ปีที่ 2 ฉบับที่ 856 ประจำวันอังคารที่ 16 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

หน้า 1

ยี้บทบาทหัวดำ
พระเถระปฏิเสธ นั่งเก้าอี้คลอง1

พระครูปทุมกิจโกศล เตรียมฟ้องเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ย้อนรอยสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ที่แนะนำตัวแทนศิษย์วัดสว่างภพ ให้ไปฟ้องร้องกันเอง บิ๊กกรมศาสนาบุกล็อบบี้ เจ้าคณะคลองสี่ และเจ้าคณะคลองหกแทนพระครูปทุมกิจโกศล แต่ยังไม่มีใครรับปาก เพราะรู้ตัวว่า จะต้องมาสั่งปลดพระธัมมชโย ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เป็นภาระหนัก และไม่เห็นชอบกับการที่ฆราวาสจะเข้ามาแทรกแซงการปกครองสงฆ์ ด้านพระมหาปัญญา ขันติธัมโม เดินเกมตั้งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งองค์ใหม่เรียบร้อยแล้ว และกำลังร่างหนังสือปลดพระธัมมชโยอยู่ คาดว่าจะส่งถึงวัดพระธรรมกาย ใน 2-3 วัน เชื่อว่า ทางวัดพระธรรมกายจะแต่งตั้ง พระทัตตชีโว ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแทน เพราะยังไม่ต้องคดีอาญา ส่วนกรมการศาสนาตามบี้พระพรหมโมลีต่อ เร่งให้เดินกฎนิคหกรรม ขู่ถ้าไม่รับ จะถูกผู้บังคับบัญชา พิจารณาโทษ

ตัวแทนศิษย์วัดสว่างภพรายหนึ่ง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ทางคณะวัดสว่างภพ ได้เดินทางไปร้องเรียนต่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ที่วัดชนะสงคราม ปรากฏว่า ทางคณะศิษย์ได้ส่งตัวแทนจำนวน 5 คน เข้าไปร้องเรียนด้วยวาจาให้รับทราบ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ ได้กล่าวสรุปชี้ทางออกต่อตัวแทนศิษย์วัดสว่างภพว่า ให้ไปฟ้องร้อง พระสุเมธาภรณ์เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีเอาเอง

ในเรื่องดังกล่าว ทางคณะศิษย์ได้กลับมาหารือกันแล้วว่า ให้พระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ผู้ได้รับความเสียหาย ฟ้องร้องเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ตามคำแนะนำของสมเด็จพระมหาธีราจารย์

ตัวแทนศิษย์วัดสว่างภพยังกล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ ทางผู้ใหญ่ในกรมการศาสนา ได้ส่งตัวแทนเข้าไปล็อบบี้พระภิกษุหลายรูป เช่น เจ้าคณะตำบลคลองสี่ และเจ้าคณะตำบลคลองหก เพื่อตั้งขึ้นมาเป็นเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง แทนพระครูปทุมกิจโกศล แต่เนื่องจากพระผู้ใหญ่ที่ถูกทาบทาม ไม่เห็นด้วยในกรณีที่มีคำสั่งปลดพระครูปทุมกิจโกศล ด้วยความไม่ชอบธรรม และเห็นว่า ในเรื่องดังกล่าว คณะสงฆ์ถูกแทรกแซงจากฆราวาส ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ จะปกครองกันเอง จึงไม่มีพระรูปใดรับตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ตามข้อเสนอของระดับบิ๊กกรมศาสนา

นอกจากนี้ พระผู้ใหญ่ยังทราบว่า หลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งแล้ว จะต้องเข้ามารับภาระกิจที่ยาก มีปัญหามาก โดยเจ้าหน้าที่ทางการ ได้วางหมากไว้ก่อน แล้วว่า เมื่อตั้งเจ้าคณะตำบลองค์ใหม่ขึ้นมา จะต้องเข้ามาสั่งปลดพระธัมมชโยและพระทัตตชีโว ออกจากตำแหน่ง และอาจจะถูกฟ้องร้องจากวัดพระธรรมกายได้ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น มากมาย จนไม่ต้องปฏิบัติศาสนกิจ

ด้านพระมหาปัญญา ขันติธัมโม เจ้าอาวาสวัดบางหลวง รักษาการ เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงกล่าวว่า ขณะนี้ได้ผู้ที่จะมาเป็นเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง แทนพระครูปทุมกิจโกศลแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายชื่อได้ ซึ่งเจ้าคณะตำบลรูปใหม่ ได้ร่างหนังสือสั่งปลดพระธัมมชโย ออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คาดว่า ภายในอีก 2-3 วัน หนังสือดังกล่าว จะส่งถึงวัดพระธรรมกาย ส่วนผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งแทนพระธัมมชโยนั้น คาดว่า ทางวัดพระธรรมกาย จะแต่งตั้งพระทัตตชีโว ขึ้นมาเป็นเจ้าอาวาสแทน เพราะยังไม่ถูกฟ้อง ใน คดีอาญา

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีนาย ไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนา จะนำสรุปสำนวนคำกล่าวหา นิคหกรรม พระธัมมชโย และพระทัตตชีโว ไปมอบให้พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ว่า อธิบดีกรมการศาสนา ได้รายงานให้ตนทราบว่า ได้ไปนมัสการขอคำปรึกษาสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลางแล้ว ซึ่งท่าน ก็ให้ คำแนะนำว่า ขอให้รวบรวมหลักฐานคำกล่าวหา ไปมอบให้กับเจ้าภาค 1

หากเจ้าคณะภาค 1ยังไม่รับ ก็ให้รายงานเจ้าคณะใหญ่หนกลางทราบ หากเจ้าคณะภาค 1 ไม่รับสำนวนาดังกล่าว ควรจะดำเนินการอย่างไรนั้น ตนไม่กล้าจะชี้แนะ เดี๋ยวจะหาว่า ตนชักใยอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเรื่องนี้อยู่กับเจ้าคณะปกครอง ที่จะต้องพิจารณาว่า หากผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติตามมติ แล้วจะถูกดำเนินการ เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่รับสำนวน คำกล่าวหา หากสำนวนในเอกสารมีสิ่งใดที่ยังไม่สมบูรณ์ หรือขาดหายไป ก็ให้ผู้เกี่ยวข้องไปจัดหาเพิ่มเติม เพราะอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการอย่างรอบคอบ และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

กรณีที่มีการกล่าวหาว่า กระทรวงศึกษาธิการ กรมการศาสนาอยู่เบื้องหลังการปลดพระครูปทุมกิจโกศล ออกจากตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ขอให้ผู้ที่พูดได้คิด และใช้วิจารณา ญานให้ดี มิฉะนั้น จะกระทบและเป็นการดูหมิ่นเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ที่คิดว่า จะให้ใครก็ได้ มาชักใยหรือชักจูง ตนเป็นคฤหัสถ์และนักการเมือง ซึ่งจะต้องรายงานเกี่ยวกับขั้นตอน และวิธีการต่างๆ ให้คณะสงฆ์ให้รับทราบ และปัญหาในขณะนี้ก็คือ จะทำอย่างไร ที่จะทำให้ต้นเหตุของปัญหา คือ พระธัมมชโย และพระทัตตชีโว เข้าสู่กระบวนการ นิคหกรรม อย่างถูกต้อง หรือให้ทุกอย่างเป็นไปตามกติกาของสังคม การที่จะพิจารณาว่า พระรูปใดปฏิบัติหน้าที่หย่อนยาน เป็นหน้าที่ของเจ้าคณะปกครอง ตามลำดับชั้นที่จะพิจารณา

นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนากล่าวว่า จะเข้านมัสการพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 อย่างแน่นอน เพราะได้รับมติมหาเถรสมาคม(มส.) ให้เร่งดำเนินการเรื่อง วัดพระธรรมกายโดยด่วน แต่ไม่อาจรู้ว่า เมื่อเข้าไปประสานงานแล้ว เจ้าคณะภาค 1 จะดำเนินการหรือไม่ หากไม่รับก็จะต้องไปพบพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อรายงานต่อไป ตนมีหน้าที่ได้รับมอบหมายให้ไปประสานงานก็ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์

การปลดพระครูปทุมกิจโกศล ออกจากเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้อยู่เบื้องหลัง แต่เป็นหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องต้องพิจารณาเมื่อมีการทำหน้าที่บกพร่อง

ถ้าพระพรหมโมลีไปต่างประเทศนาน ต้องตั้งรักษาการเจ้าคณะภาค 1 เพื่อทำหน้าที่แทน

นายสุทธิวงศ์ ตันตยาพิศาลสุทธิ์ รองอธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า กรณีที่มส.มีมติให้อธิบดีกรมการศาสนา เร่งไปประสานทำความเข้าใจกับพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 ในการดำเนินการกรณีคำกล่าวหาของพระธัมมชโย และพระทัตตชีโว ให้เป็นไปตามกฎนิคหกรรม หากอธิบดีกรมการศาสนา สั่งการให้ตนนัดหมายไปเพื่อไปนมัสการพระพรหมโมลี แล้วพระพรหมโมลีไม่อยู่ หรือเดินทางไปต่างประเทศ ตามที่มีข่าว จะต้องพิจารณาดูว่า จะไม่อยู่เป็นระยะเวลานานหรือไม่

ถ้านานแต่เรื่องวัดพระธรรมกายจะต้องเร่งดำเนินการ จะต้องนำเรื่องขึ้นหารือ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อแต่งตั้งผู้รักษาการขึ้นมาแทนเจ้าคณะภาค 1 เพื่อให้เรื่องดำเนินการต่อไปได้ หรืออาจจะต้องเสนอผู้บังคับบัญชาที่เหนือกว่า ให้พิจารณาว่า ถ้ารอจนกว่าจะกลับ จะทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ ถ้ารอไม่ได้ ต้องเสนอผู้บังคับบัญชาแต่งตั้งผู้รักษาการ เพราะตำแหน่งเจ้าคณะภาค 1 จะปล่อยให้ว่างนานไม่ได้ แต่จะตั้งแทนหรือไม่ อยู่ที่ว่าในระยะเวลานั้น มีเรื่องด่วนหรือไม่ด่วน

นายสุทธิวงศ์ กล่าวอีกว่า ถ้าอธิบดีกรมการศาสนา ได้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับพระพรหมโมลี กรณีต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎนิคหกรรมแล้ว พระพรหมโมลียังยืนยันตามเดิม ที่จะไม่ดำเนินการหรือมีเหตุผลอย่างไร ทางกรมการศาสนาจะต้องพิจารณาว่า เหตุผลนั้นสอดคล้องหรือถูกต้องตามกฎหรือไม่ ถ้ายังผิดกฎอยู่ก็ต้องดำเนินการให้ถูกต้องสอดคล้อง

รองอธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า แม้จะมีผู้ชุมนุมเดินทางไปยื่นหนังสือคัดค้านการปลดพระครูปทุมกิจโกศล จากเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง ต่อเจ้าคณะภาค 1 และเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ก็ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง พระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เป็นพระผู้ปกครองที่มีอำนาจแต่งตั้ง จึงเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิทบทวนหรือเปลี่ยนแปลง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิวงศ์ ได้เดินตรวจห้องของฝ่ายกองการเจ้าหน้าที่ กองนิติการ ห้องฝ่ายตรวจสอบภายในและห้องนายสุทัศน์ ทิวทอง รองอธิบดีกรมการศาสนา ที่ถูกคนร้าย ลักลอบ เข้าไปรื้อค้นของ นายสุทธิวงศ์กล่าวว่า ห้องดังกล่าวได้ถูกรื้อค้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยคนร้ายได้เข้าไปรื้อค้นโต๊ะทุกโต๊ะ สามารถนำพระเครื่องและของไปบางส่วน และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานสถานีตำรวจนครบาลดุสิต กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ และว่า การงัดห้องครั้งนี้คงไม่เกี่ยวกับเรื่องวัดพระธรรมกาย เพราะเอกสารอยู่เป็น ปกติ ไม่มีอะไร อย่างไรก็ตามกรมการศาสนาถูกคนร้ายงัดห้องมาถึง 3 ครั้งแล้ว จึงได้ให้ รปภ.จากพุทธมณฑล 2 นายมาดูแลรักษาความปลอดภัยเพิ่ม

นายไพบูลย์ เสียงก้อง อธิบดีกรมการศาสนายังกล่าวถึงคนร้ายที่เข้ามารื้นค้นในห้องกองนิติการด้วยว่า น่าจะเป็นพวกงัดแงะธรรมดา และไม่มีเอกสารอะไรหาย เอกสารต่างๆ ถูกเก็บอยู่ ในตู้เรียบร้อย แต่ก็ได้สั่งการให้มีการระมัดระวังมากขึ้นให้อยู่เวรยามให้ต่อเนื่องมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก สำหรับห้องของตนคงไม่มีการระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะมีแต่ เอกสารราชการทั่วๆไปเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก วานนี้ (15 พ.ย.) วัดพระธรรมกาย โดยพระภานุมาศ ภานุปาโณ ได้ให้นายสนธยา โพธิ์แดง ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท และหนังสือพิมพ์ข่าวสดกับผู้สื่อข่าวอีก 2 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาท โดยระบุจำเลยทั้งสี่ได้ร่วมกันตีพิมพ์ข้อความหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ ให้ได้รับความ เสียหายหลายประการ ทำนองว่า นายไชยบูลย์ สุทธิผล เจ้าอาวาสปฏิบัติศาสนกิจ ไม่ถูกต้อง มุ่งแต่หาเงินทอง และใช้คำเรียกว่า “ธรรมโกย” หรือเรียก “ไอ้แว่นบ้าง” “จอมมารบ้าง” “จอมเบี้ยวบ้าง” ซึ่งล้วนเป็นความเท็จ และน่าจะเกิดความเสียหายแก่โจทก์ ซึ่งทำให้คนที่อ่านข้อความดูหมิ่นเกลียดชัง จึงต้องนำคดีมาฟ้อง ขอให้ศาลออกหมายเรียกจำเลยมาลงโทษ ตามความผิดด้วย ศาลอาญารับคำฟ้องไว้และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 13 มกราคมศกหน้า เวลา 13.30 น.


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ]