ปีที่ 2 ฉบับที่ 881 ประจำวันเสาร์ที่ 11 เดือนธันวาคม พ.ศ. 2542

วิวาทะ

สั่งพักเจ้าอาวาส เรื่องขี้ผงกว่านิคหกรรม ไม่ใช่เรื่องหมี่กึ่งสำเร็จรูป

จั่วหัวไปเมื่อวานนี้ คำสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายของ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย

งานนี้มีนรกเป็นเดิมพัน

ท่านเจ้าคุณปริยัติวโรปการ สาบานต่อพระปฏิมากรภายในพระอุโบสถ เพื่อพิสูจน์ว่า การวินิจฉัยคำสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส กระทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีอคติเอนเอียง

หากมีจิตอคติ ขอให้มีอันเป็นไปด้วยคมหอกคมดาบ ภายใน 7 วัน

ครับต้องยอมรับกันตามกฎกติกา แต่ในความเป็นจริงนั้น จะเป็นเช่นไร เป็นเรื่องของเวรกรรม ที่จะเป็นบทให้คุณให้โทษ เป็นกุศลกรรม หรืออกุศลกรรม

หลายเรื่องที่อุบัติขึ้นในโลกใบนี้ จิตหยาบ ตาเนื้อ ไม่อาจจับต้อง หรือพิเคราะห์พิจารณาได้อย่างถูกต้องถ่องแท้เสมอไป

แต่พุทธศาสนิกชน ผู้สั่งสมบุญบารมีอย่าเพิ่งท้อใจ มองไม่เห็นนรก สวรรค์ ด่วนสรุปว่า ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป นั่นคือมิจฉาทิฏฐิ

อดทนกันหน่อยครับ อย่าเพิ่งท้อถอย การเพียรทำความดี ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผิดกับการก่อกรรมทำชั่ว เพียงแค่สายลมพัดผ่านจิตมนุษย์อาจไหวเอน เห็นผิดเป็นชอบได้

เห็นอาการของเสื่อตือ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

อยากเตือนว่าอย่าเพิ่งตีปีกร้องแรกแหกกระเฌอ เหมือนเด็กอ้อนขอเงินบิดามารดาซื้อของเล่นชิ้นโปรดได้สมดั่งใจ

กรณีสั่งพักเจ้าอาวาส หากเสื่อตือจะเก็บเป็นอารมณ์ หรือผลงานยิ่งใหญ่ พูดเสียงดังฟังชัดว่า ประสบความสำเร็จแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ เสื่อตือพูดว่า ปัญหาธรรมกาย จะต้องยุติ ก่อนสิ้นปี 2542 นี้ อย่างแน่นอน 

ไปๆ มาๆ เสี่ยตือก็หาทางลงแบบแหนเต็มหัวตอนดำน้ำ บอกว่าประสบความสำเร็จ แท้จริงแล้วคือการที่กรมการศาสนา สามารถสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ต่างหาก

ส่วนปัญหาน้อยใหญ่ทั้งทางโลก และทางธรรม

โดยเฉพาะประเด็นนิคหกรรม ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกรมการศาสนา แต่เป็นหน้าที่ของกระบวนการสงฆ์ที่จะต้องพิจารณากันเอง 

ก็ขอให้เป็นอย่างนั้น อย่าเที่ยวไปเอาความเห็นของไอ้ขี้เมา ขี้หลีหน้าไหนมาเป็นแบบแผนในการปฏิบัติงานก็แล้วกัน

คำสั่งพักตำแหน่งเจ้าอาวาส หากพิจารณาถึงกฎมหาเถรสมาคม ถือเป็นความเห็นอันชอบ

แต่หากพิจารณาถึงจุดประสงค์ในการสั่งพักแล้ว ต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ทีเดียว

เพราะการสั่งพักตำแหน่งนั้น จะต้องคำนึงถึงเป้าหมายหลัก และเจตนารมณ์ของกฎมหาเถรสมาคมเป็นสำคัญ

เริ่มตั้งแต่ หากพระธัมมชโยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อพระพุทธศาสนา หรือสถาบันสงฆ์หรือไม่

ผมก็เห็นท่านเป็นเจ้าอาวาสธรรมดารูปหนึ่งเท่านั้น

แต่ที่ไม่ธรรมดาก็ตรงที่ท่านมีโปรเจคต์ยักษ์ สร้างมหาธรรมกายเจดีย์ใหญ่โต หมายมั่นปั้นมือเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก 

ต้องเลี้ยงดู อบรม เหล่าพระภิกษุสามเณรน้อย รวมถึงอุบาสก อุบาสิกา นับพันชีวิต

แม้ท่านเจ้าคุณพระธัมมชโย จะต้องอธิกรณ์ ถูกฟ้องร้องในคดีอาญา เป็นเรื่องอยู่ในโรงในศาล แต่การที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสอยู่นั้น ก็มิได้ทำให้เกิดผลเสียต่อรูปคดี หรือข่มขู่พยาน และหรือหลบหนีอาญาแผ่นดินแต่อย่างใด

ผมจึงขอให้ชาวพุทธที่มีใจเป็นกลาง พิจารณากันให้ถ้วนถี่ นับตั้งแต่คำสั่งปลดพระครูปทุมกิจโกศล พ้นจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลคลอง 1 และแต่งตั้งพระปริยัติวโรปการ ขึ้นมา รักษาการณ์แทน และมีคำสั่งพักเจ้าอาวาส

เป็นใบสั่งที่ได้รับจากคนในกระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมการศาสนา และโดยทีมคณะที่ปรึกษาขี้เมาหรือไม่

พิจารณากันให้ดีๆ เถิดครับ ท่านสาธุชน จะได้คำตอบที่แจ่มชัด

ก้าวต่อไปคือการแต่งตั้งพระที่จะขึ้นมารักษาการตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย พระธัมมชโยจะต้องเสนอชื่อพระลูกวัดขึ้นมารักษาการแทน

หากพิจารณากันตามลำดับ และกฎระเบียบของมหาเถรสมาคมแล้ว

หลวงพ่อทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ถือเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด

ท่านปัญญา ในฐานะเจ้าคณะอำเภอคลองหลวง และพระปริยัติวโรปการ ก็ไม่าจะมีความเห็นคัดค้านอะไร

เรื่องตำแหน่งพระสังฆาธิการคงไม่ใช่ปัญหา

แต่เรื่องนิคหกรรม กรณีที่จะให้พระธัมมชโยไปรับฟังข้อกล่าวหา และหรือพระสุเมธาภรณ์จะถือว่า พระธัมมชโยดื้อดึงไม่ยอมมารับฟังข้อกล่าวหาถึง 2 ครั้ง

และได้ปรึกษากับกรมการศาสนา มีความเห็นว่า ผู้ต้องหายอมรับข้อกล่าวหาโดยปริยาย และได้รวบรวบเอกสารหลักฐานรายงานทุกอย่าง ถึงพระพรหมโมลี เจ้าคณะภาค1 และ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง

ก็ใช่ว่า เรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นจะง่าย เหมือนหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพียงแช่น้ำร้อน 1 นาที ก็เจี๊ยะได้อิ่มท้อง

ประทานโทษพระคุณเจ้า เรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

พระพรหมโมลี ในฐานะประธานผู้พิจารณาชั้นต้น และคณะผู้พิจารณาชั้นต้น รูปไหนกลืนน้ำลายตัวเองบ้าง ก็ให้พูดกันออกมาให้ชัด แต่ที่แน่ๆ ท่านเจ้าคุณพระพรหมโมลี ได้ประกาศจุดยืนในการรักษาพระธรรมวินัยไว้อย่างกล้าหาญแล้ว โดยทวงถามถึงมติมหาเถรสมาคม ที่กรมการศาสนา และพระสุเมธาภรณ์อ้างว่า มส.ให้นำขึ้นมาพิจารณา นิคหกรรมใหม่

ถึงวันนี้จึงมีคำถามว่า มติมส.ดังกล่าวอยู่ที่ไหน มีการออกเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่???

พระเถระที่นั่งอยู่ในมส. เป็นเพียงไม้ประดับ หรือศาลเพียงตา ที่มนุษย์ขี้เหม็น ขี้เมา เที่ยวเอาไปแอบอ้างหากินไปวันๆ หรือไม่

ต้องถามความเห็นของพระเถระท่าน คุณไพบูลย์ เสียงก้อง จะมองพระเถรานุเถระเหล่านั้น เป็นหัวหลักหัวตอกระนั้นหรือ

จะไม่ลัดขั้นตอนไปหน่อยหรือครับท่านอธิบดีกรมการศาสนา

โซตัส


[หน้าหลัก][หน้า1][ต่างดาว][วิวาทะ][ปุจฉา]