาถึงก่อนเถอะ !
เพลง Paranoid กับ คนนิยมหยิบไปแกะกีต้าร์เล่น เพราะ Riff เหลือกินเหลือใช้เพลงแบบนี้ยิ่งเล่นยิ่งมัน เวลาซ้อมเหงื่อหยดติ๋งๆ พวกหัดกีต้าร์ใหม่มาดูนั่งอาปากหว๋อ ! เพลง Iron Man ก็ติดตลาดคนฟังเมืองอุดรฯ
ใครที่สนใจฟัง Heavy Metal แบบของแท้ดังเดิม แม้จะไล่หลังวง Deep Purple แต่ก็มีเสียงดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ มีมนต์ขลัง หนักแน่นทรงพลัง ต้องไปหามาฟังเสียให้ได้ อย่าลืมชุดที่ 3 กับชุดที่ 4 ด้วย ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ทุกวันนี้ Black Sabbath แม้นักร้อง นักดนตรีจะเปลี่ยนไป ก็ยังทำเพลงใหม่ออกมาให้บันเทิงหู
Uriah Heep เปิดโลก Prog
นี่ก็วงจากอังกฤษเช่นกันก่อตั้งวงเมื่อปี 1969 สมาชิกรุ่นก่อตั้ง (1969-1970) ประกอบด้วย David Byron ร้องนำ Mick Box กีต้าร์ Ken Henley คีย์บอร์ด Paul Newton กีต้าร์เบสส์ และ Alex Napier
กลอง วงนี้ใช้มือกลองเปลืองเฉพาะปี 1970 เปลี่ยนคนใหม่ถึง 3 คน คือ Nigel Olsson , Keith Baker, Ian Clarke แต่ไม่วายจะเปลี่ยนอีกครั้งเป็น Lee Kerslake เจ้าหมอนี้รับหน้าที่ตีกลองประจำวงนานหน่อยอยู่ถึงปี 1979 อ้อ ! เมื่อปี 1971 เปลี่ยนมือกีต้าร์เบสจาก Paul Newton มาเป็น Mark Clarke และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนมือกลอง จนมาได้ Trevor Bolder ถึงเป็นตัวยืนอยู่นานหลายปี อัลบั้มแรก Very 'Eavy... Very 'Umble ปล่อยออกตลาดในเดือนมิถุนายน 1970 อัลบั้มแรกก็ทำให้วงการแตกตื่นด้วยเพลง Gypsy เพลงนี้ปล่อยเสียงดนตรีออกมาที่ละชิ้นและรัวกลองหลายท่อนก่อนเข้าท่อนหลัก ใครๆ ก็จำ Intro ได้แม่น เสียงร้องกรุยทางสู่ Hight Rock ซึ่งในยุคสมัยเดียวกันมือออร์แกนหรือคีย์บอร์ดเด่นๆ ก็มี Deep Purple แต่สำหรับวงนี้เด่นอย่างชัดเจนที่สุด และมือคีย์บอร์คสามารถโชว์ความสามารถได้อย่างเต็มที่ ดูหน่วยก้านดูปกแผ่นแล้วเป็นวง Hard Rock Heavy Metal แต่ฟังไปฟังมา นี่มันโพรเกรสซิฟร็อคนี่หว่า

Home
|