ประเภท | ลักษณะ | ที่มา | โทษ | ภูมิคุ้มกัน | แหล่งรักษา | กฎหมาย | หน้าแรก |
ยาอี
ยาเลิฟ
เอ็กซ์ตาซี
ชื่อทั่วไป
: ยาอี หรือ
เอ็กซ์ตาซี่
(Ecstasy) สารเคมีที่ออกฤทธิ์
: ลักษณะทางกายภาพ
: ประวัติความเป็นมา : ยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซี่ (Ecstasy)เป็นยาเสพติดกลุ่มเดียวกันแต่จะแตกต่างกันบ้างในด้านโครงสร้างทางเคมี มีการลักลอบนำเข้ามาในประเทศไทย โดยกลุ่มนักค้าชาวต่างประเทศ และกลุ่มคนไทยที่ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ประเภทของยา การแพร่ระบาด
: การออกฤทธิ์
: ผลต่อร่างกาย
: การบำบัด การบำบัดรักษาผู้ติดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซี เป็นการบำบัดรักษาความผิดปกติของร่างกายจากผลของ ยาเสพติด คือ ความผิดปกติของระบบประสาท โดยเฉพาะสมองส่วนกลาง (Central nervous system) และสารสื่อเคมีสมอง (Neurotransmitter) สมองของผู้ติดยาเสพติดต้องการฤทธิ์ของยาเสพติดที่จะกระตุ้นให้ระบบสมองทำงานอย่างปกติ หากช่วงใดขาดยาเสพติดไปกระตุ้นก็จะเกิดอาการผิดปกติขึ้น อาการผิดปกติของร่างกายที่เห็นทันทีที่หยุดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซี คือ อาการถอนพิษยา ซึ่งจะมีอาการหิวบ่อย กินจุ กระวนกระวาย อ่อนเพลียและมีความรู้สึกจิตใจหดหู่ บางรายมีอาการถึงขนาดอยากฆ่าตัวตาย ในระยะนี้ผู้ติดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซีจะอยากนอนและนอนเป็นเวลานานในช่วง 2-3 สัปดาห์แรก ต่อจากอาการถอนพิษยา ผู้ติดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซีจะมีอาการอยากยามาก ในช่วงนี้ผู้ติดยาเสพติดจะมีความรู้สึกไม่เป็นสุข ไม่มีกำลังทั้งทางร่างกายและจิตใจ อยากที่จะใช้ยาเพื่อกระตุ้นร่างกายและจิตใจให้เกิดความกระชุ่มกระชวยกลับมาใหม่ การบำบัดรักษายาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซีในช่วงแรก เป็นการบำบัดรักษาเพื่อลดอาการถอนพิษยาจึงเป็นการให้ยาตามอาการ เพื่อลดความเครียด อาการซึมเศร้า หรืออาการทางจิตอื่นๆ เช่น อาการหวาดระแวง เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดสามารถประคับประคองตนเองผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ หลังจากหยุดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซีประมาณ 3-4 สัปดาห์ อาการถอนพิษยาและอาการอยากยาจะลดน้อยลง แม้ว่าผู้ติดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซีที่ผ่านการบำบัดรักษาขั้นถอนพิษยาแล้ว จะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจดีขึ้น ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แต่ความผิดปกติของระบบสมอง พฤติกรรมและสิ่งแวดล้อมยังไม่ได้แก้ไข จำเป็นที่จะต้องเข้าสู่ขั้นตอน ฟื้นฟูสมรรถภาพ ต่อไป เพื่อให้ผู้ติดยาอี ยาเลิฟ เอ็กซ์ตาซีหายขาดไม่หวนกลับไปใช้ยาเสพติดอีก การที่ต้องผ่านขั้นตอนฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อฟื้นฟูให้สมองของผู้ติดยาเสพติดกลับมา เป็นสมองของคนปกติ เนื่องจากระบบประสาทของคนติดยาต้องการเสพติดเป็นประจำ เพื่อกระตุ้นให้มีสารเคมีสมองพอเพียงที่จะทำให้เกิดความสุขไม่วิตกกังวล หากขาดการกระตุ้นจากยาเสพติด สมองของผู้ติดยาเสพติดจะมีปฏิกริยาตรงกันข้าม คือผู้ติดยาจะหงุดหงิดไม่เป็นสุข มีความเครียด วิตกกังวลและมีความอยากที่จะกลับไปเสพ ยาเสพติดอีก ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรให้ส่วนต่างของสมองได้ปรับตัวกลับเป็น ปกติในช่วงที่ระบบสมองปรับตัวเป็นปกติ ผู้ติดยาเสพติดต้องไม่หวนกลับไปเสพยาเสพติดอีก นอกจากระบบสมองแล้ว พฤติกรรมและสภาพแวดล้อมของผู้ติดยาต้องได้รับการปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้น ในกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพมีหลายวิธีการที่จะช่วยเหลือผู้ติดยาเสพติด เช่น การเข้าค่ายฟื้นฟูฯ การให้ คำปรึกษา การทำจิตบำบัด และชุมชนบำบัด เป็นต้น เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดเข้าใจถึงปัญหาของตนเองที่นำไปสู่การเสพยาเสพติด ปรับสภาพครอบครัวให้สมาชิกในครอบครัวได้เข้าใจปัญหาและช่วยกันดูแล ประคับประคองผู้ติดยาเสพติด ปรับสภาพกลุ่มเพื่อนให้ห่างไกลจากเพื่อนที่จะ มาชักชวนให้เสพยาเสพติด สร้างความมั่นคงทางจิตใจผ่านทางผู้เกี่ยวข้องหรือกลุ่มที่เลิกยาแล้ว ให้ผู้ติดยาเสพติดสามารถยืนหยัดแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยไม่หวนกลับไปเสพยาอีก การบำบัดรักษายาอี
ยาเลิฟ
เอ็กซ์ตาซีให้หายขาด
ไม่หวนกลับไปเสพใหม่
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
จำเป็นต้องใช้ระยะเวลา
และความช่วยเหลือจากผู้ที่ใกล้ชิด
การบำบัดรักษาเฉพาะอาการในช่วงถอนพิษยาอย่างเดียวไม่เป็นการเพียงพอจำเป็น
ต้องมีกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ
รวมทั้งปรับพฤติกรรมสภาพแวดล้อมทั้งในครอบครัวและกลุ่มเพื่อนให้ดีขึ้น
จึงจะทำให้ผู้ติดยาเสพติดหลุดพ้นจากการเป็นทาสยาเสพติดได้อย่างถาวร โทษทางกฎหมาย
|
กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา |
จัดทำโดย...นายไชยา เฉลียวพงษ์ อาจารย์ 1 โรงเรียนปากคาดพิทยาคม อำเภอปากคาด จังหวัดหนองคาย |