การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด การดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในประเทศไทย
มีหลักการสำคัญ 2 ประการ คือ 1. การลดอุปทาน หรือ
ลดปริมาณยาเสพติด (Supply Reduction) 2. การลดอุปสงค์
หรือ ลดความต้องการใช้ยาเสพติด (Demand Reduction)
การลดอุปทาน การดำเนินงานลดปริมาณยาเสพติด ใช้มาตรการ
ดังนี้
- มาตรการควบคุมพืชเสพติด
การควบคุมพืชเสพติดในพื้นที่ปลูกฝิ่น
ดำเนินการโดยใช้วิธีพัฒนาชนบทแบบผสมผสานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
ของกลุ่มประชากรเป้าหมายที่ลักลอบปลูกฝิ่น
ควบคู่ไปกับการตัดฟันทำลายฝิ่นที่มีการลักลอบปลูก
การป้องปรามไม่ให้มีการปลูกพืชเสพติดโดยให้การศึกษา
เผยแพร่ประชาสัมพันธ์และปฏิบัติการทางจิตวิทยา
สร้างเงื่อนไขกดดันกลุ่มประชากรเป้าหมาย ส่วนการควบคุมพื้นที่ปลูกกัญชา
ใช้วิธีการปราบปรามด้วยการตัดฟันทำลายไร่กัญชา ปราบปรามนายทุน
และปฏิบัติการทางจิตวิทยากดดัน ป้องปรามผู้ลักลอบปลูกกัญชา -
มาตรการปราบปราม
ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นปราบปรามการผลิตเฮโรอีน
ยาบ้า ด้วยการสกัดกั้นจับกุมการนำเข้าสารเคมี
จับกุมทำลายแหล่งผลิตและขยายผลไป ถึงนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง
นอกจากนั้นยังดำเนินการปราบปรามกลุ่มการค้าและลำเลียงลักลอบขนยาเสพติดข้ามมาจากชายแดน
เขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด
ได้มุ่งเน้นขยายงานสืบสวนจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติด นอกจากนี้
ยังได้มีการริบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติดควบคู่กันไปด้วย
การลดอุปสงค์ การดำเนินงานลดความต้องการใช้ยาเสพติด ใช้มาตรการ
ดังนี้ - มาตรการป้องกันยาเสพติดและให้ภูมิคุ้มกัน
เป็นการให้การศึกษา ข่าวสาร ความรู้
และข้อมูลในเรื่องของยาเสพติดอย่าง ถูกต้องด้วยวิธีการต่างๆ
ไปสู่ประชาชน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันมิให้ประชาชนหันไปใช้ยาเสพติด
ขณะเดียวกันก็ดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของตัวยา
รวมทั้งปรับปรุงสภาพแวดล้อมมิให้มีส่วนผลักดันให้เกิดปัญหายาเสพติด
ซึ่งมีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้ 1.
ใช้กระบวนการทางการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน เพื่อ ให้ความรู้
ปลูกฝังความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมในการต่อต้านยาเสพติด 2.
พัฒนาเนื้อหา กลยุทธ์ เทคโนโลยีในการให้การศึกษา การเผยแพร่
และการผลิตสื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ การรับรู้
ขนบธรรมเนียมประเพณีของกลุ่มเป้าหมาย โดยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
3.
นำวิธีการป้องปรามมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดในกลุ่มเสี่ยง
4. จัดให้มีกิจกรรมทางเลือกที่เหมาะสม
เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม
โดยปลูกฝังนิสัยการไม่ใช้ยาเสพติด 5.
ระดมทรัพยากรและความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนให้เข้ามามีส่วน
ร่วมในการป้องกันยาเสพติดอย่างเป็นระบบ 6.
สร้างแนวร่วมการป้องกันการใช้ยาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมในทุก ระดับ โดย
ให้สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันศาสนา
และองค์กรประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันยาเสพติด 7.
สร้างเสริมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการดำเนินชีวิตโดยปราศจาก
การใช้ยาเสพติด
จัดทำระบบข้อมูลข่าวสารและวิชาการเกี่ยวกับการป้องกันยาเสพติด
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินงานและการประสานงาน
8. ศึกษาวิจัยและติดตามประสิทธิผลเพื่อพัฒนารูปแบบการป้องกัน
ยาเสพติดให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหา -
มาตรการบำบัดรักษา
การบำบัดรักษายาเสพติดเป็นมาตรการหลักอย่างหนึ่งในการแก้
ปัญหายาเสพติด
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดหยุดเสพยาให้นานที่สุดจนสามารถเลิกได้โดย
เด็ดขาดเพื่อลดความเดือดร้อนของสังคม ลดการแพร่ระบาดของยาเสพติด
และเพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติ
เนื่องจากการติดยาเสพติดเป็นการป่วยทั้งทางกายและจิตใจ ดังนั้น
การบำบัดรักษานอกจากจะถอนพิษยาเพื่อรักษาอาการทางร่างกายแล้ว
ยังจะต้องมีการฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อให้ผู้ที่เข้ารับการบำบัดฟื้นคืนจากอาการ
ป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจ
และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมปกติได้โดยไม่หวนกลับไปใช้ยาเสพติดอีก
ซึ่งการถอนพิษยาอาจทำได้โดย ใช้ยาทดแทน ใช้ยาระงับอาการ
หรือใช้วิธีหักดิบ เป็นต้น ส่วนการฟื้นฟูสมรรถภาพ อาจทำได้โดย
ใช้แบบมาตรฐาน ชุมชนบำบัด ครอบครัวบำบัด และศาสนบำบัด เป็นต้น
|