ปีที่ 2 ฉบับที่ 854 ประจำวันอาทิตย์ที่ 14 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
จะยึดหลักพระธรรมวินัย หรือจะยึดความคิดเห็นของคนบางคน?
ปู่สมพร เทพสิทธา
จะออกหนังสือจำนวน 50,000 เล่ม ตอบโต้
"เบญจ์ บาระกุล" ปู่สมพร
ยืนยันหนักแน่นว่า
ผลงานของเบญจ์ บาระกุล และทีมงาน
คือการทำลายพระพุทธศาสนา
ซ้ำยังระบุด้วยว่า
จะเปิดโปงกระบวนการและวิธีการทำงานของเบญจ์
บาระกุล ชนิดหมดเปลือกทีเดียว
ปู่สมพรยังตีงวงฟาดงา
ยุให้ปิดหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทยอีก
ก็อดนึกชมคุณปู่ไม่ได้
ที่แม้วัยจะเข้าสู่ปัจฉิมวัยแล้ว
ยังพยายามที่จะสร้างคุณความดี
และยังออกมาแสดงความเป็นพุทธมามกะ
ปกป้องพระพุทธศาสนาอย่างที่หาตัวจับได้ยาก
แต่เรื่องการปิดหนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
มันไม่แฟร์เลยนะ
และการออกมากล่าวหาผู้อื่น
ว่าทำลายศาสนาปาวๆ โดยอ้างว่า
มองไม่เห็นงาในน้ำขุ่นมัว
ก็ถือว่าไม่เห็น เป็นอนัตตากัน
เสียแล้ว
สรุปฟันธงเอานิพพานเป็นอนัตตา
ไม่ง่ายไปหน่อยหรือครับคุณปู่
สมแล้วที่ผู้ปกป้องพระพุทธศาสนารุ่นเยาว์
ก็ท่านประธานยุวธิกพุทธสมาคมไงคุณคุณปู่
เดี๋ยวจะหาว่า
ผมไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ
ก็คุณปู่เป็นยุวพุทธจริงๆ
นี่น๊า
ปิดหนังงสือพิมพ์พิมพ์ไทยหรือครับ
เอาแรงไปปิดฝาโลงก่อนเถอะคุณปู่สมพร
มีความเห็นอย่างนี้
คุณปู่สมพรก็สบถขึ้นมาว่า
ไอ้หมอนี่ มันไม่ใช่ชาวพุทธ
ไม่มีความเข้าใจในพุทธธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
คุณปู่ครับ
ผมมีนิทานจะเล่าให้คุณปู่ฟังสักเรื่องหนึ่ง
มีผู้วิเศษตนหนึ่ง
คิดว่าเป็นผู้ที่ชำนาญการด้านพระพุทธศาสนาเหนือกว่าใครในโลกา
เข้าใจธรรมะอย่างลึกซึ้ง
วันดีคืนดีก็ร้อนวิชา
เขียนถึงพุทธประวัติของพระพุทธองค์ภาคพิสดาร
กล่าวล่วงไปถึงองคชาติของพระบรมศาสดา
ซ้ำยังตะแบงวิเคราะห์ไปอีกว่า
พุทธเจ้าไม่ได้เห็นพิษภัยของวัฏสงสาร
แต่ถูกการเมืองภายในรั้วในวัง
บีบคั้นให้จำต้องทรงผนวช
ลากยาวไปถึงพระพุทธเจ้าสมณโคดม
ท่านเป็นชาวไทย เป็นคนไทยโน้น
คนวิเศษอย่างนี้หรือครับ
ที่ปู่สมพรชอบคบหา
ปรึกษาข้ออรรถข้อธรรมกัน
ก็ขอให้คุณปู่อายุยืนหมื่นๆ
ปีล่ะกัน
คุณปู่ครับหนังสือที่จะทำแจก 50,000
เล่ม หากแจกไม่หมด
ส่งมาที่พิมพ์ไทยสักเล่มก็ได้นะ
เพื่อเป็นกรณีศึกษาว่า
ใครคือผู้ทำลายพุทธศาสนากันแน่
เพราะการรับฟังข้อมูลเพียงด้านเดียว
ไม่ใช่วิสัยของวิญญูชน!
ปลดไปแล้ว เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง
พระครูปทุมกิจโกศล
พระสุเมธาภรณ์
เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
เป็นผู้ลงดาบอาญาสิทธิ์
ท่านพระครูปทุมกิจโกศล
พูดได้คำเดียวว่า
ทำดีที่สุดแล้ว
เมื่อผู้บังคับบัญชา
มีความเห็นอย่างไรก็พร้อมรับ
ท่านพระครูปทุมกิจโกศล
ยังคงยืนยันว่า
วัดพระธรรมกายไม่ผิด
และการให้อยู่ในตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย
ก็ถือเป็นอำนาจ เป็นดุลยพินิจ
ในฐานะพระผู้ปกครอง ที่ใกล้ชิด
วัดพระธรรมกายมากที่สุด
พระสุเมธาภรณ์
ท่านไม่เห็นกับท่านพระครู
แต่ท่านเห็นแก่เสี่ยตือ
สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ก็ต้องช่วยกันเร่งผลักดัน พ.ร.บ.ฉบับฆราวาสปกครองสงฆ์กันโดยเร็ว
เพราะพระธรรมวินัย
กฎมหาเถรสมาคมที่มีอยู่มันบ้อท่า
เก่าเหลาเหย่ใช้ไม่ได้เสียแล้ว
ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะบวชเป็นพระภิกษุให้รอบคอบ
เช็คบัญชีเงินฝากธนาคาร
ตรวจสอบด้วยว่า
มีอสังหารริมทรัพย์ใดบ้าง
เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง
เงินของวัดก็ฝากไว้กับกรมการศาสนาให้หมด
เพราะข้าราชการในกรมการศาสนา
มือซื่อใจสะอาดกันทั้งนั้น
บางท่านก็หวังดี
โยกเงินจากกรมเข้าบัญชีตัวเอง
บางคนก็ช่วยเคลียร์ปัญหาให้พระเน่าทั่วราชอาณาจักร
ล้มคดี
ช่วยเหลือเกื้อกูลพระพุทธศาสนากันคนละไม้ละมือ
พระพุทธศาสนาในประเทศไทยจะได้เจริญสถาพร
แต่จะทำอะไรก็ขอให้เกรงกลัวต่อบาปกรรมกันบ้าง
จะยึดเอาตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นแบบแผน
หรือไม้บรรทัดคงเป็นเรื่องที่ไม่ชอบธรรมสักเท่าไหร่
เอาความเห็นของคนบางคนฟังธงไปเลยว่า
พระนิพพานเป็นอนัตตา
คนนั่งสมาธิเหมือนคนติดฝิ่น
ใครมีความเห็นเป็นอย่างอื่น
ถือเป็นพวกอลัชชีเดียรถีร์
ไม่แฟร์ !
ผู้ที่ออกมาตำหนิคณะกรรมการมหาเถรสมาคมหย่อนยาน
วางแผนอุบาทว์ คิดล้มโต๊ะมส.
ลองดูซิครับ
ไม่ใช่เรื่องปอกกล้วยเข้าปาก
ไม่ง่ายอย่างที่คิด
พระเถระท่านทำอะไรก็อยู่ในกรอบพระธรรมวินัย
จะเอาให้ถูกใจเหมือนพระนักวิชาการที่ทำงานรวดเร็ว
มีความเห็น
แอบอิงเหมือนกับสามัญชนทั่วไปก็เกรงใจกันหน่อยเถิดครับ
ครูบาอาจารย์ใคร ใครก็รัก
จะรักจะชอบใครก็ไม่มีใครว่า
ขออย่างเดียว
อย่าเที่ยวแกว่งไปก้าวล่วงครูบาอาจารย์ผู้อื่น
ที่ท่านมีข้อวัตรและอารมณ์พระนิพพานที่ไม่ใช่อนัตตา
ไม่มีประโยชน์ที่จะไปจูนความศรัทธาของผู้อื่นให้เหมือนหมู่คณะตน
ให้เกียรติกันฉันเพื่อนมนุษย์
สังคมก็สามารถอยู่ร่วมกันได้
โซตัส