สุราคืออะไร
สุรา
หมายถึง
เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
(ETHYL ALCOHOL)
ผสมอยู่ในปริมาณไม่เกิน
60 %
ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คนสามารถใช้ดื่มได้
(เป็นเกณฑ์กำหนดของสากลทั่วไป
แต่ของคนไทยครอบคลุมถึงปริมาณไม่เกิน
80 %)
เอทิลแอลกอฮอล์เป็นสารที่เสพติดได้
สุรากับสุขภาพ
สุราเมื่อเข้าสู่ร่างกาย
เอทิลแอลกอฮอล์
จะถูกดูดซึมและกระจายไปได้ทุกส่วนของร่างกาย
มีผลทำให้เกิดพิษต่อระบบต่างๆที่สำคัญคือ
1.พิษของแอลกอฮอล์ต่อสมอง
1.1
พิษแบบเฉียบพลัน
ได้แก่ Alcoholic intoxication
แบ่งออกเป็นพิษในระดับมากน้อยแตกต่างกันไป
ถ้าระดับแอลกอฮอล์
ในเลือดเท่ากับ
30 mg %
จะทำให้เกิดการสนุกสนานร่าเริง
50 mg %
เสียการควบคุมการเคลื่อนไหว
100 mg %
แสดงอาการเมาให้เห็น
เดินไม่ตรงทาง
200 mg %
จะเกิดอาการสับสน
300 mg % จะ
เกิดอาการง่วง
ซึม
400 mg %
จะเกิดอาการสลบ
และอาจถึงตายได้
1.2
พิษต่อสมองเรื้อรัง
(โรคสมองพิการ)
แอลกอฮอล์มีพิษโดยตรงต่อสมอง
ทำให้เซลล์สมองเสื่อม
ในผู้ติดสุราพบว่ามีการฝ่อลีบของ
สมองส่วนคอร์เทกซ์ซึ่งจะมีผลต่อการเสื่อมทางจิตด้วยหลายประการ
เช่น
ขาดความรับผิดชอบ
ความจำเสื่อม
เมื่อเป็นมากเกิดประสาทหลอน
หูแว่ว
หลงผิด
หวาดระแวง
คลุ้มคลั่ง
และแอลกอฮอล์มีฤทธิ์กดประสาท
โดยกดศูนย์ควบคุมระบบต่าง
ๆ เช่น
กดศูนย์หายใจและศูนย์ควบคุมการไหลเวียนของโลหิตในสมอง
ทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
2.
พิษของแอลกอฮอล์ต่อระบบทางเดินอาหาร
2.1
พิษต่อกระเพาะ
แอลกอฮอล์จะกระตุ้นน้ำย่อยของกระเพาะและฮอร์โมนแกสตริน
ซึ่งมีโทษอาจทำให้เกิดแผลในกระเพาะและลำไส้
ถ้าแอลกอฮอล์มีปริมาณความเข้มข้นสูง
จำทำให้เยื่อบุกระเพาะอักเสบ
ถ่ายอุจจาระดำ
บางรายอาจมีการฉีกขาดของเยื่อหลอดอาหารตอนปลายต่อกระเพาะซึ่งเกิดจาก
การอาเจียนหรือขย้อนอย่างรุนแรง
และอาจจะรู้สึกเจ็บบริเวณยอดอก
2.2
พิษต่อลำไส้เล็กส่วนต้น
ทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุลำไส้เล็กส่วนต้น
และทำให้ความดันของหูรูดของท่อน้ำดีที่มาเปิดเข้าสู่ลำไส้เล็กส่วนต้นสูงขึ้น
เป็นเหตุให้น้ำดีจากตับและน้ำย่อยจากตับอ่อนออกมาช่วยในการย่อิยอาหารได้ลำบาก
ทำให้เกิดอาการท้องอืด
2.3
พิษต่อลำไส้เล็กส่วนอื่น
ทำให้การดูดซึมอาหารลดลง
2.4
พิษต่อตับอ่อน
แอลกอฮอล์มีผลทำให้น้ำย่อยของตับอ่อนและเอนไซม์ของตับอ่อนเพิ่มขึ้น
ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากการกระตุ้ยฮอร์โมนแกสตรินในกระเพาะทำให้ตับอ่อนอักเสบ
2.5 พิษต่อตับ
ทำให้เกิดไขมันในตับและเซลล์ของตับจะตาย
ถ้าเป็นเรื้อรังจะกลายเป็นตับแข็งในที่สุด
3.
พิษของแอลกอฮอล์ต่อระบบหัวใจและเลือด
แอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยาย
หน้าแดง
รู้สึกอบอุ่น
ทำให้ตับแข็งตายได้
ถ้าอยู่ในที่มีอากาศ
เย็นเนื่องจากร่างกายไม่สามารถปรับตัวเพื่อเก็บความร้อนได้
และแอลกอฮอล์มีผลต่อกล้ามเนื้อหัวใจ
ทำให้การบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจลดลง
4.
พิษของแอลกอฮอล์ต่อระบบเผาผลาญและต่อมไร้ท่อ
แอลกอฮอล์
ทำให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงหรือมีอาการของเบาหวานได้
เนื่องจากมีการทำลายเซลล์
ของตับอ่อน
หรือในทางตรงข้ามทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำหากดื่มติดต่อกันโดย
ไม่รับประทานอาหาร
2 - 3 วัน
นอกจากนั้นแอลกอฮอล์ทำให้มีอาการข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า
โรคเก๊าท์
(Gout ) ได้
5.
พิษของแอลกอฮอล์ต่อระบบต้านเชื้อโรค
แอลกอฮอล์ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในระบบต่อต้านของร่างกายต่อเชื้อโรค
ทำให้ร่างกายติดเชื้อ
ได้ง่าย
6.
พิษของสุราต่อทารกในครรภ์
มารดาที่ดื่มสุราในระยะก่อนหรือระยะตั้งครรภ์
จะทำให้มีการส่งผ่านแอลกอฮอล์ไปยังลูกใน
ครรภ์ได้โดยผ่านรก
จะทำให้ทารกเกิดความพิการทางร่างกายและสมอง
การตรวจหาแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด
แอลกอฮอล์จะถูกดูดซึทส่วนใหญ่ในกระเพาะอาหารอย่างรวดเร็วเข้าสู่กระแสเลือดในเวลาเพียง
5 นาที
และถูกนำไปยังอวัยวะต่าง
ๆ
ของร่างกายอย่างรวดเร็วภายใน
10 - 30 นาที
จึงใช้หลักการนี้ในการตรวจหาระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด
อาการขาดสุรา
การติดสุรา
ผู้ที่ติดสุรา
หมายถึง
ผู้ที่ดื่มสุราติดต่อกันมาเรื้อรังเป็นเวลาหลาย
ๆ ปี
โดยไม่สามารถหยุดดื่มได้
จนเกิดอาการเปลี่ยนแปลงไปในทางทรุดโทรมทั้งร่างกายและจิตใจ
ความประพฤติและสังคม
จะหยุดดื่มไม่ได้
ถ้าหยุดดื่ม
จะมีอาการไม่สบายต่าง
ๆ เกิดขึ้น
ได้แก่
หงุดหงิด
กระวนกระวาย
นอนไม่หลับ
อาจมีอาการชักกระตุก
คลุ้มคลั่ง
หัวใจเต้นผิดปกติ
และอาจตายได้
การรักษา
สิ่งสำคัญที่สุดที่ช่วยให้การรักษาผู้ติดสุราให้ประสบผลสำเร็จก็คือ
ความจริงใจที่จะรับการบำบัดของตัวผู้ติดสุราเอง
ซึ่งจะต้องรับการบำบัดรักษาทั้งร่างกายและจิตใจ
โดยวิธีการต่าง
ๆ เช่น
การรักษาด้วยยา
การใช้เครื่องมือกระตุ้นไฟฟ้า
และการใช้จิตบำบัด
ทางเลือกของบุคคลเพื่อป้องกันปัญหาจากสุรา
1.
ปรับแนวคิดต่อความสุข
และความต้องการของชีวิตให้อยู่ในทางสายกลาง
2.
หากิจกรรมส่งเสริมความสุขที่มีผลดีต่อสุขภาพกายและจิตใจ
3.
เล่นกีฬาหรือทำงานอดิเรกเป็นประจำ
4.
ถ้าไม่เป็นผู้ดื่ม
ก็ไม่ควรพยายามลองดื่มและควรปฏิเสธอย่างนุ่มนวล
5.
ถ้าติดสุราหรือมีปัญหาโรคจากสุรา
ควรรีบขอเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง
สถานบริการบำบัดรักษาและให้คำปรึกษา
- โรงพยาบาลเลิดสิน
- โรงพยาบาลนิติจิตเวช
- โรงพยาบาลธัญญารักษ์
- โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
- โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
ฯ
- โรงพยาบาลศิริราช
- โรงพยาบาลตำรวจ
|