กลอนแปด ... ๓

กลอนแปด  ... ๒ ] [ กลอนแปด ... ๓ ] กลอนแปด ..  ๔ ]

Home ] ร้อยกรองไทย ] คุยกันฉันท์คนชอบกลอน ] เกี่ยวกับผู้จัดทำ ] สมุดเยี่ยม ]

                 เสียงท้ายวรรค(ต่อ)
          ๓) พยัญชนะที่มีวิธี่ไล่เสียงต่างจากนี้เป็นกลุ่ม
พยัญชนะเสียงต่ำที่เหลือจากนี้มีทั้งหมด  ๒๔ ตัว คือ

ค คอคน ฆง   ชซฌญ  ฑฒณทธน พฟภม ยรลวฬฮ
จำง่าย ๆ ว่าพื้นเสียงเป็นเสียงสามัญ ประกอบวรรณยุกต็
ได้ ๒ ตัวคือ  ไม้เอก กับไม้โท เช่นเดียวกับ
พยัญชนะเสียงสูง เช่น
คา  ค่า  ค้า  แต่กำหนดให้   ออก
เสียงต่างจากพยัญชนะเสียงกลาง เสียงสูง
คือคำที่ประ
กอบวรรณยุกต์เอกต้องออกเสียงโท ส่วนคำที่ประกอบ
วรรณยุกต์โทต้องออกเสียงตรี  
         ๔) เพราะฉะนั้น เวลาไล่หาเสียงท้ายวรรคกลอน
ให้ลืมเรื่องวรรณยุกต์ให้หมด ไม่ต้องสนใจว่าคำนั้น
ใส่ไม้เอก หรือไม้โท ต้องถอดเสียงให้ได้ว่าเป็นเสียงใด
ใน ๕ เสียงของภาษาไทย
         ๕) วิธีเทียบเสียง   ให้ใช้วิธีแทนคำเช่น
คา ค่า ค้า
ให้ใช้พยัญชนะ เข้าไปแทนที่พยัญชนะเดิม โดยให
ออกเสียงตามพยัญชนะเดิม เช่น ค่า เมื่อนำพยัญชนะ  ข้าไปแทนที่     แต่ยังคงออกเสียงตามพยัญชนะเดิม
สียงที่ได้คือ
ก้า  ซึ่งคือเสียงโท นั่นเอง

*** สูตรแทนค่าเสียงด้วย ก โปรดฝึกใช้ให้ชำนาญ ***
 

                   เสียงท้ายวรรคที่ควรใช้และห้ามใช้
      
  ตอนนี้ เรามาถึงโค้งสุดท้ายของการเขียนกลอน
กันแล้ว  การรู้หลักการใช้เสียงท้ายวรรค ถือเป็นกลยุทธ์
ขั้นสุดท้ายในการจะเป็นนักกลอน ที่เหลือจากนี้ จะเป็น
เรื่องของพรสวรรค์ และการฝึกฝน ตัวใครตัวมันละครับ
มาดูกันเลยครับ

         
      
คำท้ายบรรทัด ที่ ๑  ไม่นิยมเสียงสามัญ เกจิบาง
ท่านบอกห้ามเลย เสียงนอกนี้ คือเอก โท ตรี จัตวาใช้ได้
         คำท้ายบรรทัด ที่ ๒  เสียงสามัญ และเสียงตรี ถือ
เป็นเสียงต้องห้าม    ให้ใช้เสียง เอก โท    และเสียงจัตวา
          คำท้ายบรรทัด ที่ ๓  ห้ามไม่ให้ใช้เสียง เอก โท  และ เสียงจัตวาให้ใช้เสียงสามัญ และเสียงตรี เท่านั้น
        คำท้ายบรรทัด ที่ ๔   ให้ยึดหลักเกณฑ์เดียวกับ
คำท้ายวรรค (บรรทัด) ๓
      
ตัวอย่าง   คำท้ายบรรทัด ที่ ๑
... โอ้สุพรรณวันนี้ไม่มีพิมพ์ ...  
เสียงสามัญ  ไม่นิยม
  ... ที่นอกเขตราชฐานมีบ้านล้อม ...
เสียงตรี ใช้ได้
  ... เป็นคู่สร้างคู่สมอุดมสิทธิ์ ...
เสียงเอก      ดี
  ... งานตอนเช้าสาวหนุ่มต่างชุ่มชื่น ...
เสียงโท ดีมาก
  ... ในเพลงปี่ว่าสามพี่พราห์มณ์เอ๋ย ... 
เสียงจัตวา  ดีที่สุด


ตัวอย่างเสียงตรี ท้ายวรรค ๓
                        

      
" ดูบัวยังเต็มบานรู้ต้านบาป
                    ใยจิตหยาบจึงมิยักรู้จักหย่อน
                    รู้เล่ห์ร้างเกลศร้ายละลาย
ร้อน
                    บาปย่อมจรบุญย่อมแจ่มแย้มบัวใจ"

                                          (ประสิทธิ์  โรหิตเสถียร)

ตัวอย่างเสียงตรี ท้ายวรรค ๔
                        

     
" ถึงร้อนฟ้าร้อนฝนร้อนคนบาป
                    น้ำใจอาบร้อนหายคลายขุกเข็ญ
                    ร้อนแผ่นดินจะอาศัยร้ายลำเค็ญ

                    ไทยจงเห็นภัยนี้รีบหนี
ร้อน"
                                              (วิธันว์  ศรีเมือง)

     ในการเขียนกลอนสั้น ๆ ไม่เกิน ๑ - ๒ บทนั้น
ผู้เขียนมักจะจบด้วยเสียงตรีเสมอ เพราะรู้สึกว่ามันส์
สะใจดี
          ขอเพิ่มเติมประเด็นสำคัญ เรื่องสัมผัสท้ายวรรค
อีกเล็กน้อย คือเรื่องสัมผัสซ้ำ สัมผัสเลือน ชิงสัมผัส


สัมผัสทีฆะรัสสะ ท่านว่าผิดฉันทลักษณ์กลอน ห้ามใช้
ขอยกตัวอย่าง จากข้อเขียนของ ส.เชื้อหอม ดังนี้
ตัวอย่างเช่น
                          " ปฐพีที่อยู่เร่งรู้ไว้
                    ชื่อว่าไทยทุกผู้รู้หวงแหน
                    มีชาติศาสน์กษัตริย์รัฐเป็นแกน
                    เราหวงแหนห้าวหาญผลาญไพรี
"
         คำว่า แหน สัมผัสซ้ำ เนื่องจากพ้องรูปและเสียง
ต้องห้าม

อีกตัวอย่างหนึ่ง
                             " เห็นนักเรียนเขียนอ่านสอบผ่านได้
                        แทนการไปตีต่อยถ่อย
มหันต์
                       ขอชมเชยเผยใจไว้ทั่วกัน
                       ที่ไม่
หันหาหลักเป็นนักเลง"
         คำว่า
มหันต์  และ หัน สัมผัสซ้ำ เนื่องจาก พ้องเสียง ต้องห้ามเช่นกัน

ตัวอย่างกลอนชิงสัมผัส (สัมผัสตัดหน้า) เช่น

                            " อยู่อย่างไทยใจทาษปราศคุณค่า
                        มองภาษาพ่อคล้ายคิดหน่ายแหนง
                        ชอบ
แย้งคำสำนวนชวนตะแบง
                        แกล้งสำแดงดักดานเต่าล้านปี
"
         
         คำว่า
แย้ง ชิงสัมผัสคำว่า ตะแบง เนื่องจาก
กลอนบรรทัดที่ ๒ ลงท้ายด้วยเสียงสระ แ-อ   
ดังนั้น กลอนบรรทัดที่ ๓ ห้ามมีเสียงสระ แ-อ ก่อน
คำว่า
ตะแบง คำว่าแกล้ง    กับ    แดง ก็เช่นกัน แกล้ง ชิงสัมผัส แดง เนื่องจากจุดสัมผัสอยู่ตรง
คำที่ ๓   ขอให้ย้อนกลับไปดูผังโครงสร้างกลอนแปด ซึ่งมีเส้นโยงจุดสัมผัสไว้ชัดเจน

ตัวอย่างกลอนสัมผัสเลือน (สัมผัสไม่ขัด) เช่น

                            " ยุคข้าวยากหมากแพงโจรแรงร้าย
                        คนจนตายกับ
ตายสุดหน่ายหนี
                        ต้องทนทุกข์รุกโรมโหมทั้งปี
                        พวกเศรษฐีสุข
ดี เพราะมีเงิน"
          เนื่องจากมีเสียง อ-าย เพิ่มขึ้นมาตรงคำ
ที่ ๕
ตายทำให้เสียง ตาย ตรงคำที่ ๓ เลือนไป ดี 
ตรงบรรทัด สุดท้ายก็เช่นกัน อย่างนี้เรีกว่าส ัมผัสเลือนห้ามใช้

ตัวอย่างกลอนสัมผัสทีฆะรัสสะ (สัมผัสสั้นยาว) เช่น

                                " ป่าถูกป่นจนป่าเป็นอาพาธ
                            ไม้ไม่อาจอวดต้นให้คน
เห็น
                             อิทธิพลป่นป่ากว่าเศษ
เดน
                             จับได้
เข่นฆ่ามันในทันที
"
         
          โปรดสังเกตคำว่า  
เห็น  เดน เข่น เนื่องจาก  ๒ คำ หัวท้ายเป็นเสียง แ-อะ    เป็นรัสสสระ  (สระเสียงสั้น) ส่วนคำกลาง เป็นเสียง เ-อ ทีฆสระ   (สระเสียงยาว) อย่างนี้ นำมาสัมผัสกันไม่ได้ ห้ามใช้
      
                                               (มีต่อกลอนแปด ๔)