ปีที่ 2 ฉบับที่ 813 ประจำวันจันทร์ที่ 4 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542 |
นายกฯ และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ถวายพระพร สมเด็จพระสังฆราช ทรงมีพระชนมายุ 86 พรรษา ด้านศิษย์วัดธรรมกาย ยังเหนียวแน่นกว่าหมื่นคน แห่ถวายข้าวพระ
ด้าน ชาวพุทธ
ส่งหนังสือถึงพิมพ์ไทย ระบุชัด รายการหาตามหาแก่นธรรม เป็นตัวทำลายศาสนา ตั้งประเด็นให้คนพุทธตีกันเอง เตือน ดร.เจิมศักดิ์ เปลี่ยนแปลงการนำเสนอรายการ โดยเฉพาะตัววิทยากร ที่เชิญมาร่วมรายการ มีแต่ตัวแสบทั้งนั้น พูดเอามันลูกเดียว โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายของศาสนาในภาพรวม
ควรเน้นรายการ
ไปที่ความสามัคคีของ
คนในชาติ ส่วน มจร.มาแปลก พระมหาต่วน ร่อนแถลงการณ์ ประกาศอุ้มพระธรรมปิฎก
ผู้สื่อข่าวรายการจากวัดบวรนิเวศน์วิหารว่า เนื่องในวโรกาสเป็นวันคล้ายวันประสูติ ครบรอบ 86 พรรษา ของสมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในวโรกาสอันดีนี้ นายกรัฐมนตรี นายชวน หลีกภัย และ พล.อ.มงคล อัมพรพิสิฐ ผบ.สส. เหล่าข้าราชการเมืองข้าราชการประจำ ข้าราชการทหารทุกเหล่าทัพ
และสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนประชาชนได้เข้าร่วมถวายพระพร แด่สมเด็จพระสังฆราชกันอย่างเนืองแน่น ณ ตึก สว. ธรรมนิเวศ ชั้น 2 นอกจากนี้ ตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ
ก็ได้จัดพิธี
ร่วมถวายพระพรให้แด่สมเด็จพระสังฆราช โดยพร้อมเพรียงกัน
ถวายพระพรพระสังฆราช
ที่วัดพระธรรมกาย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาสานุศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ได้มาทำบุญที่วัดเป็นจำนวนมากกว่า 1 หมื่นคน เนื่องจากเป็นวันพระต้นเดือน
และทางวัดก็ได้จัด พิธี
ถวายพระพร ให้กับสมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวโรกาส คล้ายวันประสูติด้วย สำหรับบรรยากาศ โดยทั่วไป ก็มีพิธีถวายข้าวพระ ตามที่ปฏิบัติต่อเนื่องมานานเกือบ 30 ปี นอกจากนี้ ยังมีชมรมชาวพุทธ 3 เหล่าทัพ เข้ามาขายหนังสือเรื่องพระพุทธศาสนาชะตาของชาติ
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา มีรายการเสวนาธรรมะ ที่อาคารรัฐสภา โดยตั้งหัวข้อว่า ใครทำลายศาสนา และมี ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เจ้าของรายการตามหาแก่นธรรม ร่วมเป็นวิทยากรด้วย ในเรื่องดังกล่าว นายปัทมา ชาวพุทธ ได้ส่งหนังสือมายังพิมพ์ไทย มีข้อความบางส่วน ดังนี้
รุมยำธรรมกาย
... จากประเด็นปัญหาที่ทั้งถามและตอบตลอดรายการ เห็นมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับธรรมกายทั้งรายการ มีคนปากเก่งหลายคน ผลัดกันลุกขึ้น แสดงความคิดเห็น ในข้อกล่าวหา ที่ท่านได้ตั้งประเด็น "รุมยำธรรมกาย" ดัวยฝีปาก เหมือนไม่ใช่คนมีการศึกษา และเหมือนไม่ใช่คนนับถือพระพุทธศาสนา
ตัวอย่าง นายวรัญชัย โชคชนะ ซึ่งนั่งเคียงคู่กับ นายประจิณ ฐานังกรณ์ เขาช่วยกันด่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย หาว่า เป็นคนโกหกตอแหล อาศัยศาสนาหากิน หน้าด้านที่สุด และพระศรีปริยัติโมลี ก็พูดใส่ร้ายหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ กล่าวหาว่า ปฏิบัติถึงทางตัน แล้วแก้ไม่ตก ต้องไปศึกษาที่วัดมหาธาตุฯ คณะ 5 จึงรู้ว่า วิชชาธรรมกาย ไม่ถูกต้อง และเลิกปฏิบัติ อาจารย์ยัง U-TURN แต่ลูกศิษย์ พระธัมมชโยไม่ยอม U-TURN
ยุให้คนตีกัน
ดิฉันนั่งฟังด้วยความตกใจ ในวันนั้นห้องประชุมเกือบแตก เพราะมีการถกเถียงกัน ค่อนข้างแรง เห็นคนหลายคนลุกออกไปจากห้องประชุม และได้ยินเขาพูดว่า ดร.เจิมศักดิ์ ยุให้คนตีกัน เพราะปัญหาทั้งหมด ที่พูดกัน เป็นเรื่องศาสนาล้วนๆ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับธรรมกาย ท่านตั้งประเด็นแรงมาก ใครที่ไม่เคยไปวัดพระธรรมกาย
เขาต้องเชื่อท่าน
เต็มร้อยว่า วัดพระธรรมกายไม่ดี ตามที่ท่านตั้งประเด็นชี้นำ เพื่อทำลายเขา
ด่าตอแหล
นายส.ศิวรักษ์ ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะในขณะที่คนของธรรมกาย ลุกขึ้นชี้แจง เรื่องพระนิพพานเป็นอัตตา พร้อมกับเปิดพระไตรปิฎกให้ดูว่า อยู่หน้าไหน และคำว่า
ธรรมกาย อยู่หน้า ไหน นายสุลักษณ์ ก็เสียอารมณ์
พูดจาหยาบคาย เถียงไปข้างๆ คูๆ ยกมือชี้หน้าเขา และทำท่าทุยน้ำลายด้วย และก็ด่าเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่าตอแหล
ไปเอาหลักการญี่ปุ่น
เมื่อพันกว่าปีแล้ว มาสอน ซึ่งเขาเลิกใช้แล้ว
ทำลายพระศาสนา
หากท่านไม่เข้าข้างตัวเอง น่าจะมองรายการนี้ออก ว่าเป็นการทำลายพระพุทธศาสนาหรือไม่? วันนั้น ดิฉันต้องอดทนฟัง เพียงเพื่ออย่างรู้ และในที่สุด ก็ได้รู้จนละเอียดแล้วว่า ท่านจัดรายการ เพื่อวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ หากไม่ใช่เป็นการจัดเพื่อทำลายพระพุทธศาสนา
ขบวนการทำลายพระพุทธศาสนาตัวจริง ก็คือ พวกท่านนี่แหละ รายการตามหาแก่นธรรม จริงๆ แล้ว ควรจะเรียกว่า "รายการตามหาคนช่วยทำลายธรรม" จะถูกต้องกว่า ที่พูดอย่างนี้ ก็เพราะว่า ประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่ท่านตั้งขึ้นมา เพื่อให้คนอื่นเขา นำเอาเรื่องของพระพุทธศาสนา มาวิพากษ์วิจารณ์กันในทางเสียหาย .........
แนะจัดใหม่ให้สร้างสรรค์
ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้
จึงอนุญาตแนะนำท่านด้วยความปรารถนาดี
ขอได้โปรดกรุณาปรับปรุงแก้ไข
"รายการตามหาแก่นธรรม"
ของท่าน
ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
ให้เป็นไปใน ทาง สร้างสรรค์
ไม่ใช่เป็นไป
เพื่อมุ่งร้ายมุ่งทำลาย
มุ่งใส่ร้ายให้โทษผู้อื่น
ตามที่ท่านทำรายการอยู่ทุกวันนี้
เพื่อขจัดปัญหาขัดแย้งที่จะพาไปสู่ความแตกแยก
แตกความ สามัคคีกัน
เราเป็นคนไทยด้วยกัน
ควรจะรู้รัก สามัคคี
รู้เสียสละ ให้อภัยกัน
ตามพระราชดำรัสของพระองค์ท่าน
ทำไมท่านจึงไม่น้อมรับ
และนำมาปฏิบัติ
เพื่อความเห็นที่ไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก
เพื่อความสงบสุขของมวลชน
ในฐานะ ที่ท่านเป็นสื่อมวลชน
และมีโอกาสที่จะทำความดี
สร้าง
สรรค์คุณประโยชน์ให้ชาติ
เพื่อทดแทนคุณ
มจร.ออกแถลงการณ์
ด้านพระมหาต่วน สิริธมฺโม รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์ และเผยแผ่ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ราชวิทยาลัย ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง แจ้งข้อเท็จจริง
กรณีข่าวในหน้า หนังสือ พิมพ์ โดยมีข้อความว่า ตามที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับ รายงานข่าว การเรียกร้อง ให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย ปกป้องพระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต)
และแสดง
จุดยืนที่ชัดเจนต่อกรณีธรรมกายนั้น มจร.จึงได้บอกแถลงการณ์มหาวิทยาลัย ฉบับที่ 2 เพื่อยืนยันจุดยืนของมหาวิทยาลัย ที่ดำเนินการมาตลอด มจร.ขอแถลงการณ์ว่า
ปกป้องพระธรรมปิฎก
1. มจร. ยืนยันเจตนาที่ชัดเจน ในการปกป้องพระธรรมปิฎก ดังปรากฏในแถลงการณ์ของมหาวิทยาลัย ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2542 และพร้อมกันนี้
มหาวิทยาลัย ขอความ
อนุเคราะห์จากรัฐบาล ได้เร่งรัด ดำเนินการปกป้องพระธรรมปิฎก
2. ในหลักวิชาการทางพระพุทธศาสนานั้น มหาวิทยาลัยยืนยันความถูกต้อง ของหลักการที่ว่า "นิพพานเป็นอนัตตา" ดังที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก และอรรถกถา
และเห็นสอด คล้อง
กับหลักการเดียวกับ
ที่พระธรรมปิฎก ได้นำเสนอไว้ในหนังสือ เรื่อง "นิพพานเป็นอนัตตา" และ "กรณีธรรมกาย"
3. ในกรณีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายนั้น มหาวิทยาลัยเห็นด้วย ที่มีการดำเนินการให้เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย กฎหมายบ้านเมือง และกฎมหาเถรสมาคม ว่า
ด้วยกฏ นิคหกรรม
ดังนั้น มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
ขอยึดมั่นและยืนยันตามแนวทาง
ที่ได้แถลงการณ์มานี้
และสำนึกในพระราชปณิธาน
ของสมเด็จบรมบพิตร
พระราชสมภารเจ้า
พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ผู้ทรงสถาปนามหาวิทยาลัยแห่งนี้
เพื่อเป็นสถานศึกษาพระไตรปิฎก
และวิชาชั้นสูงตลอดมา