สหัสวรรษที่ 3

เรื่องบาปกรรม ถ้าห้ามไม่เชื่อ ใครอยากไปนรกก็ต้องปล่อย

ผมเดินตามร้านหนังสือ ช่วงนี้มีหนังสือที่ออกมาโจมตีวัดพระธรรมกายนับสิบเล่ม การหากินเพื่อยังชีพด้วยการใส่ร้ายวัด การตีความเอง การเอาข้อมูลเท็จออกมาเขียนวิจารณ์ เพื่อขายหนังสือหากิน หาความร่ำรวยบนความเดือดร้อนของวัด ของคนเข้าวัดนับแสนคน

ทราบว่าบางเล่มขายดี เพราะคนชอบเรื่องราวความเลวร้ายของคนอื่น อ่านแล้วก็ปักใจเชื่อทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นสภาพที่ตกต่ำของวงวรรณกรรม เพราะเป็นวรรณกรรม แห่งความเลวร้ายของสังคม วรรณกรรมที่ตัดสินสังคมแทนศาลยุติธรรม

ที่น่าสลดใจก็คือ มีผู้อ้างตัวว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฎก บางคนเป็นฆราวาสปุถุชน แม้ศีลห้ายังถือไม่ครบ บางคนบวชเรียนได้เปรียญธรรมสูงแต่ร้อนวิชา หาความร่มเย็น ในผ้าเหลืองไม่ได้ กราบลาพระพุทธเจ้าออกมาหากินทางเขียนหนังสือขาย อยากเสพเมถุน เสพสุรา เขียนหนังสือธรรมะ สร้างสังคมด้วยการทำลาย เดี๋ยวนี้ได้รับการยกย่อง จาก สังคม

หนักไปยิ่งกว่านั้น พระภิกษุสงฆ์เองก็ออกมาร่วมขบวนการด้วย ทั้งที่อยู่ในผ้าเหลืองของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่คนกราบไหว้ก็เพราะผ้าเหลืองที่ท่านครองอยู่ ศีล 227 ข้อ ซึ่งเป็น วินัยอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องพูดเรื่องพรหมวิหารสี่ ที่พระสอนทุกวัน แต่ไม่ปฏิบัติ อคติสี่ที่สอนให้คนอื่นปฏิบัติ แต่ตนเองไม่ปฏิบัติ ไร้เมตตา อุเบกขา จิตใจมุ่งร้ายทำลาย ให้เกิดความเกลียดชัง

กลายเป็นขบวนการหากินด้วยมิจฉาชีพ คืออาชีพที่ไม่สุจริต อาชีพที่ก่อบาปสร้างกรรม การใช้ปลายปากกาหาเลี้ยงชีพ โดยไร้จรรยาบรรณของผู้เขียนหนังสือ มิใช่การติชมด้วย ความเป็นธรรม ที่ได้รับยกเว้นตามกฎหมาย วันนี้กลุ่มบุคคลเหนือกฎหมายเหล่านี้ ได้รับการยกย่อง ร่ำรวย

วันนี้ขบวนการผู้ร่ำรวยด้วยบาปเหล่านี้ แก่กล้าถึงขนาดไม่ต้องจำหน่าย เพราะในงานสวดศพหลายแห่ง มีผู้นำมาแจกในงานชนิดไม่อั้น หนังสือที่อ่านแล้วต้องเกลียด วัดพระธรรมกาย ทันที เพราะมีการตัดต่อ มีการเขียนด้วยสำนวนสวิงสวาย ทำให้น่าเชื่อ

ผมก็ไม่รู้ว่าร่ำรวยกันมาจากไหน หนังสือเล่มหนึ่ง ค่าพิมพ์ก็หลายสตางค์ ก็ยังเอามาแจกได้ เป็นการตามพิฆาตเข่นฆ่ากันชนิดสุดๆ ไปเลย ก็ดีนะครับ ทำให้โรงพิมพ์ร่ำรวย จากเงินสกปรกเหล่านี้ วัดพระธรรมกายขออุทิศส่วนกุศลให้ ถือว่าบริจาคตัวให้เป็นทาน เป็นเหยื่อ

และวันนี้สิ่งพิมพ์หนังสือร้อนๆ เหมือนยาพิษเหล่านี้ ก็ยังวางขายปกติ เพื่อหลอกเอาเงินผู้อ่านที่หลงผิด เมื่อควักสตางค์ซื้อของร้อนไปอ่าน ก็ได้ของร้อนระอุเข้าไปในตัว สมใจคนเขียน สมใจอำนาจมืด สมใจพญามาร ที่วางแผนหัวเราะชอบใจในความโง่เขลาของมนุษย์

และผมก็ไม่เห็นผู้มีอำนาจในบ้านเมือง จะรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจตรงไหน ตรงกันข้าม ใครด่าวัดพระธรรมกาย ถือว่าเป็นการติชมด้วยความชอบธรรม ใครช่วยวัดพระธรรมกาย ถูกหาว่าอุ้ม

ใครเขียนเปิดโปงความจริงเบื้องหลังขบวนการ กลายเป็นถูกตรวจสอบ ถูกไล่ล่า แทนที่จะเอาข้อมูลเหล่านั้นให้หน่วยข่าวกรองไปตรวจสอบความจริง เหมือนกับที่ทำกับ วัดพระธรรมกาย

ใครใส่ความวัดได้มากเท่าไร ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลช่วยราชการ ใครให้ข้อมูลหรือให้สัมภาษณ์ถึงวัดในทางที่ดี ถือว่าโง่เขลา งมงาย และมีเจตนาแอบแฝง สังคมต้องประณาม

ให้มันได้อย่างนี้สิ ความเป็นธรรมของบ้านเมืองยุคนี้ ยุคมืดสนิทที่สุดๆ มืดจริงๆ

ชาววัดพระธรรมกาย อ่านแล้วอย่าได้โกรธตามนะครับ อ่านแล้วให้แผ่เมตตา ทำให้ใจเย็นใส หน้าตายิ้มแย้ม ไม่รู้สึกกังวลใจอะไร เพราะนี่คือบททดสอบ และบทสร้างบารมี ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านคงอยากทดสอบว่า ลูกศิษย์ของท่านธรรมะถึงขั้นไหน

ในเมื่อเราเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว เราก็ต้องรีบตั้งสติ ให้อภัยไม่จองเวร เขายิ่งคิดร้ายเท่าไร เราก็ยิ่งต้องแผ่เมตตาให้เพิ่มขึ้นเท่านั้น เหมือนภาษิตยุทธจักรที่กล่าวว่า "ถ้าไม่รู้จักอภัยให้ศัตรู ในชีวิตจะไม่รู้ว่าความสุขที่แท้นั้น เป็นอย่างไร"

เพราะนี่เองคือเคล็ดลับของจักรวาล นี่คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเมื่อกว่าสองพันปีมาแล้ว ขันติบารมีที่เพิ่มบารมีให้กับพระองค์ท่าน แม้จะมีผู้หญิงคิดร้ายปลอมเป็นผู้หญิงท้อง มาประจานพระองค์ต่อหน้าสาธารณชน แต่พระองค์ท่านก็เฉย

เพราะคนบาปที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ ยิ่งผู้บริสุทธิ์นั้นเป็นพระที่ปฏิบัติถือศีลเจริญภาวนา ไม่เพียงแต่ตัวเองผู้ทำร้ายจะได้รับกรรมอย่างร้ายแรงที่สุด ยิ่งพระพุทธเจ้า ซึ่งทรงไว้ด้วย ศีลบริสุทธิ์ เป็นที่นับถือทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งจักรวาล

ร้อนถึงหมู่เทวดาเกรงว่าบาปที่มนุษย์สร้าง จะกระทบกระเทือนไปทั้งจักรวาล ต้องแห่กันลงมาช่วยพิสูจน์ความบริสุทธิ์ กลายเป็นเรื่องโอละพ่อ ผู้หญิงคนนั้นเอาผ้ายัดไว้ในท้อง เพื่อแสดงว่าท้องกับพระพุทธเจ้า ผ้าที่ซ่อนไว้ก็หลุดออกมาต่อหน้าต่อตาธารกำนัล ต้องวิ่งหนีไป

ครับ การอดใจไว้ไม่โต้ตอบ ทำใจให้บริสุทธิ์ ผ่องใส เหมือนที่หลวงพ่อธัมมชโยให้สติไว้ ถ้ามือไม่มีบาดแผล แม้จะจุ่มในยาพิษก็ไม่ต้องกลัวอะไร หลวงพ่อวัดปากน้ำก็เตือน ตลอดเวลา ธรรมกายเป็นของแท้ ไม่ต้องกลัวต่อการพิสูจน์

มีคนที่นั่งสมาธิได้ดีกระซิบบอกผมว่า ใครก็ตามที่สร้างกรรม ทำร้ายผู้ถือศีลบริสุทธิ์ ผลแห่งกรรมนั้น มันจะผกผันกลับเป็นสองเท่า ยิ่งเขาทำร้าย ใส่ร้ายป้ายสี สร้างบาปกรรมเท่าไร บารมีของผู้ถือศีลก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเพียงนั้น ถ้าเป็นดวง ก็จะเป็นดวงกลับข้าง ผู้ทำร้ายดวงก็จะยิ่งต่ำเหมือนลิฟท์ลงใต้ดิน ยิ่งลงลึกเท่าไร บารมีผู้ถูกให้ร้าย ก็จะเหมือนลิฟท์ขึ้นสูง ก็ยิ่งสูงมากขึ้นเพียงนั้น

เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วงครับ รอดูผลแห่งกรรม หว่านพืชเช่นไรก็ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เดี๋ยวนี้กรรมระบบดิจิตัล ทันสมัยมาก ในชีวิตผมเห็นเยอะแล้ว เศรษฐีร่ำรวยกลับจนในพริบตา แต่คนจนมุ่งทำความดี พลิกกลับเป็นเศรษฐีไม่น่าเชื่อ

เรื่องของบาป อย่าล้อเล่นนะครับ ใครไม่เชื่อก็ทำตามสบาย ทำให้เยอะๆ เลยครับ 

กาขาว