ปี่ เป็นเครื่องดนตรีไทยแท้ๆ
ทำด้วยไม้จริงเช่นไม้ชิงชันหรือไม้พยุง
กลึงให้เป็นรูปบานหัวบานท้าย ตรงกลางป่อง
เจาะภายในให้กลวงตลอดเลา
ทางหัวของปี่เป็นช่องรูเล็กส่วนทางปลายของปี่
ปากรูใหญ่ใช้ชันหรือวัสดุอย่างอื่นมาหล่อเสริมขึ้นอีกราวข้างละ
ครึ่งซม ส่วนหัวเรียก ทวนบน ส่วนท้ายเรียกทวนล่างตอนกลางของปี่
เจาะรูนิ้วสำหรับเปลี่ยนเสียงลงมาจำนวน 6 รู รูตอนบนเจาะเรียงลงมา 4 รู
เว้นระยะห่างเล็กน้อย เจาะรูล่างอีก2 รู ตรงกลางของเลาปี่
กลึงขวั้นเป็นเกลียวคู่ไว้เป็นจำนวน 14 คู่
เพื่อความสวยงามและกันลื่นอีกด้วย
ตรงทวนบนนั้นใส่ลิ้นปี่ที่ทำด้วยใบตาลซ้อนกัน 4 ชั้น
ตัดให้กลมแล้วนำไปผูกติดกับท่อลมเล็กๆที่เรียกว่า กำพวด เรียวยาวประมาณ 5
ซม กำพวดนี้ทำด้วยทองเหลือง เงิน นาค
หรือโลหะอย่างอื่นวิธีผูกเชือกเพื่อให้ใบตาลติดกับกำพวดนั้น
ใช้วิธีผูกที่เรียกว่า ผูกตะกรุดเบ็ด
ส่วนของกำพวดที่จะต้องสอดเข้าไปเลาปี่นั้นเขาใช้ถักหรือเคียนด้วยเส้นด้าย
สอดเข้าไปในเลาปี่ให้พอมิดที่พันด้ายจะทำให้เกิดความแน่นกระชับยิ่งขึ้น
ปี่ของไทยจัดได้เป็น 3 ชนิดดังนี้
(1) ปี่นอก มีขนาดเล็ก ยาวประมาณ 31 ซม กว้าง 3.5 ซม
เป็นปี่ที่ใช้กันมาแต่เดิม
(2) ปี่กลาง มีขนาดกลาง ยาวประมาณ 37 ซม กว้างประมาณ 4 ซม
สำหรับเล่นประกอบการแสดงหนังใหญ่ มีสำเนียงเสียงอยู่ระหว่าง
ปี่นอก
กับปี่ใน
(3) ปี่ใน มีขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 41 42 ซม กว้างประมาณ 4.5
ซม เป็นปี่ที่พระอภัยมณีใช้สำหรับเป่าให้นางผีเสื้อสมุทร
ขาดใจตายนั่นเอง