จากประวัติชีวิตของหลวงปู่ในช่วงนี้
พอจะกล่าวได้ว่าเป็นช่วงแห่งการต่อสู้ทางความคิดก็น่าจะได้
ความคิดหนึ่ง
เป็นการศึกษาเพิ่มเติมทางด้านปริยัติ
อันเป็นการศึกษาทางภาคทฤษฎี
ศึกษาทางตัวหนังสือ
ดังจะเห็นได้จากการเดินทางออกจากสำนักป่าหนองเสม็ด
ไปยังวัดสุทธจินดา
นครราชสีมา
เพื่อฝากสามเณรโชติ
ให้อยู่ศึกษาเล่าเรียน
แล้วท่านเดินทางไปยังวัดสัมพันธวงศาวาส
กรุงเทพฯ
ด้วยความคิดที่จะศึกษาเพิ่มเติมทางพระปริยัติ
อีกความคิดหนึ่ง
เป็นการศึกษาด้วยการปฏิบัติ
คือ การออกธุดงค์
มุ่งหาประสบการณ์ตรง
ค้นหาสัจธรรมด้วยตนเอง
ดังจะเห็นจากที่ท่านเปลี่ยนใจไม่ศึกษาด้านพระปริยัติ
ที่วัดสัมพันธวงศาวาส
แล้วเดินทางไปจังหวัดลพบุรี
เพื่อบำเพ็ญภาวนาที่ถ้ำอรหันต์ให้นานที่สุด
แต่ก็ได้รับการอาราธนานิมนต์ให้มาโปรดญาติโยมที่จังหวัดสุรินทร์อีก
หลวงปู่กลับมาพำนักที่สำนักป่าหนองเสม็ดตามเดิม
หลังจากได้พระสาม อกิญฺจโน
เป็นศิษย์
และส่งให้ไปศึกษาภาคปฏิบัติกับ
พระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทตฺโต
แล้ว
หลวงปู่ก็พำนักโปรดญาติโยม
ณ
สำนักป่าหนองเสม็ดอีกระยะหนึ่ง
ด้วยอัธยาศัยและจิตใจของหลวงปู่โน้มเอียงมาทางด้านการปฏิบัติ
มากกว่าที่จะศึกษาทางพระปริยัติ
ท่านจึงดำริที่ออกกัมมัฏฐานธุดงค์อีกเพื่อปฏิบัติภาวนาให้ยิ่งๆ
ขึ้นไป
ในที่สุด หลวงปู่ดูลย์
อตุโล
จึงลาญาติโยมออกเดินทางจากสำนักป่าหนองเสม็ด
มุ่งไปยังจังหวัดอุบลราชธานีอีกครั้งหนึ่ง
ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะย้อนกลับไปกราบครูบาอาจารย์
และจะจาริกธุดงค์ต่อไป
แต่เมื่อหลวงปู่ไปถึง วัดสุทัศนาราม
จังหวัดอุบลราชธานีแล้ว
ความตั้งใจเดิมก็ต้องสะดุดหยุดลง
เนื่องจากพระอุปัชฌายะของท่าน
ได้ขอร้องให้ท่านพำนักที่วัดสุทัศนาราม
เพื่อช่วยก่อสร้างโบสถ์ให้เสร็จเสียก่อน
เมื่อพระอุปัชฌายะผู้มีพระคุณขอร้องเช่นนี้
ท่านจึงมิกล้าขัด
และถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่มีส่วนทดแทนพระคุณ
จำเป็นต้องอยู่ช่วยสร้างโบสถ์
แต่ท่านก็ตั้งปณิธานไว้ว่า
โบสถ์เสร็จเมื่อไรก็จะออกธุดงค์กัมมัฏฐานต่อไป
การเริ่มต้นก่อสร้างโบสถ์
วัดสุทัศนารามในครั้งนี้
ทางวัดมีทุนเริ่มต้นเพียง
๓๐๐ บาท
ใช้เวลาก่อสร้างนานทั้งสิ้น
๖ ปี จึงแล้วเสร็จ
นับเป็นพระอุโบสถที่สวยงาม
และใหญ่โตที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี
เป็นที่เชิดหน้าชูตาของจังหวัด
และใช้ประกอบกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาอย่างคุ้มค่า
ในระหว่างก่อสร้างโบสถ์นั้น
หลวงปู่ดูลย์
ได้ช่วยเหลือพระอุปัชฌาย์ด้วยหน้าที่หลายอย่าง
นอกจากช่วยด้านงานสร้างโบสถ์แล้ว
ก็มีงานปกครองพระภิกษุสามเณร
และเป็นพระกรรมวาจาจารย์บวชนาค