This
Page |
|
Related
Topics |
|
Interesting
Webs |
|
Search
the whole world |
|
เชิญ
ติชม สอบถาม เสนอแนะ |
|
สำหรับผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด
หรือทำฟัน
แนะนำให้ท่านงดการรับประทาน
สารสกัดจากใบแปะก๊วยก่อนล่วงหน้า
เพราะอาจทำให้เลือดหยุดช้าลงได้ |
|
เป็นพืชดึกดำบรรพ์ชนิดสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่บนโลก
จึงถือว่าเป็นฟอสซิลที่ยังมีชีวิตอยู่
"Living Fossil"
ต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน
แล้วจึงแพร่หลายไปทั่วโลก
ในฐานะไม้ประดับ
ส่วนที่ถูกใช้เป็นยาตามที่มีการบันทึกในประวัติศาสตร์จีน
คือ เมล็ด ผล และใบ
สารสำคัญในใบถูกตรวจพบในปี
1930
แต่เริ่มมีการค้นคว้าอย่างจริงจัง
ในช่วงกลางทศวรรษ 1970
เมื่อมีการสกัดสารสำคัญจากใบมาใช้ประโยชน์ในการรักษา
ในสารสกัดจากใบแปะก๊วย
ประกอบด้วยสารที่เรียกว่า
- Glavone Glycosides 24%
ประกอบด้วย Quercetin, Kaempferol, Isorhamnetin
- Terpene Lactones 6%
ประกอบด้วย Bilobalide, Ginkgolides (A, B,
& C)
- อื่นๆอีก
ผลประโยชน์ของใบแปะก๊วย
เกิดจากการออกฤทธิ์ร่วมกันของสารต่างๆข้างบนนี้
ผลหลักของสารต่างๆคือ
- ลดการทำงานของ
Platelet Activating Factor (PAF) -
ลดการเกาะตัวของเกร็ดเลือดที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
ซึ่งผลหลักเรื่องนี้น่าจะเป็น
Ginkgolide B
- มีผลในการเป็นสาร
Antioxidant
ที่จะทำลายสารพิษที่เกิดจากการเผาผลาญอาหารที่เรียกว่า
Free Radical
- อาจมีผลต่อ
Norepinephrine, Serotonin, Monoamine oxidase, Acetylcholine & Nitric
Oxide รวมทั้งการสังเคราะห์
Corticosteroid โดยรวมแล้ว
จึงทำให้มีผลลดความเครียด
และช่วยปกป้องระบบประสาทด้วย
คนจีนใช้เพื่อรักษาโรค
หอบ , ไอ , การปัสสาวะผิดปกติ
, บำรุงสมอง
มาตั้งแต่สมัยโบราณ
ฝรั่งเศส ,
เยอรมัน
ใช้สารสกัดจากใบเพื่อรักษา
และเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง
( Cerebral Insufficiency )
มีรายงานในผู้ป่วยที่รับประทานยารักษาโรคซึมเศร้า
พบว่า
ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้
แต่ยังไม่เป็นที่ยืนยันเด่นชัด
นอกจากนี้ยังมีการทดลองใช้ในโรคต่างๆเหล่านี้
|
|
|
|
|
|
- โรคเกี่ยวกับเส้นเลือดในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
|
|
- ผู้ที่แพ้แปะก๊วย
- ผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือดช้าผิดปกติ
( Hemophilia )
- ผู้ที่กำลังรับประทานยาต่อต้านการแข็งตัวของเลือด
( Anticoagulant, Antiplatelet agent)
- หญิงตั้งครรภ์
& ให้นมบุตร
- ส่วนใหญ่พบน้อยมาก
และไม่รุนแรง ได้แก่
- ปวดศรีษะ,
ผื่นคัน ,
อาการทางกระเพาะลำไส้
ได้แก่ คลื่นไส้, ท้องอืด,
ลมแน่นท้อง
- อาการแพ้ส่วนใหญ่จะพบกับผู้ที่ทานเมล็ด
และผลของแปะก๊วยมากกว่าใบ
เท่าที่มีการศึกษามายังไม่พบพิษ
ไม่ว่าต่อตับ ไต
แต่พบในรายงานหนึ่งว่า
ทำให้เกิดอาการเลือดไหล
หยุดช้ากว่าปกติ
ซึ่งพบกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
และไม่พบในผู้ที่ขนาดสารสกัดที่ถูกต้อง |
ขนาดทั่วไป |
ครั้งละ
40-60 mg วันละ 3 ครั้ง |
สำหรับรักษาอาการเกี่ยวกับ
- การไหลเวียนของโลหิตในสมอง
- ความจำเสื่อม
|
ครั้งละ
120-160 mg วันละ 3 ครั้ง |
ขอเน้นว่าขนาดยาที่ระบุเป็นขนาดที่ถูกทำให้ได้มาตรฐาน
( Standardized Extract )
ซึ่งหมายความว่า
สารสกัดที่ถูกทำให้ได้ความเข้มข้นคงที่
ไม่เปลี่ยนแปลงตาม lot
ที่ผลิต
ซึ่งไม่พบในกลุ่มที่เป็นอาหารเสริม |
ในการหวังผลจากสารสกัดใบแปะก๊วย
จำเป็นต้องใช้ระยะเวลา
ซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน
|