ปีที่ 2 ฉบับที่ 866 ประจำวันศุกร์ที่ 26 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2542

หน้า 1

เปิดเกมล้วงย่ามพระ บีบมส.แก้กฎหมาย

"นวย" มาแปลก เตรียมตั้งทีมเฉพาะกิจ จัดการวัดพระธรรมกาย เป็นกรณีพิเศษ ด้านกรมการศาสนาเด้งรับลูก ชี้หากตั้งวินัยธร จะต้องให้มส.แก้กฎนิคหกรรมก่อน เพื่อให้คณะ วินัยธร มีอำนาจเบ็ดเสร็จ มือกฎหมายวัดพระธรรมกาย ตั้งข้อสงสัย มารศาสนาเปิดเกิม "ล้วงย่ามพระ" รอบ 2 

นายอำนวย สุวรรณคีรี ที่ปรึกษา คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ได้เข้ากราบนมัสการสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เพื่อถวายดอกไม้ และให้กำลังใจ กรณีเกิดเหตุระเบิดในวัดชนะสงคราม 

ภายหลังการเข้าพบ นายอำนวย สุวรรณคีรี กล่าวว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์ บอกว่ากำลังเตรียมตั้งชุดเฉพาะกิจ เพื่อกลั่นกรอง และให้คำปรึกษาด้านต่างๆ กรณีเกิดปัญหา ในการดำเนินการแก้ปัญหาวัดพระธรรมกาย และมั่นใจว่า การแก้ปัญหาจะทำได้เร็ว เพราะมหาเถรสมาคมได้ให้อำนาจอธิบดีกรมการศาสนานำเรื่องเข้ามหาเถรสมาคมได้ทันที 

สำหรับกรณีนายวิรศักดิ์ ฮาดดา หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิธรรมกาย ระบุว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์คือวัดพระธรรมกาย ศิษย์ใกล้ชิดสมเด็จพระมหาธีราจารย์ ชี้แจงว่า สมเด็จพระมหาธีราจารย์เคยไปจริง แต่ผ่านมา ๑๐ กว่าปีแล้ว เนื่องจากได้รับนิมนต์ไปให้โอวาทแก่สามเณรภาคฤดูร้อน หลังให้โอวาทแล้วก็เดินทางกลับโดยไม่ได้อยู่ฉันเพลด้วย 

อัยการเร่งตรวจสอบหลักฐาน ก่อนสั่งคดีพระธัมมชโยปฏิบัติหน้าที่มิชอบให้ทันกำหนด

ด้านนายอำพล เหมาคม อัยการพิเศษฝายคดีอาญา 5 เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาคดีในส่วนของนายเทิดชาติ ศรีนพรัตน์ และนายมัยฤทธิ์ ปิตวนิค สาวกคนสนิทของ พระธัมมชโย ผู้ต้องหาฐานปลอมแปลงเอกสาร และสนับสนุนให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ด้วยการกว้านซื้อที่ดินย่านต่าง ๆ แล้วใส่ชื่อพระธัมมชโยว่า พนักงานสอบสวน ได้ส่งผลสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งพยานบุคคล และพยานเอกสารให้ และตนได้สั่งให้นายชุติชัย สาขากร อัยการผู้เชี่ยวชาญ หนึ่งในคณะทำงานเร่งตรวจสอบแล้ว 

หากสำนวนสอบสวนเพิ่มเติม มีความชัดเจน สมบูรณ์แล้ว ก็น่าจะสั่งคดีได้ทันภายในวันที่ 8 ธันวาคมนี้ตามที่นัดผู้ต้องหามาฟังคำสั่ง แต่หากสำนวนสอบสวน ยังไม่สมบูรณ์เพียง พอ ก็ต้องให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติม ซึ่งอาจทำให้การพิจารณาสั่งคดีต้องล่าช้าออกไป

นายสุทธิวงศ์ ตันตยาวิสุทธิ์ อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า หากมีการตั้งคณะวินัยธรจริง จะต้องให้คณะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) แก้ไขกฎนิคหกรรมใหม่ เพื่อให้มีคณะ ผู้พิจารณาเพียงชุดเดียว โดยไม่มีคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ชั้นอุทธรณ์ และชั้นฎีกา เหมือนในปัจจุบัน หากจะให้คณะวินัยธร เป็นผู้พิจารณาแก้ไขปัญหาวัดพระธรรมกาย ควบคู่ไป กับกฎนิคหกรรมไม่ได้ เพราะจะไม่มีผลในทางกฎหมาย เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า เมื่อมีการตั้งคณะวินัยธรแล้ว จะทำให้การพิจารณา กรณีปัญหาวัด พระธรรมกาย เกิดความสะดวกรวดเร็ว และเป็นธรรมยิ่งขึ้น


ด้านนักกฎหมายวัดพระธรรมกาย ให้ความเห็นว่า การตั้งคณะวินัยธรขึ้นมา เพื่อพิจารณาข้อพิพาทในหมู่คณะสงฆ์ เท่ากับเป็นการซ้ำซ้อนกับการพิจารณาในกฎนิคหกรรม และ ถ้า มหาเถรสมาคม ยอมแก้กฎนิคหกรรม ตามที่กรมการศาสนาเสนอ โดยมอบอำนาจให้กับคณะวินัยธร เป็นผู้พิจารณาขั้นเด็ดขาด ก็เท่ากับว่า ต่อไปพระเมื่อถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิด ก็จะต้องขึ้นเพียงศาลเดียว และถูกตัดสินทันทีที่ถูกกล่าวหา ซึ่งการใช้วิธีนี้ นอกจากพระจะไม่ได้รับความเป็นธรรมแล้ว หากคณะวินัยธร เป็นคนของนักการเมือง หรือมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน พระพุทธศาสนาก็จะประสบปัญหาวิกฤติอย่างแน่นอน เรื่องนี้ยังร้ายแรงยิ่งกว่ากฎหมายล้วงย่ามพระเสียอีก


[หน้าหลัก][หน้า1][วิวาทะ][จับกระแส]