ปฏิปทาของหลวงปู่
ในการเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์ลูกหา
ได้ปรนนิบัติรับใช้ท่านนั้น
มีการเกี่ยวเนื่องกับพระเณรในวัด
คือ
เราจะมีการจัดวาระไปปฏิบัติหลวงปู่เริ่มตั้งแต่
๕ โมงเย็น หรือ ๔
โมงเย็นก็สรงน้ำ
ซึ่งหลวงปู่จะสรงน้ำอุ่นตลอด
จะมีการจัดเวรพระไว้ชุดหนึ่ง
นอกนั้นแล้วแต่องค์ใดจะมีศรัทธา
อย่างน้อยมี ๓ องค์ขึ้นไป
ที่ไปร่วมกันสรงน้ำหลวงปู่ทุกวัน
เมื่อผสมน้ำอุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ก็อาราธนาท่าน
ท่านนั่งเก้าอี้ใกล้ตุ่มน้ำอุ่นนั้น
พระเณรก็ช่วยกันส่งผ้าอาบน้ำถวายท่าน
เหมือนกับว่าช่วยนุ่งให้ท่านนั่นแหละ
ผลัดเปลี่ยนผ้า
เสร็จแล้วก็อาบ
ถูข้างหน้าหนึ่งหรือสององค์
ข้างหลังหนึ่งหรือสององค์
ท่านก็ถูเองบนศีรษะ
ราดน้ำ แล้วก็ห่มสบง
ก็เหมือนกับช่วยท่านนุ่งนั่นแหละ
ก็ช่วยเหลือช่วยส่งให้ท่าน
ช่วยเช็ดตัวให้ท่าน
เรียบร้อยแล้วก็ถือว่าหมดวาระในช่วงนั้น
ส่วนกลางคืน
ก็แล้วแต่พระเณรที่มีศรัทธาไปถวายการนวด
ไปนั่งเฝ้ารับใช้ท่าน
คอยรับธรรมะคำสอนจากท่าน
แต่ละองค์ก็นิยมทำ
เพราะว่า เวลาเข้าใกล้หลวงปู่แล้วจะรู้สึกว่าเยือกเย็น
สบายอกสบายใจ
แม้เรากลุ้มใจ
ก็รู้สึกสบายใจ
ได้ฟังข้อคิดธรรมะ
คำเตือน
อันนี้คล้ายๆ กับว่า
ตั้งแต่ค่ำไปจนถึง ๓ ทุ่ม
พวกเราจะต้องมาอยู่กับหลวงปู่
ถ้าไม่มีแขกพวกเราก็อยู่กับท่าน
แล้วแต่ท่านจะสอน
แล้วแต่จะมีโอกาสอะไรที่จะรับใช้ท่าน
นี่คือกิจวัตรประการหนึ่ง
รู้สึกว่าเท่าที่เห็นครูบาอาจารย์มา
ฝ่ายกัมมัฏฐาน
เขาจะสนใจต่อการปฏิบัติครูบาอาจารย์มาก
ถือว่าเป็นกัมมัฏฐานข้อหนึ่งของพระเณร
ในการที่รับใช้ครูบาอาจารย์
บางองค์เขาก็นึกเข้ามาทางที่ตัวเองว่า
"โอ !
เราไม่ได้รับใช้คุณพ่อคุณแม่
เมื่อเรามาบวชอยู่ในพระศาสนา
การได้รับใช้ครูบาอาจารย์
รับใช้หลวงปู่ก็เหมือนกับการได้รับใช้พ่อแม่ด้วย"
ก็เกิดความภูมิใจ ดีใจ
ก็นับเป็นบุญกุศลของเขา
บุญกุศลก็คงจะต่อไปให้กับบิดามารดาของตัวเองบ้าง
อันนี้คือปฏิปทาอย่างหนึ่งของหลวงปู่
ที่เกี่ยวกับสานุศิษย์ที่พึงจะรับใช้ท่าน