Kula Shaker
Govinda
1996 Columbia Records
Album: K
Lineup: Chrispian Mills, Alonza Bevin, Paul Winterhart , Jay Darlington
THE STONE ROSES-She bangs the drums
NIRVANA-Smells like teen spirit
MANICS STREET PRECHERS-Motorcycle emptiness
MY LIFE STORY-You don't sparkle (in my eyes)
KULA SHAKER-Govinda
Chrispian Mills หนุ่มผมบลอนด์ร่างบางคนนี้ไม่ใช่ธรรมดาเพราะเขาคลุกคลีในวงการบันเทิงของอังกฤษมาตั้งแต่เล็ก เขาเป็นลูกชายของดาราสาว Hayley Mills ผู้โด่งดังนั่นเอง (คุณตาของเขาก็คือท่าน Sir John Mills นั่นเอง) แต่การผลักดันจากแม่ของเขาที่จะให้เขาเจริญรอยตามในวงการภาพยนตร์ และการแสดงต้องล้มเหลว เมื่อ Chrispian สนใจการเล่นดนตรีมากกว่า เขาเริ่มตั้งวงกับเพื่อนๆ ชื่อ The Kays และเล่น Concert ร่วมกับวง Techno-Dance ต่างๆ ไปทั่วอังกฤษ แต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เขาจึงย้ายไปลิเวอร์พูลและตั้งวงใหม่ ซึ่งก่อนนั้นใช้ชื่อว่า Kilashakhar (ซึ่งนำมาจากชื่อนักบวชนิกายฮินดูคนหนึ่งซึ่งเขานับถือ) เปลี่ยนแนวดนตรีและภาพลักษณ์ของวงเสียใหม่โดยแต่งตัวแบบวง Rock อังกฤษยุค '70 เปี๊ยบยังกับพวกที่หลุด Time Machine มาจากยุคของ Pink Floyd, Jimi Hendrix และ Cream แนวดนตรีของพวกเขาเป็น Rock ลูกผสมที่หลากหลายมาก เสียงกีตาร์ดิบกร้านแบบJimi Hendrix เสียงคีย์บอร์ดสไตล์ The Doors การร้องแบบ Grateful Dead แต่มีจังหวะแบบวงBaggy ยุคปัจจุบัน แบบ The Charlatans แถมด้วยมีการนำดนตรีแบบภารตะเข้ามาผสม ซึ่งได้ผล เพราะคนฟังชอบกันมาก มาถึงตอนนี้พวกเขาก็มีการเปลี่ยนชื่อวงอีกครั้งเป็น Kulashaker เพื่อให้ง่ายต่อการเรียกและจดจำมากขึ้น
เพลง Govinda นี้ Chrispian ร้องด้วยภาษาสันสกฤตเสียด้วย เพราะเขาเคยไปอินเดีย และพบว่าเขาชอบประเทศนี้มาก เขาเคยบอกว่าอินเดียเปลี่ยนชีวิตของเขาเลยทีเดียว ซึ่งเพลงแบบนี้กำลังเป็นที่ต้องการของคนฟังอยู่พอดีเพราะแนวดนตรีแบบ East meet West แบบนี้ หายไปจากวงการดนตรีนานมาแล้ว (วงที่เคยเอาดนตรีของอินเดียมาใช้ยุคก่อนก็มีอย่าง The Beatles และ Pink Floyd) มันจึงกลายเป็นของแปลกใหม่ของวงการไปอีกครั้ง และทำให้ทางวงประสบความสำเร็จกับ single เพลงนี้มาก Govinda เริ่มต้นด้วยเสียงคีย์บอร์ด เปี่ยมมนต์ขลัง แถมเนื้อร้องยังเป็นบทสวดบูชาพระศิวะอีกด้วย เพราะ Chrispianและเพื่อนร่วมวงเขาเป็นพวกที่สนใจเรื่องลึกลับ และจิตวิญญาณเอามากๆ ถึงขนาดเคยไปอยู่ที่อินเดียและเนปาลกันหลายๆเดือนเลยทีเดียว และพวกเขายังเป็นวงที่มีการตกลงเซ็นสัญญากับบริษัทแผ่นเสียงเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย คือนับตั้งแต่วันที่พวกเขาเจอกับคนของ Columbia นั้น จนถึงวันที่ลงลายชื่อในสัญญาฉบับนั้น พวกเขาใช้เวลาเพียง 10 วัน เท่านั้นเอง (พวกเขายังคงเลือกที่จะเซ็นสัญญาฉบับนั้นในวันของ St. George อันศักดิ์สิทธิ์อีกต่างหาก ) Kula Shaker จัดว่าเป็นวงที่สำคัญที่สุดของรอยต่อทางวัฒนธรรมดนตรีตะวันออกและตะวันตก แต่ในอัลบั้มต่อมาที่เป็นอัลบั้มชุดที่2 นั้น ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากมีดนตรีสำเนียงภารตะมากจนล้นตลาด และมีความน่าสนใจขึ้น
Go to >> Kula Shaker Official Page
Their fan page>> David's Kula Shaker Page