ปีที่ 2 ฉบับที่ 855 ประจำวันจันทร์ที่ 15 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
คนไทยในแอลเอเขาปกป้องพระพุทธศาสนากันอย่างไร?
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในแอลเอ
สหรัฐอเมริกา Thai Times USA ไทยไทมส์
ฉบับประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 1999
ตีพิมพ์ข่าวหน้า 1 พาดหัวว่า ส.ศิวรักษ์
มาแอลเอ กลุ่มต่อต้านประท้วง
เนื้อข่าวบรรยายว่า
กลุ่มคนไทยในแอลเอจำนวนหลายสิบคน
นำโดยนายประสงค์ สุวรรณพานิช
นายอรุณ สีบุญเรือง
ชูป้ายประท้วงต่อต้าน นายส.ศิวรักษ์
บริเวณห้องอาหาร ทับทิม สยาม
เมื่อวันจันทร์ที่ 8 พฤศจิกายน
ที่ผ่านมา
เพื่อเป็นการประท้วงนายส.ศิวรักษ์
ขณะที่มาเป็นผู้ประสานการแสดงละครเกียรติคุณของท่านปรีดี
พนมยงค์
ระหว่างการประสานงานกับสมาชิกของนายส.ศิวรักษ์อยู่นั้น
ปรากฏว่า
มีกลุ่มคนไทยที่ไม่พอใจนายส.ศิวรักษ์
นำป้ายเขียนข้อความโจมตีเขา
อาทิ "คนกะ-อน" "เจ้าอสู..
ในคราบ นักวิชาการ" ฯลฯ
จนเจ้าหน้าที่ตำรวจแอลเอต้องเข้าไปยุติการประท้วงดังกล่าว
ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่า
เขามีสิทธิที่จะประท้วงกับสิ่งที่เขาไม่เห็นด้วย
โดยเฉพาะนายส.ศิวรักษ์
ที่พูดจากร้าวร้าว
และชี้หน้าต่อพระธรรมราชานุวัตร
หรือหลวงเตี่ย และพระเถระ
ผู้ใหญ่ในรายการกรองสถานการณ์
ของนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ทางช่อง 11
โดยรายการกรองสถานการณ์ถูกบันทึกวิดีโอเทป
เผยแพร่ไปสู่สายตาคนไทยในแอลเอ
ได้สร้างความไม่พอใจกับผู้ที่เห็นพฤติกรรมของ
นายส.ศิวรักษ์ เป็นอย่างมาก
ครับ ! เดี๋ยวนี้
นักวิชาการเขาก็มักเป็นกันอย่างนี้แหละ
บางพวกกลัวคนลืม
ร่ำเรียนจบถึงดร.
มีความรู้มากมาย
แต่ชอบมองผู้อื่นเป็นมนุษย์ที่ด้อยค่ากว่าตัวเอง
สำคัญตนเป็น ผู้ชี้นำทาง
ความคิดของสังคม
ดร.บางคนก็กระสันอยากจะตะกายเข้าสู่ตำแหน่งวุฒิสมาชิก
ถึงขนาดเอาตัวไปรับใช้นักการเมือง
พรรคการเมืองอย่างน่าละอายใจที่สุด
หาความเป็นผู้รู้
หรือนักวิชาการมิได้
น่าละอายใจ และเศร้าสลดใจจริงๆ
ครับ
สถานการณ์วัดพระธรรมกายวินาทีนี้
ดูเหมือนจะเคร่งเครียดเอามากๆ
เมื่อพระสุเมธาภรณ์
เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี
ในฐานะผู้พิจารณาชั้นต้นนิคหกรรม
พระธัมมชโย เจ้าอาวาส
วัดพระธรรมกาย
เดินเกมตามท่านรัฐมนตรี
สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล
มีคำสั่งปลดเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง
ในฐานะไม่สนองตอบงานตามความเห็นของคนหมู่มาก
และนักการเมือง
ไม่ทราบว่ากฎมหาเถรสมาคม
ที่มีกฎหมายรับรองอยู่นั้น
ถูกทอดทิ้งไปอยู่ที่ไหน
พระธรรมวินัยเป็นอย่างไร
พระนักวิชาการอย่าสับสนซิขอรับ
ภาพการณ์ดังกล่าว
เท่ากับเป็นการเปิดช่องให้ พ.ร.บ.ฉบับฆราวาสหัวดำปกครอง
เริ่มเป็นจริงเป็นจังขึ้นมาทุกขณะ
สังคมจะเป็นอย่างไร หากผู้นำ
และเหล่าเสนาบดีเต้นตามกระแส
โดยหาใช้วิจารณญาณของตนเองวินิจฉัย
สังคมแห่งพวกมากลากไป
เฉกเช่นเดียวกับสภาผู้แทนราษฎรไทย
ที่มีแต่เรื่องอดสูใจ
ยกมือปกป้องคนชั่ว
รัฐมนตรีกังฉินลอยตัวเหนือกฎหมาย
เพราะอำนาจกฎหมู่
จะมีประโยชน์อันใด
สำหรับผู้นำที่พร่ำเพ้อแต่ "หลักการ"
ถึงเวลาเอาเข้าจริงเป็นออย่างไงกันล่ะ
ก็เห็นที่จะมีแต่ "หลักกู"
เบ่งบานอยู่เต็มสภาผู้แทนราษฎรที่ทรงเกียรติ
สิ่งใดไม่เที่ยง
สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็น "อนัตตา"
ท่านรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาธิการที่เกิดมาพอมีบุญวาสนาเข้าไปนั่งเป็นใหญ่ในฝ่ายบริหาร
ศีล 5 ยังไม่รู้จะขึ้นจะลงอย่างไร
ยังเสนอหน้ามาพูดแสดงความเห็นว่า
พระนิพพาน ต้องมีสภาพเป็นอนัตตา
พิจารณากันเถิดสาธุชนคนใจพุทธ
ในเมื่อสิ่งใดไม่เที่ยง
สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์สิ่งนั้นเป็น "อนัตตา"
ประทานโทษ แล้ว "เกี้ยวกุ้ย"
ตนใดจึงอุปโลกเหมารวมเอาพระนิพพานไปรวมอยู่ในอนัตตา
แล้วจะสร้างความสับสนออกมาอีกว่า
พระนิพพานเป็นของสูงเป็นของเที่ยงว
ถ้อยคำที่ว่า "สิ่งใดไม่เที่ยง
สิ่งนั้นเป็นทุกข์
สิ่งใดเป็นทุกข์
สิ่งนั้นเป็นอนัตตา"
ไม่ใช่เรื่องที่มนุษย์ อมนุษย์
คนใดคนหนึ่ง อุปโลกขึ้น
แต่เป็นธรรมที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎกอย่างชัดแจ้ง
พิจารณากันให้ดีเถิดสาธุชน
เพราะท่านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ
ที่กำลังดำเนินการปัดกวาดพระพุทธศาสนาไม่ให้มัวหมอง
ด้วยการขจัดวัดพระธรรมกาย
และพระธัมมชโย
ก้าวแรกที่เข้ามารับตำแหน่งบริหารประเทศ
ว่าจะดำเนินการทำทุกสิ่งทุกอย่างตามคำพูด
ความเห็น แนวคิดของพระธรรมปิฎก
ที่ชูประเด็น...
พุทธแท้ต้องยึดมั่นถือมั่น
และโปรดจงเชื่อตามท่านเจ้าคุณว่า
พระนิพพานต้องเป็นอนัตตาเท่านั้น
หากใครมีความเชื่อผิดไปจากนี้ให้ถือว่า
เป็นพวกนอกรีต
พวกนอกพระพุทธศาสนา
พฤติกรรมและข้อปฏิบัติดังกล่าว
จึงไม่อาจทำให้ผมวางใจ
หรือไว้เนื้อเชื่อใจรัฐมนตรี
และผู้ที่เกี่ยวข้องในกระทรวงศึกษาธิการไม่ได้
เพราะคนพวกนี้ไม่มีดำริแห่งนั้น
ไม่มีหลักการแห่งตน
ทว่าเขามีความคิดแค่กระพี้
ยึดมั่นถือมั่นแค่บุคคลบางคนบางกลุ่ม
แล้วก็เอาความคิดที่เชื่อว่าถูกต้อง
โดยที่ไม่มีกระบวนการ หรือ
ขั้นตอนในการกลั่นกรองเข้าไปแก้ปัญหาในสถาบันหลักของชาติ
อวิชชาตัวเดียวแท้เทียวที่ทำให้โลกมนุษย์ในเล็กๆ
ใบนี้สับสนวุ่นวาย
รบราฆ่าฟันไม่รู้จักจบสิ้น
โซตัส