ปีที่ 2 ฉบับที่ 859 ประจำวันศุกร์ที่ 19 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542 |
เจริญพร บ.ก.พิมพ์ไทย
ข้อเขียนต่อไปนี้ มิได้มีเจตนาจะกล่าวหาผู้ใด แต่เป็นความไม่ชอบธรรมที่ได้เกิดขึ้นกับคณะสงฆ์ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
ตั้งแต่มีการยกเจ้าคณะอำเภอ
คลองหลวงเป็น กิตติมศักดิ์ ได้มีการแต่งตั้งรักษาการณ์แทน โดยแต่งตั้งพระมหาปัญญา ขันติธัมโม อายุ 36 ปี พรรษา 16 ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดบางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี
มาเป็น
รักษาการแทนเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง ต่อมาก็ปลดพระครูปทุมกิจโกศล เจ้าคณะตำบลคลองหนึ่งอีก โดยแต่งตั้งพระปริยัติวโรปการ ซึ่งเป็นเลาขาเจ้าคณะ
เป็นรักษาการ อำเภอธัญบุรี เป็นเจ้าคณะตำบลลำผักกูด เขตอำเภอธัญบุรี มาเป็นรักษาการเจ้าคณะตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวงอีก อย่างนี้หมายความว่าอะไร ทั้งๆ
ที่คลองหลวงมี พระภิกษุ
สามเณรประมาณ 3,000 กว่ารูป สถิติพระมหาเปรียญ พระนักธรรม ก็มีมากไม่เป็นรองอำเภอใดในจังหวัดปทุมธานีเลย หรือว่าสถิติการสอบไล่ได้ในแต่ละปีก็ตาม
ยังเป็น
อันดับหนึ่งของประเทศ ทำไมต้องเอาพระต่างเขตต่างอำเภอมาเป็นผู้ปกครอง ทั้งๆ ที่ผู้ปกครองเดิมก็ทำได้อย่างดีที่สุด
หากเรามามองพิจารณาให้ดีๆ จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันผู้มีอำนาจบางท่าน ต้องการขยายแผ่อิทธิพลเข้ามาในเขตคลองหลวง โดยแต่งตั้งคนของตนเข้ามาปกครอง
จะเห็นได้จาก หลาย ๆ วัด ที่เจ้าอาวาสมาจากเขตอำเภอธัญบุรี เช่น วัดแสวงสามัคคี ต.คลองห้า วัดเพิ่มทาน ต.คลองสี่ วัดกล้าชะอุ่ม ต.คลองสอง แม้กระทั่งวัดบางขัน
เจ้าคณะจังหวัดก็ยังเคยเข้ามา
รักษาการแทนเจ้าอาวาสประมาณปีกว่า (เรื่องนี้พระสงฆ์ในอำเภอคลองหลวง มิเคยเรียกร้องหรือแสดงความไม่พอใจเลย แต่ปัจจุบันเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมาย
เกิดจากบุคคล ภายนอก ทั้งนั้น ที่ต้องการแสวงหาอะไรไม่ทราบ จึงอยากให้เราทั้งหลายในฐานะพุทธศาสนิกได้รับทราบ และไตร่ตรองว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องที่เขียนมาทั้งหมดนี้
มิได้มีเจตนาจะให้ เกิด
ความแตกแยก แต่อยากขอความเป็นธรรมให้กับคณะสงฆ์ในอำเภอคลองหลวงบ้าง
พระครูเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง
ในเขตปกครอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
/////////////////////
เรียน คุณไอ้ทิด แห่งพิมพ์ไทย
เห็นคอลัมน์ของคุณโปรยหัวไว้ว่า ใครมีข้อมูลหรือเรื่องราวที่ส่อในทางทำลายพระพุทธศาสนา สามารถเขียนมาบอกคุณไอ้ทิดได้ ข้าพเจ้าก็เลยอยากจะเอาความจริงมาเล่าสู่กันฟัง ถึงพฤติกรรมของคนบางคน คนบางคนที่ว่าน่ะ เขามีอำนาจล้นเหลือ ธรรมดาคนมีอำนาจ พอหลงอำนาจเข้า ปัญญามันชักจะฝ่อ ถูกผิดชั่วดีชักจะคิดไม่ออก
เรื่องแรก มันเป็นอย่างนี้ว่า ท่านผู้มีอำนาจท่านนี้ พอได้มีอำนาจเป็นรัฐมนตรี ดูแลกระทรวงทางการศึกษา ซึ่งก็เป็นธรรมดาอีกแหละ ที่เพื่อนๆ
ครูทั้งหลายในจังหวัดที่ท่าน
ได้รับ การเลือกตั้งมา ย่อมยินดีปรีดาถึงขนาดจัดงานเลี้ยงฉลองตำแหน่งให้ แทนที่ทำดีจะเป็นคุณ เรื่องมันเลยกลายเป็นว่า ท่านผู้นี้ไม่พอใจ
คงจะเห็นว่างานเลี้ยงมันกระจอก
งอกง่อย
ไปหรืออย่างไรไม่ทราบ ต่อมามีคำสั่งย้ายครูในจังหวัดนั้นกันจ้าละหวั่น โทษฐานทำให้ "ท่าน" ไม่พอใจ แหล่งข่าวนี้เขาบอกจังหวัดที่ว่านี้ เป็นจังหวัดขึ้นต้นด้วย อ.อ่าง
เลยเอา ไม่ออก ว่า
เป็นจังหวัดอะไร เพราะอุบล อุดร อำนาจเจริญ หรืออ่างทอง ก็ขึ้นต้นด้วย อ.อ่าง
เรื่องที่สอง ผู้มีอำนาจท่านหนึ่ง ระดับรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงทางการศึกษาเช่นเดียวกัน เห็นครูท่านใดไปทำกิจกรรมร่วมกับวัดพระธรรมกาย
จะเกิดอาการมือสั่นปากสั่นขึ้นมา
ทันที บางครั้งเขาไปทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว แต่พอมีระแคะระคายว่า ไปยุ่งเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย ทั้งทางตรงทางอ้อม มือสั่นเตรียมจะเซ็นคำสั่งได้ตลอด ปากก็ประกาศว่า พร้อมจะทบทวนอำนาจของตนให้คนเขารู้ว่าท่านเป็นใคร เรื่องนี้ครูแถวบางนาท่านรู้ดี ขนาดขอลาพักไปต่างจังหวัด อุตส่าห์ทำหนังสือลาเรียบร้อย
พอบ่างช่างฟ้องส่งซิกแนลว่า
คงไปร่วมงานกับวัดพระธรรมกาย ท่านก็เรียกตัวกลับทันที
เรื่องที่สาม ผู้มีอำนาจท่านหนึ่งเหมือนกัน ใช้อำนาจที่ตนเองดูแลกระทรวงทางการศึกษาจะสั่งการหรือด้วยพฤติการณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ขัดขวางการแข่งขันตอบปัญหา
ธรรมะ ทางก้าวหน้า ซึ่งโครงการนี้เขาทำกันมาเกือบยี่สิบปีแล้ว ผู้สอบได้รับรางวัลชนะเลิศ ก็ได้รับพระราชทานโล่ รางวัลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แถมโครงการนี้ มีตั้งสอง
สมเด็จฯ ท่านเป็นองค์อุปถัมภ์ สมเด็จองค์แรกคือสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ แห่งวัดเบญจมบพิตร ต่อมาก็เป็นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ แห่งวัดปากน้ำฯ
จะว่าเป็นโครงการของ
วัดพระธรรมกาย ก็ต้องพิจารณาดูให้ถ้วนถี่หน่อยว่า ใครมีส่วนบ้าง ทำแล้วเสียหายอย่างไร แต่อย่างที่ว่าข้างต้นว่า พออำนาจมันเข้าตา ปัญญาก็มืดดำ ด้วยอำนาจของท่าน เลยทำให้การแข่งขันตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหนร้าของเด็กๆ ทั่วประเทศ บ้างก็เลื่อน บ้างก็งด บ้างก็มีกิจกรรมอย่างอื่นให้ครูอาจารย์ต้องไปทำแทนการสอบ
พอถึงตอนนี้ เลยมีข้อคิดว่า ถ้ามีผู้ใหญ่หรือผู้มีอำนาจเช่นนี้ในบ้านเมือง กระทำการทั้งสามข้อโดยคนคนเดียวกัน บอกได้เลยว่า ความเสื่อมเกิดขึ้นกับบ้านเมืองแล้ว
และยิ่งท่าน ที่ว่านี้ หากมีพฤติกรรมโดยเฉพาะสองข้อหลัง ก็แสดงพฤติกรรมชัดเจนว่า มุ่งทำลายวัดพระธรรมกาย อย่างแน่นอน มิใช่การปกป้องพระพุทธศาสนาตามที่ท่านอ้าง อย่าลืมว่า คนเข้ารู้ คนเขามองออกว่า ท่านกำลังทำอะไร ท่านต้องแยกแยะให้ถูกว่า สิ่งไหนที่มันเป็นความไม่ชอบมาพากลของวัดพระธรรมกาย ซึ่งเรื่องก็กำลังยกเข้าสู่ศาลอยู่แล้ว ส่วนเรื่องไหนที่ไม่เกี่ยวกับคดีความ ถ้าเป็นเรื่องการส่งเสริมศีลธรรมของประชาชนท่านก็ต้องให้การสนับสนุน อย่าไปจองล้างจองผลาญ โดยไม่แยกแยะว่าอะไรดีอะไรเหมาะสม
ถ้าท่านคิดว่า มีดวงแข็ง จะมีแต่ความเจริญรุ่งโรจน์ ไม่มีตกต่ำ ก็เชิญกดเชิญกีดกันเอาตามใจชอบของท่านเถิด ตำแหน่งมันอยู่ในมือของท่านแล้ว แต่ถ้าคิดว่า ชีวิตคนมันสูงบ้างตกต่ำบ้าง สอบได้บ้างสอบตกได้ ได้ยศเสื่อมยศบ้าง ก็ขอให้ท่านอย่ามัวเมาอำนาจจนลืมความยุติธรรมเลย อย่าให้ประวัติศาสตร์เขียนไว้ว่า "1999 อันธพาลครองเมือง"
จาก ผู้ปรารถนาดีต่อคนชื่อสมศักดิ์ทั้งหลาย