ปีที่ 2 ฉบับที่ 878 ประจำวันพุธที่ 8 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2542 |
พุทธ 3 เหล่าทัพเตือน ผบช.ส.เร่งปรับปรุงตัว
อธิบดีกรมการศาสนาเอาอีก ขอให้เจ้าคณะจังหวัดปทุมฯ สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสพระธัมมชโย อ้างเป็นจำเลยในคดีอาญา เผยไม่เกี่ยวกับเรื่องนิคหกรรม สอนเจ้าคณะจังหวัด ถ้าเจ้าคณะภาค1 สั่งการ ต้องเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น ด้านตำรวจออกหมายจับ "ดร.เบญจ์" ฐานหมิ่นประมาทพระธรรมปิฎก ขณะที่ชมรมชาวพุทธ 3เหล่าทัพ จี้ ผบช.ส.
ปรับปรุงตัวเอง ชี้ทำผิดกฎหมายหลายข้อ
ภายหลังเข้านมัสการพระสุเมธาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี และพระปริยัติวโรปการ เจ้าอาวาสวัดเขียนเขต รักษาการเจ้าคณะตำบลคลอง 1 นายไพบูลย์ เสียงก้อง
อธิบดี
กรมการศาสนาเปิดเผยว่า ไปนมัสการ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีกรมการศาสนา ขอให้สั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายของพระธัมมชโย เนื่องจากต้องคดีอาญา ซึ่งเป็นข้อหาที่คนเป็นเจ้าอาวาส ไม่อาจจะเป็นที่ไว้วางใจได้อีก โดยการสั่งพักตำแหน่งนั้น เป็นคนละเรื่องกับที่พระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค 1 เรียกไปหารือ
เพื่อประชุม คณะผู้
พิจารณาชั้นต้น ซึ่งประคุณเจ้าทั้งสองรูปบอกว่า พิจารณาอยู่ และอยู่ในความคิดที่จะดำเนินการ
"การสั่งพักนี้ ไม่เป็นเรื่องของกระบวนการนิคหกรรม เป็นเรื่องของกรณีที่ท่านถูกฟ้องเป็นจำเลย ในคดีอาญา พระสังฆาธิการถูกฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญา" นายไพบูลย์ กล่าว อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า ในวันนี้ เจ้าคณะภาค 1 นัดให้ไปพบ ซึ่งตนก็ได้ถวายคำแนะนำไปว่า ถ้าพระพรหมโมลี จะสั่งการอะไร ให้มีการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร
และ
อย่าเพิ่งเซ็นอะไรทั้งสิ้น ซึ่งเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ก็บอกว่า การดำเนินการต่อจากนี้ไป ต้องรอบคอบให้มาก เพราะเคยมีประสบการณ์มาแล้ว
พล.ต.ท.สมบัติ อมรวิวัฒน์ ผบช.ตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี ดร.เบญจ์ หรือนายบัณฑูร มาลากุล ที่เขียนหนังสือหมิ่นประมาทพระธรรมปิฏก ปยุต ปยุตโต
เจ้าอาวาส วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม ว่า ขณะนี้ได้ขออนุมัติจับกุม นายบัณฑูร เรียบร้อยแล้ว และกำลังออกหมายจับ โดยส่งหมายจับไปยัง สนง.ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ และเนื่องจากนายบัณฑูร ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ผู้กำกับการ 1 กองปราบปรามนำกำลังสืบตามหาตัว โดยจะใช้ทั้งกำลัง จนท.ตร.จาก
กองปราบปราม และหน่วยคอมมานโด ในการเข้าจับกุมทันทีที่ทราบที่หลบซ่อนผู้ต้องหา
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันเดียวกันนี้ ชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ โดย พ.อ.บรรจง ไชยลังกา ประธานชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ ได้มีหนังสือไปถึง พล.ต.ท.โยธิน มัธมนันท์ ผบช.ส.โดยมีข้อความตอนหนึ่งระบุว่า ภายใต้การประครองระบอบประชาธิปไตย อาศัยความตามอำนาจบทบัญญัติรัฐะรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย
ชมรมชาวพุทธ สามเหล่าทัพ ได้ทำหนังสือให้ทาง ผบช.ส. ชี้แจงเหตุผลแนวปฏิบัติต่อพระพุทธศาสนา เนื่องเพราะพระพุทธศาสนา เป็นรากฐานแห่งความคิดของชนในชาติ
เป็นที่มาของ
ขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรม และความสามัคคีของชนในชาติ การบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา จึงเป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ
ชมรมพุทธสามเหล่าทัพ
จึงได้หนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิสูจน์ทราบ รายงานลับเอกสารเผยแพร่ของต่างศาสนา ในเรื่องนิพพานเป็นอนัตตา ที่มีการใช้การสอนและได้ถูกนำมาไว้ในหนังสือพุทธธรรม ฉบับปรับปรุง 1145 หน้า แบบคำต่อคำ ซึ่งผิดไปจากในพระไตรปิฎกเถรวาททั้งสิ้น
ซึ่งทางตำรวจไม่เคยทำการสืบสวน หรือ มีหลักฐานดังกล่าวมาก่อน ซึ่งเป็นการกระทำที่บกพร่องต่อหน้าที่ และอาจเป็นเจตนาแฝงที่ต้องการให้เกิดความเสื่อมเสีย
ต่อรัฐมนตรี ว่าการ
กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาท เป็นการทำลายเสถียรภาพ
เป็นจุดโจมตีการ ทำงาน
ผิดพลาดของตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลกระทบทางด้านจิตวิทยามวลชนต่อความมั่นใจ ความปลอดภัย สวัสดิภาพ ชีวิตและทรัพย์สิน
ในการปฏิบัติหน้าที่รักษากฎหมาย
ของตำรวจโดยรวม เนื่องจากไม่มีเหตุผลประกอบเจือสมอย่างอื่น ทั้งโดยตำแหน่ง ประสบการณ์ คุณวุฒิ และหน้าที่ราชการ
นอกจากนี้ ในหนังสือดังกล่าว ประธานชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ ยังได้ปฏิเสธ กรณีที่ ผบช.ส.ออกมาให้ข่าวต่อสื่อมวลชนว่า ประธานชมรมพุทธสามเหล่าทัพ
จะฟ้องร้องตัว
ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล โดยบอกว่า ผู้ที่ให้ข่าวดังกล่าวคือ ตัวของผบช.ส. เอง และยังกล่าวถึง พฤติกรรมของ ผบช.ส. ที่ยินยอมให้สื่อมวลชนเสนอข่าวเอง
เป็นพฤติกรรม
ที่เป็นภัยต่อสถาบัน จึงอยากให้มีการแก้ไข เพราะหากไม่มีการแก้ไขแล้ว อาจเป็นการนำไปสู่ความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นต่อข้าราชการตำรวจทหารโดยรวม