ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๕๒. พูดถึงการเผชิญสัตว์ร้าย

ผู้เขียน (พระโพธินันทมุนี) เคยได้ยินได้ฟังประวัติของท่านพระอาจารย์ต่างๆ ที่ล่วงลับดับขันธ์ไปแล้ว มีความรู้สึกอย่างหนึ่งว่า ประวัติของท่านที่นำมาเล่ามาเขียนถึงในระยะหลังๆ ยิ่งนานมาก็ยิ่งวิจิตรพิสดารขึ้นทุกที ยิ่งมีสีสันฉูดฉาดขึ้นทุกที ทั้งๆ ที่ประวัติที่ปรากฏในยุคแรกๆ นั้น เต็มไปด้วยความสะอาดหมดจด อิ่มด้วยรสพระธรรม งดงามไปด้วยปฏิปทาของพระมหาเถระเจ้าที่น่ายึดถือเป็นแบบแผนสำหรับอนุชนรุ่นหลัง ได้ประพฤติปฏิบัติตามได้โดยง่าย

แต่มาในระยะหลัง เรื่องราวของพระมหาเถระเหล่านั้น กลับกลายเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก มองเห็นยาก พิสดารและเหลือวิสัย

ครั้นเมื่อได้พิจารณาถึงพุทธประวัติ อันเป็นเรื่องราวของพระบรมศาสดาเองเล่า ก็เกิดความเข้าอกเข้าใจ จะเห็นว่าพุทธประวัติที่ปรากฏในพระไตรปิฎกชั้นบาลีนั้น มีแต่เรื่องเรียบง่าย มีแต่เรื่องประสูติ ตรัสรู้ แสดงพระธรรมโดยพุทธสาวกต่างๆ การแยกย้ายกันไปประกาศพระศาสนา จนกระทั่งถึงพุทธปรินิพพาน

แต่พุทธประวัติที่ปรากฏในชั้นพระอรรถกถาจารย์ พระฎีกาจารย์ ในตอนหลัง จึงเริ่มมีสีสัน วรรณะฉูดฉาดบาดนัยน์ตามากขึ้นทุกที จนกระทั่ง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระวชิรญาณวโรรส จำเป็นต้องกลั่นกรองออกมา เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาของกุลบุตร กุลธิดาในภายหลัง

เมื่อผู้เขียนพิจารณาได้ดังนี้แล้ว ก็เกิดความเบาอกโล่งใจ เพราะพ้นกังขาเสียได้ จึงมาคิดว่า ในฐานะที่เป็นผู้เรียบเรียงประวัติของ หลวงปู่ดูลย์ จากการได้อยู่รับใช้ใกล้ชิดท่านมาถึง ๓๕ ปี มีเรื่องราวอันใดที่เคยได้ยินได้ฟัง ก็จะนำมาบรรยายไว้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเกรงใจตัวเอง เผื่อว่าประวัติพิสดารของท่านเกิดงอกงามขึ้น ก็จะได้ชี้แจงถูกว่า เรื่องทั้งหมดมีอยู่เท่านั้น ตามที่ข้าพเจ้าได้รู้ได้เห็น

ธรรมดาการเดินธุดงค์ตามป่าเขาลำเนาไพร เป็นที่แน่นอนว่าจะต้องมีการเผชิญหน้ากับสัตว์ป่านานาชนิด ดังนั้น การที่หลวงปู่ดูลย์เคยประจันหน้ากับสัตว์ป่าที่ดุร้ายจึงไม่ใช่เรื่องประหลาดเหลือวิสัย

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหลวงปู่ ดูออกจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ไม่โลดโผนตื่นเต้น หรือน่าประทับใจอะไรมาก แต่ในเมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของท่าน และท่านเป็นผู้เล่าเอง หรือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นคนเล่า และหลวงปู่ก็รับรองว่าเป็นความจริง ก็สมควรที่จะต้องบันทึกไว้ เพื่อประโยชน์แก่ผู้สนใจศึกษาต่อไป

เมื่อมีใครๆ มาถามหลวงปู่ว่า "ตอนที่หลวงปู่เดินธุดงค์กัมมัฏฐานหรือตอนอยู่ในป่าลึกๆ เคยพบเสือ หมี งูพิษ หรือสัตว์อะไรอื่นๆ บ้างไหม ?"
หลวงปู่จะตอบว่า "เคย"

ถามต่อไปอีกว่า "แล้วหลวงปู่ทำยังไง, มันไม่ทำอันตรายหรือ?"
ท่านตอบว่า "ตามธรรมดา พวกสัตว์เดรัจฉานนั้น ย่อมมีความกลัวมนุษย์ มันจะตกใจแล้วรีบหลบหนีไปเมื่อได้พบเห็นมนุษย์"

ถามอีกว่า "แล้วช้างละ หลวงปู่เคยเห็นช้างไหม ?"
ตอบว่า "เคยเห็น"

ถามอีกว่า "แล้วหลวงปู่ทำยังไง ?"
ตอบว่า "เมื่อเห็นทีท่าว่ามันจะมาทำอันตรายเรา ก็พยายามหลีกหนี ถ้าจำเป็นก็ขึ้นต้นไม้ใหญ่ๆ สัตว์เหล่านั้นก็จะผ่านพ้นไปตามทางของมัน แต่ถ้าเราไม่เห็นมัน และช้างนั้นกำลังตกมัน หรือสัตว์อื่นที่เป็นบ้า มันก็จะเอาความบ้ามาทำอันตรายเราได้ ถ้าสัตว์นั้นเป็นปกติธรรมดาแล้ว มันก็ย่อมกลัวเราเช่นกัน ย่อมจะไปตามเรื่องของมัน จะไม่มีการเบียดเบียนกันเลย"

เกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ หลวงปู่มักจะพูดแบบนี้ทุกครั้ง ไม่เคยเลยที่หลวงปู่จะพูดเป็นทำนองว่า เสือมันกำลังย่องเข้ามาหาอาตมา อาตมาก็กำหนดจิตแผ่เมตตาให้มัน พร้อมกับพิจารณาว่า "มีหวังตายแน่" แล้วสัตว์นั้นๆ ก็ไม่สามารถมาทำอันตรายอาตมาได้เลย อย่างนั้นอย่างนี้…

คำพูดในทำนองแสดงฤทธิ์อำนาจ หรือเป็นเรื่องอัศจรรย์นั้น ไม่เคยได้ยินท่านพูดเลยแม้แต่ครั้งเดียว

หน้าต่อไป