ปีที่ 2 ฉบับที่ 819 ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542 |
เป็นที่แน่ชัดแล้วว่า คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ที่มี นายอำนวย สุวรรณคีรี เป็นประธานที่ปรึกษา ประกาศจุดยืนที่จะผลักดัน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ทั้ง 2 ฉบับ
ผ่านความเห็นชอบ
จากคณะรัฐมนตรี ซึ่งเนื้อหา พ.ร.บ.ดังกล่าว ถูกนักวิชาการผู้ชำนาญการด้านพระพุทธศาสนา วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขว้าง ไม่เว้นแม้แต่มือกฎหมายอย่าง มีชัย ฤชุพันธ์ ประธานสมาชิกวุฒิสภา ที่ระบุว่า เรื่องของพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของศรัทธาความเชื่อ การออกกฎหมายมาควบคุมพระ และควบคุมพุทธบริษัท ถือว่า
ผิดเจตนารมณ์ของ
พระพุทธศาสนา อย่างแน่นอน และเขาก็เคยประกาศระหว่างการร่วมวงเสวนา ที่มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อเดือนที่ผ่านมา หากกฎหมายทั้งสองฉบับ ผ่าน
จะลาออก จากความเป็นพุทธมามกะทันที รวมถึงความเห็ฯของนักกฎหมายอีกท่านหนึ่ง คณิน บุญสุวรรณ อดีต ส.ส.ร. ที่นำพ.ร.บ. ฉบับฆราวาสหัวดำ ปกครองสงฆ์ มาตีความไม่เห็นด้วย เกือบทุกมาตรา
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสไปนั่งฟังการเสวนาหัวข้อ "ใครทำลายพระพุทธศาสนา" ที่รัฐสภา จัดโดยคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ขณะเดียวกัน ทางคณะผู้จัดงาน ได้แจกเอกสารแก่ผู้ร่วมฟังการเสวนา
ผมมาสะดุดตรงความเห็นของ นายอำนวย สุวรรณคีรี ที่ระบุว่า ควรที่จะมีการเขียนกฎหมายกำหนดลงไปเลยว่า พระนิพพานจะต้องมีสภาพเป็นอนัตตา เพื่อเป็นบรรทัดฐาน ในการศึกษาพุทธศาสนาที่ถูกต้อง
ทำให้ผมเลยเถิดคิดไปว่า คณะกรรมาธิการฯ ที่มี เด่น โต๊ะมีนา เป็นประธานนั้น พาหมู่คณะไปทัวร์พระนิพพาน จนรู้แจ้งเห็นจริงหรือว่า พระนิพพานของสูงส่งในพระพุทธศาสนา เป็นเช่นไร
อย่าเพิ่งด่วนสรุปง่ายๆ เอากระแสมาตัดสิน ทั้งที่ไม่เคยเข้าไปศึกษาปฏิบัติ เป็นชาวพุทธแบบลูบๆ คลำๆ
เรื่องละเอียดอ่อนขนาดนี้ โดยเฉพาะการออกกฎหมาย คณะกรรมาธิการจะมาอ้าง หรือปฏิเสธ แบบเอาสีข้างแก้ปัญหาระบุว่า ไม่ได้ออกกฎหมายคุมพระ
แต่ออกกฎหมายคุม ชาวพุทธ 99.5%
ไม่เฉพาะเจาะจงแต่ "หลวงตามหาบัว" ที่ยืนยันว่า พระนิพพานไม่ตกอยู่ในสภาพอนัตตา อย่างแน่นอนแล้ว
สายหลวงพ่อวัดปากน้ำ ไม่เฉพาะแต่วัดพระธรรมกายที่กระจัดกระจายปฏิบัติธรรมเจริญวิชชาธรรมกาย ต่างยืนยันว่า "พระนิพพานต้องเป็นอัตตา"
ไม่ใช่อนัตตาอย่างแน่นอน
เช่นกัน รวมถึงสายปฏิบัติอีกหลายสาย อาทิ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
เรื่องมันจะยุ่งไปกันใหญ่ แค่ฆราวาสหัวดำมาขยับคิดอ่านเขียนกฎหมาย พร้อมกำหนดลงไปว่า พระนิพพานต้องเป็นอนัตตา ตามหลักสูตรของพระธรรมปิฎก
ความร้าวฉาน
จะเกิดขึ้นในหมู่คณะสงฆ์ รุนแรง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นแน่
สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
ไม่มีการตีความบิดเบือนพระไตรปิฎก หากแต่ผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนา เดิมพันด้วยชีวิต ถวายแด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้ว ย่อมไม่คับข้องสงสัย มองเห็นพระนิพพาน ไม่มีตัวตน ไร้แก่นสาร มีสภาพเป็นอนัตตา
นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง หากนิพพานเป็นอนัตตา จะเอาอะไรมาวัดความสุขได้ ในเมื่อไม่มีตัวผู้รับ
อำนาย สุวรรณคีรี จัดงานเสวนาจะกำจัดมาเฟียในมหาเถรสมาคม เหม็นขี้ฟัน คิดจะทำงานใหญ่ ควรที่จะสำรวจตรวจตราบ้านของตัวเองก่อนว่า
มีอะไรไม่ชอบมาพากล
อยู่มากน้อยเพียงใด
ส.ส.ประชาธิปัตย์ ใช้วุฒิการศึกษาที่หลายฝ่ายสงสัยว่า น่าจะปลอม ก็คือ ไม่ใช่ของจริง เป็นของที่ทำขึ้นใหม่ มาเป็นหลักฐานประกอบการสมัคร ส.ส.
จนมีผลทำให้เป็น สมาชิก
สภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ปี 2538
เรื่องนี้ ผิดกฎบ้านกฎเมือง เป็นคดีความอาญา ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยออกมาแล้ว ยืนยันว่า ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ไม่ได้จบการศึกษาในสถาบันดังกล่าว ก็ยังมีมือกฎหมาย ทนาย ทะแนะ ดาหน้าออกมาแก้ต่างให้พลพรรค เบรคศาลรธน. ให้หยุดขุดคุ้ยเรื่องนี้
คนที่จะออกกฎหมายควบคุมสงฆ์ ควรเป็นผู้มีจิตใจบริสุทธิ์ สะอาด ปราศจากเรื่องเน่าเหม็นทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลัง อำนวย สุวรรณคีรี ว่า จริงหรือไม่
ก็ชัดเจนลงไปแล้ว เป็นคำถามที่หมู่สงฆ์ท่านรอฟังคำตอบมานานแล้วว่า จะเอาฆราวาสมาปกครองพระคุณเจ้าจริงๆ
ผมไม่แปลกใจเลย .. ที่ คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ มีบุรุษชื่อแปลกๆ นามว่า เด่น โต๊ะมีนา ซึ่งปรากฏในสำเนาทะเบียนบ้านว่า เป็นชาวมุสลิม เป็นประธานกมธ.ชุดนี้
พยายาม
เร่งรีบผลักดันให้กฎหมาย กฎเหล็ก ฉบับนี้ออกมาควบคุมหมู่สงฆ์
... นับว่า เป็นความปรารถนาที่ชาวพุทธ โดยเฉพาะ พระสงฆ์ส่วนใหญ่ ท่านไม่ต้องการ ...
เล่นกันแฟร์ๆ ตามหลักของบ้านเมือง ที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยกันดีกว่า
แฟร์อย่างไร .. ในเมื่อจะออกกฎหมายมาควบคุมหมู่สงฆ์ นักการเมืองทั้งหลาย น่าจะรู้ดีที่สุดว่า จะต้องทำอย่างไร
ถ้าเป็นกฎหมายสำคัญ ๆ มีผลกระทบต่อมหาชน ทางโลกเราเรียกว่า จะต้องทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชน อันจะเป็นแนวทาง ที่จะนำไปออกกฎหมาย ให้มีผลบังคับใช้กับสังคมในอนาคต
หากเป็น พ.ร.บ.สงฆ์ ก็ต้องทำสังฆาพิจารณ์ สอบถามพระภิกษุสงฆ์ สามเณรว่า ท่านมีความเห็นอย่างไร กับกฎหมายอย่างนี้
โดยเฉพาะเนื้อหาที่ระบุว่า พระนิพพานต้องมีสภาพเป็นอนัตตา
คณะกรรมาธิการการศาสนาฯ ควรเปิดวิสัยทัศน์ให้กว้างกว่านี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ไม่ใช่ไปจับเอาความเห็นแต่พระเพียงไม่กี่รูป
ที่ผ่านมาก็เห็นแต่หลวงพี่พยอม พระนักเทศน์ขาโจ๊ก และพระธรรมปิฎก ที่อ้างแต่พระไตรปิฎกเป็นสรณะ และยืนยันโดยตลอดว่า พระนิพพานเป็นอนัตตา
หากสำนักใด มีความ
เห็นผิดไปจากนี้ ถือเป็นความเชื่อนอกพระพุทธศาสนาทันที
แล้วจะให้อาจารย์ พระคุณเจ้าที่เน้นหนักด้านการปฏิบัติ เจริญกรรมฐาน วางตัวอย่างไร ในเมื่อท่านเหล่านั้น ค้นพบแล้วว่า พระนิพพานเป็นอัตตา
โดยเฉพาะหลวงตามหาบัว ยืนยันอย่างแข็งขันว่า พระนิพพานจะกลับไปเป็นอนัตตาไม่ได้อย่างเด็ดขาด จะเอาของสูงส่งไปรวมกับไตรลักษณ์ได้อย่างไร อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แล้วพระนิพพานจะวิเศษวิโสตรงไหน
โซตัส