ปีที่ 2 ฉบับที่ 855 ประจำวันจันทร์ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

หน้า 1

ถล่มเจ้าคณะปทุมฯ ปลดพระครูปทุมกิจ
ศิษย์ฮือก่อม็อบประท้วง เตรียมเชือดอ้างสังฆราช

ม็อบศิษย์วัดสว่างภพฮือถามเจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ ปลดหลวงพ่อด้วยเรื่องอะไร ควรชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ยื่นข้อเสนอให้ทบทวนคำสั่ง เพราะเชื่อว่า เจ้าอาวาสวัดสว่างภพ ไม่มีความผิด และวัดในเขตปกครองทั้ง 7 วัด ไม่เคยได้รับความเสียหาย มีการเผยแพร่ธรรมะ จนแพร่หลายออกไปทั่วโลก พระสุเมธาภรณ์ อ้างเป็นเรื่องการปกครองสงฆ์ ฆราวาส ไม่ควรยุ่ง ได้ตัดสินไปแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงเด็ดขาด ตัวแทนม็อบยืนยัน เรื่องนี้ ไม่ชอบธรรม และจะเรียกร้องต่อไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ด้านกลุ่มชาวพุทธรวมตัว เตรียมหา ข้อกฎหมาย เชือดคนแอบอ้างพระนาม สมเด็จพระสังฆราช ที่ระบุว่า ให้พระสุเมธาภรณ์ เข้าเฝ้าในวันที่ 11 พ.ย. ทั้งที่ไม่เป็นความจริง สมศักดิ์ มาแปลก ล๊อบบี้โรงเรียนทั่วประเทศ ให้พิจารณาการสอบธรรมะทางก้าวหน้า โครงการของวัดพระธรรมกาย พระเลขาของหนกลางบอก ตัดสินตามสื่อมวลชนต้องการแล้ว

สืบเนื่องจาก พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี วัดมูลจินดาราม ได้มีคำสั่งปลด พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนี่ง ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (14 พ.ย.) ที่วัดมูลจินดาราม เวลา 13.00 น. ได้มีคณะศิษย์วัดสว่างภพ ประมาณ 200 คน ได้เดินทางมารวมตัวเรียกร้อง เพื่อให้พระสุเมธาภรณ์ ทบทวนคำสั่งปลดพระครูปทุมกิจโกศล ออกจากตำแหน่ง

แต่เนื่องจากพระสุเมธาภรณ์ไม่อยู่วัด ได้เดินทางไปยังวัดเขียนเขต กลุ่มผู้เรียกร้องจึงได้เดินทางตามไปรวมตัวประท้วงที่วัดเขียนเขต เวลาประมาณ 14.00 น. กลุ่มผู้เรียกร้อง ได้รวมตัว กันมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้วัดสว่างภพ ได้พากันชูป้ายประท้วง และกล่าวโจมตีพระสุเมธาภรณ์ว่า ไม่ให้ความเป็นธรรมต่อพระครูปทุมกิจโกศล

นอกจากนี้ ยังได้ส่งตัวแทนคือ นายศิริยะ สัตตัง อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ 6 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เข้าเจรจากับพระสุเมธาภรณ์ โดยนำหนังสือที่ทางกลุ่มร่างขึ้นมา ความว่า

คณะศิษย์วัดสว่างภพ วันที่ 13 พ.ย.2542 เรื่องกราบนมัสการขอความเป็นธรรมให้กับเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง กราบนมัสการพระเดชพระคุณ พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี วัดมูลจินดาราม อ้างถึง คำสั่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่ 22/2542


สืบเนื่องจากคำสั่งดังกล่าว ข้าพเจ้าทั้งหลายในฐานะคณะศิษย์ หลวงพ่อท่านพระครูปทุมกิจโกศล ร่วมกับสมาชิกสภาองค์กรบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์กรสตรีชาวพุทธ และ พุทธ ศาสนิกชน ผู้รักความเป็นธรรม ตระหนักดีว่า ในฐานะเจ้าคณะจังหวัด พระเดชพระคุณท่านย่อมเป็นพระสงฆ์ ผู้ทรงคุณธรรมสูง กอรปด้วยสติปัญญา ความสามารถ และมีเมตตา ธรรมยิ่ง ในการปฏิบัติศาสนกิจมาโดยตลอด หากทว่าในสถานการณ์ที่นักการเมือง และข้าราชการกรมการศาสนา มีเจตนาเข้าครอบงำบีบคั้นท่าน เพื่อให้ เป็นไปตามความ ต้องการ ของ ฝ่ายบ้านเมือง และอำนาจกิเลสฝ่ายต่ำเรื่อยมา จนในที่สุดพระเดชพระคุณ ท่านต้องยอมพ่ายแพ้แก่อำนาจ หันมาทำลายสงฆ์ด้วยกันเอง ออกคำสั่งอันไม่เป็นธรรมต่อพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ซึ่ง

1. เป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา มีอายุพรรษา ถึง 55 พรรษา 2.เป็นเจ้าคณะตำบล ปฏิบัติหน้าที่มาด้วยความตั้งใจอย่างเข้มแข็ง ตลอดเวลา 25 ปี 3. เป็นพระอุปัชฌาย์มานานเกือบ 30 ปี บวชกุลบุตรเป็นพระภิกษุในพระศาสนา มามากว่า 5,000 รูป 4.ปกครองพระภิกษุสามเณร ในเขตปกครอง 7 วัด ด้วความสงบเรียบร้อย ไม่มีอธิกรณ์ใดๆ ตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะ ตำบล เป็นต้นมา 5. มีผลงานในด้านส่งเสริมการศึกษาแก่คณะสงฆ์ ในเขตปกครอง เห็นได้ชัดว่า พระเณรสอบเปรียญธรรมได้มากที่สุดในประเทศ รวมทั้งเปรียญธรรมเอก

6.แม้การศึกษาในแผนกสามัญ ท่านได้เปิดโรงเรียนปริยัติธรรม มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 เพื่อให้การศึกษาแก่ผู้ด้อยโอกาส โดยให้บวชเรียนตั้งแต่ 7 ขวบ จนปัจจุบันมีสามเณร ในโรงเรียน หลายร้อยรูป/ปี 7. ในด้านการส่งเสริมพระพุทธศาสนา เป็นเขตปกครองที่มีสาธุชนให้ความสนใจ เข้าวัดทำบุญ ปฏิบัติพระศาสนา มากที่สุด รวมถึงชาวต่างประเทศที่สนใจด้วย 8. ท่านเป็นที่พึ่งให้แก่ประชาชน ทั้งทางธรรม และทางการแพทย์แผนโบราณ เพราะเชี่ยวชาญเรื่องตัวยาสมุนไพรมาหลายสิบปี แม้ตัวท่านเอง อายุกว่า 75ปีแล้ว สุขภาพยังแข็งแรง ไม่มี โรคภัยไข้เจ็บใดๆๆ

เท่าที่คณะศิษย์และพุทธศาสนิกชน ผู้รักความเป็นธรรม จะระลึกได้ถึงพระคุณของท่านพระครู และกราบเรียนนมัสการมานี้ เพื่อยืนยันว่า ท่านพระครูฯ มิได้เป็นผู้หย่อนความสามารถ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ตามตำแหน่งได้ ตามเหตุผลในคำสั่งของท่านเจ้าคุณ แต่ประการใด

คณะศิษย์ฯ จึงใครขอความเมตตาจากพระเดชพระครุณ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ได้โปรดพิจารณา

1.ยกเลิกคำสั่งถอดถอนออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง 2. หากไม่ยกเลิกได้ โปรดชี้แจงด้วยว่า หย่อนความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความเสียหายอย่างไรแก่ 2.1 เสียหายแก่วัดในเขตปกครองทั้ง 7 วัดอย่างไร 2.2 เสียหายแก่พระในเขตปกครองทั้ง 7 วัดอย่างไร 2.3 เสียหายแก่ประชาชนในเขตปกครองทั้ง 7 วัดอย่างไร เพื่อนำไปชี้แจงต่อ ศิษยา นุศิษย์โดยทั่วกัน และป้องกันการเสื่อมศรัทธาต่อหลวงพ่อเจ้าคณะตำบลต่อ 3. ท่านจะได้ไม่ถูกครหาว่า ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ กลั่นแกล้งผู้ใต้บังคับบัญชา เพราะตกเป็นเครื่องมือ ของนักการเมือง และข้าราชการเลวๆ ในการมาของพวกกระผมทั้งหมด มาด้วยความรัก และเคารพต่อพระเดชพระคุณท่าน เพื่อป้องกันและแก้ไขท่านจากครหา นมัสการมาด้วย ความเคารพ คณะศิษยานุศิษย์

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจาก นายศิริยะ ได้ยื่นหนังสือดังกล่าว ต่อเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีแล้ว ปรากฏว่า พระสุเมธาภรณ์ไม่ยินยอมรับหนังสือ พร้อมกล่าวว่า เรื่องได้ตัดสินลงไปแล้ว และเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ก็รู้ดีว่า อะไรเป็นอะไร ถ้าหากทางกลุ่มผู้ประท้วงเกิดความไม่พอใจ ก็ควรจะไปสอบถามเอาจากเจ้าคณะตำบลดูเอง เชื่อว่าท่านรู้ตัวดี

นายศิริยะได้กล่าวแย้งว่า ที่พวกตนเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อต้องการคำชี้แจงว่า เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง มีความผิดอะไร การตัดสินมีความชอบธรรมแค่ไหน เจ้าคณะจังหวัด ควรจะชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ

พระสุเมธาภรณ์กล่าวตอบว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องการปกครองของสงฆ์ ไม่ใช่เรื่องของฆราวาส และได้มีการตัดสินลงไปแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเด็ดขาด พร้อมกล่าวให้นาย ศิริยะ และพวก เดินทางกลับไป เพราะขณะนี้มีพิธีสงฆ์ในวัดเขียนเขต เดี๋ยวจะถูกตำรวจจับในข้อหาก่อกวนงานพิธีสงฆ์

นายศิริยะได้ให้สัมภาษณ์ว่า ชาวบ้านวัดสว่างภพ ไม่พอใจต่อคำสั่งของเจ้าคณะจังหวัดเป็นอย่างยิ่ง เพราะเจ้าคณะตำบลเป็นพระดี ประชาชนยกย่องเลื่อมใสศรัทธา เป็นจำนวนมาก ท่านบวชมาตั้งแต่เป็นเณร สร้างคุณประโยชน์แก่พระศาสนาอย่างใหญ่หลวง ทำไมจึงมีการปลดแบบไม่ชอบธรรมเช่นนี้เกิดขึ้น ซึ่งชาวบ้านวัดสว่างภพ จะไม่ยอมรับในคำสั่งดังกล่าว และจะหาทางร้องเรียน ต่อผู้ปกครองระดับสูงในโอกาสต่อไป

นายวิริยะ บูรณะศิลป์ อยู่บ้านเลขที่ 72/41 ต.เลียบคลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตัวแทน ผู้เรียกร้องอีกคนหนึ่งกล่าวว่า การที่พระสุเมธาภรณ์ บอกว่าเป็นเรื่องของสงฆ์ ฆราวาสไม่เกี่ยว ตนรู้สึกไม่เห็นด้วย ความจริงแล้ว เรื่องปัญหาวัดพระธรรมกาย ก็เข้าสู่กระบวนการสงฆ์ ซึ่งต้องเป็นไปตามระดับชั้นปกครอง เป็นไปตามขั้นตอน วัดพระธรรมกาย มีความดีมากมาย แต่แปลกที่สื่อมวลชน ไม่เคยพูดถึง พูดแต่เรื่องเสียหาย ทั้งๆ ที่ยังเป็นเพียงข้อกล่าวหาในทุกเรื่อง ยังไม่ถือว่า มีมูล ทำไมเจ้าคณะจังหวัดจึงเอาเรื่องนี้ มาเป็นเหตุปลด เจ้าคณะตำบลออกจากตำแหน่ง ถือว่าไม่ยุติธรรม

หลวงพ่อเจ้าคณะตำบลเป็นอุปัชฌาย์มานานกว่าเจ้าคณะจังหวัดเสียอีก ท่านไม่เคยมีความผิดอธิกรณ์ใดๆ ก็ไม่เคยต้อง มีอายุพรรษาเยอะ ชาวบ้านให้ความเคารพมาก เจ้าคณะ จังหวัด มาทีหลัง ท่านไม่ได้ฝักใฝ่ลาภยศ ท่านรู้ว่า วัดพระธรรมกายช่วยเยาวชนได้อย่างไร ในแต่ละปี รัฐต้องเสียเงินมากในเรื่องยาเสพติด แต่เดี๋ยวนี้ เยาวชนในคลองหนึ่งถึงคลองสาม เป็น เด็กดี เพราะมีวัดช่วยอบรมบ่มนิสัย เมื่อก่อนเคยเป็นโจร แต่ทุกวันนี้ เด้กเข้าวัดเป็นแบบปฏิบัติที่ดี เจ้าคณะจังหวัดควรพิจารณาความเรื่องนี้ให้ดี เจ้าคณะตำบล ไม่มีความผิด เราจึงเดิน ทางมาเรียกร้องความเป็นธรรม

สำหรับเรื่องกรณีที่มีการแอบอ้างพระนามสมเด็จพระสังฆราช โดยเฉพาะเรื่องที่มีการปล่อยข่าวว่า พระสังฆราชเรียก พระสุเมธาภรณ์ เข้าพบที่วัดบวรนิเวศน์วิหาร ในวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา และปรากฏว่า คำกล่าวอ้างดังกล่าว ไม่เป็นความจริง โดยที่ พระสุเมธาภรณ์ ถูกหลอกให้เดินทางไปวัดบวรนิเวศน์ แต่ไม่ได้เข้าเฝ้าพระสังฆราช โดยกองเลขานุการ ของ พระสังฆราช ได้บอกว่า จะต้องมีนัดหมายมาก่อนนั้น

ในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ชาวพุทธกลุ่มหนึ่ง กำลังรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้นำตัวผู้กล่าวอ้างพระนามสมเด็จพระสังฆราชมาลงโทษ ในฐานะที่แอบอ้างเบื้องสูง มาบีบบังคับพระสงฆ์ ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับตนเอง ซึ่งถือว่า ไม่เหมาะสม เป็นการดึงฟ้าลงมาต่ำ ซึ่งชาวพุทธกลุ่มดังกล่าว กำลังหารือกันในข้อกฎหมาย เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ คาดว่า จะได้ผล สรุปไม่เกินปลายสัปดาห์นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้อาจารย์จากโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ รู้สึกอึดอัดต่อท่าทีของ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ ที่มีคำสั่งด้วยวาจาไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่ว ประเทศ ให้พิจารณาเรื่องการสอบธรรมะทางก้าวหน้า ซึ่งเป็นโครงการของวัดพระธรรมกาย โดยใช้ หนังสือ "มงคลชีวิต" เป็นแบบเรียน ซึ่งคำสั่งเช่นนี้ ถือว่า ไม่ถูกต้อง เพราะการสอบ ธรรมะไม่ได้ขัดต่อศีลธรรม และยังถือเป็นการอบรมคุณธรรมให้กับเยาวชนของชาติ แต่กลับมีคำสั่งในทำนองนี้ออกมา

รายงานข่าวล่าสุดเมื่อเวลา 22.30 น. วันเดียวกันนี้ ปรากฏว่า ได้มีกลุ่มชาวบ้านจำนวนกว่า 500 คน เดินทางไปยังวัดชนะสงคราม เพื่อคัดค้านคำสั่งถอดถอนพระครูปทุมกิจโกศล จากตำแหน่งเจ้าคณะตำบล โดยยืนยันว่า คำสั่งดังกล่าวไม่เป็นธรรม

ขณะที่สมเด็จมหาธีราจารย์ เจ้าคณะหนกลาง ยืนยันว่า ให้พักตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งไว้ชั่วคราว โดยพระเลขาออกมาบอกว่า ได้ตัดสินไปตามที่สื่อมวลชนต้องการแล้ว ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจเป็นอย่างมาก และปักหลักประท้วงยืดเยื้อ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมดูแลสถานการณ์อย่างเข้มงวด


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ]