|
ประวัติชีวิตและผลงานโดยสังเขป
หลวงปู่ถือกำเนิดในครอบครัวชาวไร่ชาวนาที่ยากจน
เมื่อวันอังคารที่ ๒๒ เมษายน พ.ศ.
๒๔๕๖ ที่ ต. บ้านก้อ อ. ลี้ จ. ลำพูน
มีนามเดิมว่า วงศ์ หรือ ชัยวงศ์
เป็นบุตรของพ่อน้อย
จันทะ-แม่บ่อแก้ว ต๊ะแหงม
เป็นบุตรคนที่ ๓ ในจำนวนพี่น้อง ๙
คน
ปัจจุบันยังมีน้องชายของหลวงปู่ที่ยังมีชีวิตอยู่เพียง
๑ คน นอกนั้นเสียชีวิตไปหมดแล้ว
เมื่ออายุ ๑๒ ปี หลวงปู่ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดพระธาตุแก่งสร้อย อำเภอสามเงา จังหวัดตาก โดยมีครูบาชัยลังกา เป็นอาจารย์ หลวงปู่ได้มีโอกาสปรนนิบัติและถวายตัวเป็นศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร ที่วัดพระธาตุแก่งสร้อยนี้เองและได้ติดตามรับใช้ครูบาเจ้าศรีวิชัยจนกระทั่ง ครูบาเจ้าศรีวิชัยถึงแก่มรณภาพ
นอกจากนี้หลวงปู่ยังมีครูบาอภิชัยขาวปี วัดพระพุทธบาทผาหนาม ซึ่งมรณภาพแล้วสรีระไม่เน่าเปื่อยแต่กลับแข็งเป็นหิน เป็นครูบาอาจารย์ที่สำคัญอีกองค์หนึ่ง
ครูบาอภิชัยขาวปีนับได้ว่าเป็นผู้ที่ปฏิบัติรับใช้ครูบาเจ้าศรีวิชัยในงานสำคัญต่างๆอย่างใกล้ชิด จนเปรียบเสมือนมือข้างขวาของครูบาเจ้าศรีวิชัย ส่วนหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ก็เปรียบเสมือนมือข้างซ้ายของครูบาเจ้าศรีวิชัยเช่นเดียวกัน
พระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีต่อหลวงปู่ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมวัดพระพุทธบาทห้วยต้มพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เมื่อวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๙, ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๒, ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๓
หลวงปู่จึงให้การดูแลชาวเขาโดยการพัฒนาอาชีพและรายได้แก่เขาเหล่านั้นมาโดยตลอด โดยจะเห็นได้จากสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ากว่า ๒๐๐ ล้านบาท รวมทั้งพระมหาธาตุเจดีย์ศรีเวียงชัยนี้ด้วยส่วนใหญ่เกิดจากแรงงานชาวกะเหรี่ยงแทบทั้งสิ้น
พระดีแบบครูบาวงศ์ไม่มีอีกแล้ว
หาได้ยาก
..พวกลูกมีบุญมากและโชคดีที่มาพบพระระดับหลวงพ่อวงศ์ซึ่งเป็นพระปฏิบัติดี
มีคุณธรรมสูง
หลวงพ่อได้อะไรหลวงพ่อวงศ์ก็ได้เช่นเดียวกัน
ไม่ด้อยไปกว่ากันเลย
.
อย่าเสียทีที่เกิดมามีบุญ
ได้พบพระระดับหลวงพ่อวงศ์
หลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า จ. ลำพูน
ครูบาอาจารย์ที่สำคัญอีกองค์หนึ่งคือ หลวงปู่ครูบาพรหมจักร อดีตเจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทตากผ้า จังหวัดลำพูน ซึ่งครูบาชัยลังกาได้นำหลวงปู่ไปฝากตัวเป็นศิษย์ จนกระทั่งอายุได้ ๒๐ ปี ก็ได้อุปสมบทกับหลวงปู่ครูบาพรหมจักร และได้เป็นศิษย์ติดตามปฏิบัติครูบาอาจารย์จนกระทั่งหลวงปู่ครูบาพรหมจักรถึงแก่มรณภาพ
ในสมัยที่ครูบาเจ้าศรีวิชัยต้องอธิกรณ์ หลวงปู่ก็ถูกกลั่นแกล้งให้ลาสิกขา หลวงปู่จึงครองผ้าขาวแทน ได้สมญานามใหม่ว่า พระชัยยะวงศาผ้าขาว ต่อมาจึงได้อุปสมบทใหม่อีกครั้ง ได้รับฉายาว่า จนทวํโส (จันทวังโส)
พระเทวานัมปิยเถระ
ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่หลวงปู่ไปรับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ ท่านได้แวะผักผ่อนที่วัดบ้านปาง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูนและอาจารย์ปฐม พัวพันธ์สกุล ได้ถ่ายภาพขณะที่ท่านวัดรอยเท้าของท่านเองเมื่อครั้งท่านอายุได้ ๒๒ ปี ที่ท่านได้เคยประทับไว้บนก้อนหินก้อนนี้ ในขณะที่ท่านได้ไปทำธุระส่วนตัวในป่าข้างทาง หลังจากทำธุระเสร็จแล้วเทวดาได้ขอให้หลวงปู่ประทับรอยเท้าลงบนหินก้อนใหญ่ใต้ต้นไผ่หน้าประตูทางขึ้นวัดบ้านปาง เพื่อพวกเขาจะได้กราบไหว้บูชา ปัจจุบันหินก้อนนี้เจ้าอาวาสวัดบ้านปางได้นำขึ้นไปประดิษฐานไว้บนวัด (ใกล้ประตูทางเข้าเขตอุโบสถ) และได้ให้หลวงปู่ประทับรอยมือไว้บนหินก้อนดังกล่าว พร้อมทั้งสร้างมณฑปครอบไว้อย่างสวยงาม
(จากหนังสือพระชัยวงศานุสสติ)