ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๔๔. งานเผยแผ่ไปสู่ประชาชน

นอกจากงานด้านคันถธุระ จะได้รับการพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองดังได้กล่าวมาแล้ว ด้านวิปัสสนาธุระก็มิได้ล้าหลัง นักปฏิบัติผู้ใคร่ในธรรมชาวสุรินทร์ ก็ได้หลวงปู่เป็นหลักสำคัญในการให้การอบรมสั่งสอน และแก้ไขชี้แนะแนวทางปฏิบัติ นับว่าเป็นบุญญลาภอันประเสริฐของชาวสุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียง

ถ้าเทียบกับประชาชนในถิ่นอื่นหลายแห่ง จะเห็นว่าผู้ใฝ่ใจในธรรมปฏิบัติ ต้องเที่ยวเสาะหาครูบาอาจารย์กันเป็นเวลาแรมเดือนแรมปี เป็นระยะทางไกลเป็นร้อยเป็นพันกิโลเมตร ก็ยังได้พบบ้าง ไม่ได้พบบ้าง เนื่องจากครูบาอาจารย์ต่างๆ ท่านไม่ค่อยอยู่ประจำที่

แต่ชาวสุรินทร์นั้น มีหลวงปู่ดูลย์ ผู้สามารถชี้แนะได้ตลอดสาย คอยอยู่เป็นประจำที่วัดแล้ว จึงทำให้การพระศาสนาด้านวิปัสสนาธุระ เจริญก้าวหน้าไปด้วยดี

จะเห็นว่าการสอนวิปัสสนาของหลวงปู่ที่สำนักวัดบูรพารามนั้น ไม่มีการยกป้ายเปิดป้ายให้รู้ว่ามีการเรียนการสอนในด้านนี้แต่อย่างใด แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้เสาะแสวงหาธรรมปฏิบัติจากทั่วประเทศ

อนึ่ง เป็นที่น่าสังเกตว่า ในสมัยที่หลวงปู่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น มีชาวสุรินทร์จำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้จัก หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ดังจะเห็นจากเรื่องราวที่ว่า "ชาวคณะจังหวัดสุรินทร์ ผู้ใฝ่ในการบุญการกุศล ได้พากันเหมารถบัส เพื่อไปกราบนมัสการ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ที่ดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่ บ้าง ไปกราบ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ที่สกลนครบ้าง พระคุณเจ้าเหล่านั้นได้กล่าวเป็นเชิงชี้แนะแก่ชาวสุรินทร์เหล่านั้นว่า ที่จังหวัดสุรินทร์เองก็มีพระอริยเจ้าผู้มีคุณธรรมสูงอยู่ที่นั่นคือ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ทำไมจึงไม่ไปกราบ หรือทำไมจึงไม่รู้กัน อุตส่าห์ดั้นด้น ตะเกียกตะกายไปถึงที่ไกลๆ โดยที่ไม่รู้ว่าที่จังหวัดของตนก็มีพระดีพระดังชั้นสุดยอดเหมือนกัน"

ข้อความนี้คัดลอกจากบันทึกในหนังสือ "อกิญฺจโนบูชา" อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่สาม อกิญฺจโน เมื่อวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕

จากความทรงจำของท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนี ได้เล่าถึงภารกิจด้านการเผยแผ่พระศาสนาของหลวงปู่ว่า ในระหว่างที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้น งานหลักประเภทหนึ่งนั้นก็คือ งานก่อสร้าง ปฏิสังขรณ์ และขยายวัดวาไปตามสาขาต่างๆ

กล่าวคือ เมื่อฝ่ายกัมมัฏฐาน เผยแผ่ไปสู่ญาติโยมทางไหนก็ตามกิจกรรมทางด้านวัดวาก็จะเกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าแต่ละจุดแต่ละแห่ง ญาติโยมแต่ละตำบล แต่ละอำเภอ ล้วนอยากได้ "วัดป่า" ล้วนอยากได้พระปฏิบัติทั้งนั้น

อันนี้ เท่าที่ได้ฟังได้เห็นมา นับว่าเป็นการลำบาก เป็นการเพิ่มภาระแก่หลวงปู่อย่างยิ่ง คือไม่มีกำลังพล ไม่สามารถจะหาพระเณรไปโปรดญาติโยมให้ได้หลายจุด และให้ได้หลายแห่ง ก็เป็นอันว่าขัดข้องพอสมควร

แต่เมื่อชาวบ้านเขาไม่ได้พระไป ก็หาโอกาสมาฟังเทศน์ฟังธรรมเป็นครั้งคราว หรือมาทำบุญบริจาคทานที่หลวงปู่เป็นครั้งคราว เพื่อฟังข้อวัตรปฏิบัติหรือข้อแนะนำกัมมัฏฐาน

อาจกล่าวได้ว่า ญาติโยมผู้ปฏิบัติกัมมัฏฐาน ปฏิบัติสมาธิภาวนาในจังหวัดสุรินทร์ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นแล้ว มักจะมีข้อสังเกตว่า ในจังหวัดอื่นนั้นพระสงฆ์สามารถปฏิบัติกัมมัฏฐานได้ดี แต่ทางจังหวัดสุรินทร์ แสดงให้เห็นว่าญาติโยมจะมีโอกาสทำได้ดีเป็นจำนวนมาก

เพราะเท่าที่หลวงปู่เผยแผ่คุณธรรมมา การเข้าถึงสมาธิปัญญานั้น ทำให้ญาติโยมตื่นตัวในการประพฤติปฏิบัติ ฝ่ายกัมมัฏฐานเป็นอันมาก

ท่านพระอาจารย์สุวัจน์ สุวโจ ศิษย์อาวุโสองค์หนึ่งของหลวงปู่ ได้เคยพูดเปรียบเทียบในเรื่องนี้ว่า

ทางแถบอิสานเหนือ เช่น อุบล อุดร ขอนแก่น นั้น ในแง่การปฏิบัติรับใช้เลี้ยงดู ถวายอาหารการบริโภค การบำรุงพระกัมมัฏฐาน ทำได้ดี แต่ในแง่การตั้งใจทำสมาธิภาวนานั้น สู้ทางจังหวัดสุรินทร์ไม่ได้

ส่วนทางสุรินทร์นั้น ในแง่การทะนุบำรุงจตุปัจจัยให้ถวายอุปถัมภ์แก่พระกัมมัฏฐานทางวัตถุนั้น สู้ทางอิสานเหนือไม่ได้ แต่ถ้าในแง่การตั้งใจด้านสมาธิภาวนารักษาศีล ๘ ดูตามจำนวนแล้ว ทางสุรินทร์นี้ไม่ใช่ธรรมดาเลย ทางสุรินทร์กับบุรีรัมย์แถวนี้นับว่าการปฏิบัติภาวนาอยู่ในเกณฑ์ดี

พระเถระผู้ใหญ่ท่านให้ข้อสังเกตดังนี้ และเท่าที่สังเกตมาก็เห็นว่าเป็นไปดังนั้นจริง ทั้งนี้ คงเป็นผลจากที่หลวงปู่ได้ทุ่มเทความรู้ความสามารถในการเผยแผ่กัมมัฏฐาน พร้อมกับสนใจให้การศึกษาด้านพระปริยัติไปด้วยกระมัง จึงได้ผลออกมาในลักษณะดังกล่าว

หน้าต่อไป