ปีที่ 2 ฉบับที่ 840 ประจำวันจันทร์ที่ 31 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2542

หน้า 1

ศาลสงฆ์ป่วน คฤหัสถ์ตีกิน

กรมการศาสนาหมกเม็ดอีก นิคหกรรมยังไม่ลงตัว เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ ระบุต้องรอฟังมติมส.อย่างเป็นทางการ เผยพระพรหมโมลียืนยัน ต้องทำตามพระธรรมวินัย กฎมส.ผู้ที่เป็น โจทก์ ต้องเป็นพระต่อพระเท่านั้น ด้านพระธัมมชโย-พระทัตตชีโว พร้อมพิสูจน์นิคหกรรม

ความพยายามของกระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมการศาสนา ได้เชิญนายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานวุฒิสภา และนายวิษณุ เครืองาม เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ร่วมประชุมกับคณะกรรมการ มหาเถรสมาคม (มส.) เพื่อพิจารณาว่า คฤหัสถ์สามารถเป็นโจทก์ฟ้องพระภิกษุได้หรือไม่นั้น

หลังจากประชุมมส.นัดพิเศษซึ่งมีการนำคฤหัสถ์ร่วมแสดงความเห็นด้วยนั้น ปรากฏว่า กรมการศาสนา ได้ออกมาเปิดเผยว่า มส.มีมติกลับลำ ให้คฤหัสเป็นโจทก์ฟ้องพระภิกษุได้ ส่งผลให้นายสมพร เทพสิทธา ประธานยุวพุทธิกสมาคม และนายมาณพ พลไพรินทร์ ผู้ชำนาญการพิเศษ กรมการศาสนา สามารถเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนิคหกรรม พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ขณะเดียวกัน ทำให้หลายฝ่ายเข้าใจว่า คำวินิจฉัยของพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในฐานะผู้วินิจฉัยชั้นต้น ตีความช่วยเหลือหรือ อุ้มพระธัมมชโย นั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพรหมโมลี ในฐานะผู้บังคับบัญชา และประธานผู้พิจาณาชั้นต้น ได้ทำหนังสือทัดทานไปยังพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ชะลอการออกหมายเรียกพระธัมมชโย และพระภาวนาวิริยคุณ หรือ พระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส มารับฟังข้อกล่าวหา นิคหกรรม ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 10 พ.ย.นี้

พระสุเมธาภรณ์เปิดเผยว่า พระพรหมโมลี มีคำสั่งให้ชะลอการออกหนังสือเรียกพระทั้งสองรูปมารับฟังข้อกล่าวหา เนื่องจากคำสั่งที่กรมการศาสนาอ้าง ถึงมติมส.นั้น ยังไม่ได้เซ็น รับรอง มติจากคณะกรรมการมหาเถรสมาคม

รายงานข่าวแจ้งว่า การที่กรมการศาสนาพยายามรวบหัวรวบหางพลิกมติมส. ซึ่งมีมาก่อนหน้านี้ และไม่พิจารณาคำวินิจฉัยของพระพรหมโมลี ก็เท่ากับว่า เจ้าคณะภาค 1 ให้ความ ช่วยเหลือวัดพระธรรมกาย โดยไม่คำนึงถึงพระธรรมวินัย อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของประธานผู้พิจารณาชั้นต้น หรือพระพรหมโมลีนั้น ได้ยึดหลักตาม กฎมหาเถรสมาคม และพระธรรมวินัย ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า คฤหัสถ์สามารถเป็นได้แค่เพียง "ผู้กล่าวหา" ส่วนผู้ที่จะเป็น "โจทก์" ฟ้องร้องนิคหกรรมได้นั้น จะต้องเป็นพระภิกษุ หรือสามเณรที่มีคุณสมบัติเท่านั้น ซึ่งคำวินิจฉัยดังกล่าวของพระพรหมโมลี ไม่ได้เกิดจากการตีความตามที่สื่อมวลชนเข้าใจ หากแต่เป็นตัวบทกฎหมาย ที่ปรากฏอยู่ในกฎ มหาเถร สมาคม ฉบับที่ 11

สำหรับความพยายามของนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ต้องการให้พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ในฐานะผู้บังคับบัญชาใกล้ชิดพระธัมมชโย พักตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดพระธรรมกาย ชั่วคราว พระครูปทุมกิจโกศลยืนยันว่า จะไม่สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส เนื่องจากเห็นว่า พระธัมมชโยอยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาส ไม่ได้ทำให้พระพุทธศาสนาเสียหาย และพร้อมที่จะรับผิดชอบกับการตัดสินใจที่เกิดขึ้น

นายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย กล่าวว่า เรื่องนิคหกรรมต้องรอให้มส. มีมติที่ชัดเจนเสียก่อน โดยยืนยันว่า เจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาส พร้อมที่จะพิสูจน์ความ บริสุทธิ์และ หากทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี มีคำสั่ง


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ]