ปีที่ 2 ฉบับที่ 852 ประจำวันศุกร์ที่ 12 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

สหัสวรรษทื่ 3

แนวคิดใหม่ผู้นำชาวพุทธโลก ยพสล. กับบทบาทใหม่วิถีใหม่

ความตื่นตัวในการพลิกฟื้นพุทธศาสนาให้เข้าสู่ยุคใหม่ เป็นหัวข้อใหญ่ที่ผู้นำหนุ่มสาวและพระภิกษุสงฆ์ชาวพุทธนำมาถกกันเป็นจริงเป็นจัง ในการประชุมยุวพุทธศาสนิก สัมพันธ์แห่งโลก เมื่อวันที่ 1-7 พฤศจิกายน นี้ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต

ผมเห็นผู้มาประชุมครั้งนี้แล้ว เห็นความหวังของพุทธศาสนาในสังคมโลก เพราะทุกคนเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการที่มีความรู้ เป็นสื่อมวลชนในต่างประเทศ เป็นผู้ประสบความสำเร็จ ทางโลกมาแล้ว ผมเห็นพระสิงคโปร์ที่มีความรู้พูดจาฉะฉานร่วมอภิปรายกลุ่มย่อยด้วยความมั่นใจ

พระไทยจากมหามกุฏฯ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม และมีความรู้ทางวิชาการอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ พระไทยจากวัดพระธรรมกายที่พูดภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่ว อาจารย์มหาวิทยาลัยจากมาเลเซียที่เลคเชอร์เป็นภาษาอังกฤษ สอนการบริหารสมัยใหม่ให้แนวความคิดของการประยุกต์ทฤษฎีการบริหารทางโลก เพื่อให้ทุกคนปรับวิถีคิดใหม่ น่าตื่นตาตื่นใจ

การอภิปรายโดยวิทยากรจากหลายประเทศ หัวข้อ "แก่นพุทธศาสนาในภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปของโลก" โดยมีการให้ความเห็นจากพระภิกษุสายเถรวาท มหายาน ธิเบต เชน และฆราวาสและการบรรยายที่ทุกคนสนุกสนานพอใจมากที่สุด คือ หัวข้อ "ผู้นำชาวพุทธในสังคมสมัยใหม่" โดย ดร.วิพรรค์ เรืองพิทยา จากมหาวิทยาลัยเอเซียฯ

มีการพูดถึงทฤษฎีหมวก 6 ใบ ของ ดร.เดอโบโนที่ผมเคยนำมาเผยแพร่ในคอมลัมน์นี้มาให้ข้อคิดด้วย คุณหมอภุมราต้องรีบแอบกระซิบผมว่า เรื่องหมวก 6 ใบ พูดไปแล้วนะคะ

ผมสังเกตว่า คณะผู้จัดงานมีความตั้งใจมากที่จะสร้างสรรผู้นำชาวพุทธยุคใหม่ หัวข้อจึงโฟกัสอยู่ในเรื่องการเป็นผู้นำตลอดรายการ อีกหัวข้อหนึ่ง ก็คือ การพัฒนา ความเป็นผู้นำ โดยองค์กร NGO ที่สำคัญๆ เป็นตัวอย่างจากองค์กรอื่นๆ ในโลก เช่น ไลออนส์ และยุวสมาคมแห่งโลก รวมถึงการวิเคราะห์บทบาทใหม่ ขององค์กรยุวพุทธศาสนิกสัมพันธ์วิสัยทัศน์ และบทบาทใหม่ในทศวรรษหน้า 

ที่ได้รับความชื่นชมอีกท่านหนึ่งคือ พระฐานิสาโร หรือหลวงพี่นิโคลัส จากศูนย์ปฏิบัติธรรมเบลเยี่ยม ของวัดพระธรรมกาย ในหัวข้อการเป็นผู้นำชาวพุทธ ใสมุมมองของพุทธศาสนา

ผมคิดว่า ตลอด 7 วันของการสัมมนา เท่าที่คุยกับผู้เข้าร่วมประชุมทุกคน ได้รับความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นการสัมมนาที่เปิดโลกทัศน์ใหม่ของชาวพุทธ เป็นการปฏิบัติแนว ความคิดให้เกิดขึ้น ให้มีความรู้สึกร่วมใจกันระหว่างชาวพุทธทุกคนได้รับประโยชน์มาก

ผมเห็นผู้ดำเนินรายการหนุ่มสาวสองท่าน คุณอนุรุธ ว่องวานิช รองประธาน กับคุณศธนีย์ กิติยาดิสัย เลขาธิการ สามารถดำเนินการประชุม เป็นภาษาอังกฤษ ได้อย่างคล่องแคล่ว ประทับใจ สามารถเรียกเสียงเฮฮาจากผู้เข้าร่วมประชุมได้ตลอด

ผมมองภาพตรงหน้าผมด้วยความชื่นชมกับหนุ่มสาวชาวพุทธยุคใหม่เหล่านี้ด้วยความปลืมปีติเป็นอย่างยิ่ง และมองเห็นความหวังใหม่ในสหัสวรรษใหม่ของพุทธศาสนา เห็นการ รวมจิตวิญญาณของผู้นำชาวพุทธจากทุกประเทศที่สำคัญๆ เห็นพระภิกษุรุ่นใหม่ เช่น ท่านชิงเหยา จากผอกวงซาน วัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน และถ้าเทียบองค์กรพุทธ ด้วยกัน แล้ว ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก ที่ยังหนุ่มแน่น พูดจาฉะฉาน มีความรู้ ได้รับรางวัลมากมาย และได้รับรางวัลยกย่องจากประธานาธิบดีไต้หวัน มีผู้กระซิบว่า นี่คือตัวแทนของ ท่านต้าซือที่ไต้หวันละ

ถ้าพวกเราจำท่านซิงหวินต้าซือ แห่งวัดฝอกวงซาน วัดพี่วัดน้องของวัดพระธรรมกาย ที่มีสาขางดงามทั่วโลกกว่า 180 แห่ง แต่ละแห่งละแห่งลงทุนก่อสร้างยิ่งใหญ่มหาศาล ได้รับการยกย่องจากภาคตะวันตกทั่วโลก องค์กรที่เข้มแข้งที่สุดเด่นที่สุด มีแม้กระทั่งมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา

ถ้าให้ผมยอมรับฝีมือ ต้องถือว่า วันนี้องค์กรพุทธแห่งนี้ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แม้มูลนิธิธรรกายเราก็ยังตามหลังเขามากนัก ในเรื่องการขยายสู่โลกสากล เพราะฉะนั้น รัฐบาลไทยหรือ องค์การสงฆ์ไทยน่าจะตื่นขึ้นมาดูโลกได้แล้ววา โลกเขาก้าวกันไปถึงไหนแล้ว อย่ามัวแต่มากีดกันและตีกันเองในเมืองไทยให้ชาวโลกเขาขบขันเลย

เพราะในในต่างประเทศไม่เพียงแต่จะไม่กีดกันเรื่องศาสนา ยังได้รับการส่งเสริมสนับสนุนอย่างเต็มที่ในรัฐบาล ประธานาธิบดีไต้หวันเองให้เกียรติยกย่อง และตามสนับสนุน อย่าง เต็มที่ เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศให้ไปทั่วโลก โดยอาศัยพระภิกษุสงฆ์ที่ดำเนินการอย่างทันสมัย สามารถรวมใจชาวจีนได้ทั่วโลกอย่างลึกซึ้งและแยบยล

ซึ่งเรื่องนี้ตรงกันข้ามกับจีนแดงแบบฟ้ากับดิน เพราะคอมมิวนิสต์เกลียดศาสนา เหตุนี้ไต้หวันแม้เป็นเกาะนิดเดียว แต่ก็มีเศรษฐกิจและความเจริญก้าวหน้าตามติดญี่ปุ่นไม่ห่าง เพราะวิสัยทัศน์ของผู้บริหารประเทศกว้างไกล และวงการสงฆ์จีนใหม่ ก็มองการณ์ไกลจนสุดจักรวาล

กลับมาในเรื่องการสัมมนา ผมได้มีโอกาสรับเชิญให้บรรยายในหัวข้อ "การบริหารพุทธศาสนาในสหัสวรรษใหม่" ก็ได้นำเอาสิ่งที่เขียนมาตลอดในคอลัมน์นี้ไปเล่าให้เขาฟัง นับตั้งแต่ การเปลี่ยนแปลงใหม่ของโลกในสหัสวรรษใหม่ การเปลี่ยนแปลงในวงการค้า วิถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทศวรษหน้า แนวความคิดเรื่องศาสนาในอนาคตจะเป็นอย่างไร คิด ทำนายของโลกจากนักพยากรณ์ต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

การวิเคราะห์ตนเอง และจุดอ่อนของการเป็นผู้นำชาวพุทธ ในมุมมองของนักบริหารสมัยใหม่ การปลุกกระแสให้ทุกคนตื่นจากความคิดเก่า การบริหารแบบเก่า การคิดสั้น มองแคบ ทำให้ล้าสมัย ไม่ทันโลก และปลุกผู้นำชาวพุทธหนุ่มสาวให้ลุกขึ้นมาทำงานพระศาสนาด้วยหัวใจ ด้วยความคิด จิตวิญญาณ แต่ด้วยวิถีทางของ มนุษย์สหัสวรรษใหม่ New Millennium Man

ต้องขอบคุณคุณสมหมาย ครสาคู ประธานองค์กร ยพสล.ที่ให้เกียรติผม ได้มีโอกาสเสนอความคิดต่อการประชุมที่น่ารักนี้ ผมแอบเห็นใบวัดผลที่ผู้เข้าร่วมประชุม ลงคะแนนให้ว่า จัดงานได้ยอดเยี่ยม ขอแสดงความยินดีต่อผู้จัดงานและความสำเร็จทั้งหมด เยี่ยมครับ

สิงห์ขาว


[หน้าหลัก][หน้า1][สหัสวรรษ][วิวาทะ]