ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๕๕. จิตเสมอกัน

ต่อเนื่องกับเรื่อง ผู้พิชิตงูจงอาง หลวงปู่ก็ให้การอบรมสั่งสอนเด็กชายซอมต่อไปว่า

"สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง เมื่อมีสภาวะแห่งจิตเสมอกัน ย่อมไม่กระทำอันตรายแก่กันและกัน และอาจสื่อสารสนทนากันได้ สามารถเข้าอกเข้าใจกันได้"

ยกตัวอย่างเช่น สัตว์ที่ตกอยู่ในสภาวะแห่งความกลัวต่อสิ่งเดียวกัน ก็สามารถวิ่งหนีภัยไปด้วยกัน หรือไปชุมนุมอยู่ในที่แห่งเดียวกัน เมื่อเผชิญกับน้ำป่าหรือไฟป่า เป็นต้น

บางครั้งเราจะเห็นเสือเดินผ่านฝูงสัตว์ต่างๆ ไปอย่างปกติธรรมดาและสัตว์เหล่านั้น เมื่อเหลือบเห็นเสือก็มิได้แตกตื่นหนี เพราะมันรู้ว่า เสือได้อาหารอิ่มท้องสบายใจแล้ว

สัตว์เดรัจฉานเหล่านี้ จะมีจิตกำเริบเป็นอันตรายต่อกันและกัน ก็ต่อเมื่อมีความหิวโหยและปรารถนาความอยู่รอดแก่ตน แย่งชิงถิ่นที่อยู่และเกิดคลุ้มคลั่งในสมัยฤดูกาลสืบพันธุ์เท่านั้น

มนุษย์ต่างหากที่มีความดุร้าย เป็นอันตรายต่อกันและกันได้มากกว่า

การอยู่ในป่า จึงนับว่าสามารถหลบหลีกอันตราย ซึ่งเป็นไปอย่างเปิดเผยได้ง่ายกว่าการอยู่ในบ้านในเมือง เพราะในสังคมมนุษย์นั้น นอกจากจะมีการมุ่งร้ายหมายขวัญกันอย่างเปิดเผยแล้ว การประทุษร้ายกันอย่างลับๆ ก็ยังเป็นไปอยู่ตลอดเวลา ด้วยวิธีการสารพัดวิธี

อนึ่ง หลวงปู่เคยสั่งสอนพระเณรว่า เมื่ออยู่ในป่าและประจันหน้ากับงูจงอาง งูตกใจแล่นไล่จะทำอันตรายแก่เรา อย่าได้วิ่งหนีตรงๆ ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ให้วิ่งหลบหักซ้ายบ้างขวาบ้าง งูจะเข้าถึงตัวได้ช้า หรือไม่ก็จะเลิกความมุ่งร้ายไปในที่สุด

เมื่อมันยังไล่ตามอยู่ ให้แก้ไขโดยเอาสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่นผ้าขาวม้าหรืออะไรก็ตาม โยนทิ้งไว้ข้างหลัง มันจะพุ่งเข้าฉกพัวพันอยู่กับของสิ่งนั้น เลิกล้มการไล่ติดตามเราอย่างสิ้นเชิง ก็จะทำให้รอดพ้นอันตรายไปได้

หน้าต่อไป