เรื่องความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน
โดยเฉพาะด้านอาหารการบริโภคนั้น
ยิ่งมองเห็นชัดเจนว่าลำบากอย่างยิ่ง
อยู่กันมาด้วยความยากลำบาก
แต่ก็ได้ผลตรงที่สานุศิษย์ของหลวงปู่
มีความอดทน
ที่ยังเหลืออยู่ในเพศสมณะนั้นมีมากมาย
ทั้งในสุรินทร์ บุรีรัมย์
ในจังหวัดอื่นๆ
ในกรุงเทพมหานคร
กระทั่งในต่างประเทศ
ก็ยังมีสานุศิษย์ที่แผ่ขยายออกไป
อันนี้ คือ
ปฏิปทาส่วนตัวของท่าน
ที่ท่านดำรงตัวอยู่ได้ก็คือ
ขันติธรรม
ขันติธรรมของหลวงปู่นับว่าใหญ่หลวงนัก
สมกับที่ท่านสอนเสมอว่า "อย่าส่งจิตออกนอก"
ข้อนี้นับว่าเหมาะสมอย่างมาก
ในด้านคำพูดของหลวงปู่
แม้จะปล่อยโอกาสให้พูดตามสบายบ้าง
ก็เวลาท่านทำงานกับพระเณร
แต่ก็พูดแต่เรื่องภายในธรรม
ภายในพระวินัย
ไม่มีการตลกโปกฮาในเรื่องภายนอกอะไร
ถ้าจะพูดให้คลายอารมณ์
ก็จะพูดแต่เรื่องในธรรมวินัย
แบบกระเซ้าเล่นว่าพระองค์นั้นยะถาไม่ถูก
พระองค์นี้รับสัพพีผิด
อะไรทำนองนั้น หรือ
นาคนั้นขานแบบนั้นแบบนี้
คือ
จะเป็นเรื่องขบขันในธรรมในวินัย
ในวัดในวาเท่านั้นเอง
ไม่มีเรื่องภายนอกมาก
ปฏิปทาของท่านจะอยู่อย่างนี้
มานึกถึงว่า ความผิดพลาด
บกพร่อง
ตลอดชีวิตของหลวงปู่ที่จะพึงหยิบยกมาว่า
ตรงนั้นน่าจะเป็นอย่างนั้น
ตรงนี้น่าจะเป็นอย่างนี้
รู้สึกว่าหาได้ยาก
มองจุดอ่อนของการวางตัวของท่านได้ยาก
มองไม่เห็นเลย
สำหรับเรื่องของการบริหาร
อย่างเรื่องการบริหารภายนอก
เกี่ยวกับการทางราชการ
ซึ่งถือเป็นเรื่องภายนอกนั้น
ท่านอาจจะปฏิบัติไม่ถูกต้องกับระเบียบที่โลกภายนอกเขาถือปฏิบัติกันบ้าง
เพราะท่านไม่คุ้นเคย
แต่ถ้าเป็นเรื่องภายใน
เรื่องข้อวัตรปฏิบัติของท่าน
เราไม่สามารถจะจับจุดอ่อน
จุดบกพร่อง
จุดพลั้งเผลอของหลวงปู่ได้เลยแม้แต่น้อย
จนตลอดชีวิตท่าน
ดังนี้ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งของหลวงปู่