ตามธรรมเนียมถือปฏิบัติในการเดินธุดงค์กัมมัฏฐานนั้น
เมื่อเดินไปเรื่อยๆ
จนถึงหมู่บ้านหนึ่ง
ในระยะเวลาบ่ายมากแล้ว
ถ้าขืนเดินทางต่อไปจะต้องค่ำมืดกลางทางแน่
พระธุดงค์ก็จะกำหนดเอาหมู่บ้านที่มาถึงในเวลาบ่ายมากนั้นเป็นที่เที่ยวภิกขาจารหาอาหารในเช้าวันรุ่งขึ้น
ครั้นได้ระยะห่างจากหมู่บ้านประมาณ
๕๐๐ ช่วงคันธนู หรือประมาณ
๑ กิโลเมตร
ตามที่พระวินัยกำหนดแล้ว
ก็จะแสวงหาร่มไม้หรือสถานที่สมควรปักกลด
กำหนดเป็นที่พำนักภาวนาในคืนนั้น
พอรุ่งเช้า
ก็จะย้อนเข้าในหมู่บ้านเพื่อบิณฑบาต
ชาวบ้านที่รู้ข่าวตั้งแต่เมื่อวาน
ก็นำอาหารมาใส่บาตรตามกำลังศรัทธา
และกำลังความสามารถ
ครั้นกลับถึงที่พักปักกลด
ก็ทำการพิจารณาฉันภัตตาหาร
เสร็จแล้วจึงเดินทางต่อไป
ยกเว้นแต่จะกำหนดสถานที่นั้นพักภาวนามากกว่า
๑ คืน ก็จะอยู่บำเพ็ญภาวนา
ณ สถานที่แห่งนั้นต่อไป
ชาวบ้านที่สนใจ
ก็อาจจะติดตามมาฟังพระธรรมเทศนา
และแนวทางปฏิบัติในตอนค่ำบ้าง
ในตอนเช้าหลังการบิณฑบาตบ้าง
เมื่อเป็นเช่นนี้
พระธุดงค์ก็จะถามชาวบ้านถึงเส้นทางที่จะเดินทางต่อไป
เพื่อจะได้สามารถกำหนดเส้นทางและกำหนดหมู่บ้านอันเป็นที่สมควรแก่การเที่ยวภิกขาจารในวันต่อๆ
ไปได้
เป็นการเดินธุดงค์ไปตามเส้นทางธรรมดาของพระธุดงค์แท้พระธุดงค์จริงตามแบบอย่างที่
พระอาจารย์ใหญ่มั่น
ภูริทตฺโต และบรรดาสานุศิษย์ได้ถือปฏิบัติกันมา
สำหรับการ ปักกลด นั้น
ในทางปฏิบัติก็ต้องเอามุ้งกลดแขวนไว้กับเส้นเชือกที่ผูกตรึงกับต้นไม้
ไม่ใช่ปักไว้กับพื้นดิน
เพราะการขุดดินหรือทำให้ดินเสียปรกติสภาพของมันไปเป็น
การอาบัติโทษ
อย่างหนึ่ง
ข้อปฏิบัติที่ถือเป็นธรรมเนียมประการต่อไป
คือจะไปเที่ยวปักกลดในหมู่บ้าน
ในสถานที่ราชการ
ใกล้เส้นทางคมนาคม เช่น
ริมถนน
ริมทางรถไฟหรือที่มีคนพลุกพล่านผ่านไปมา
อย่างนั้นไม่สมควร
สถานที่พำนักปักกลดควรเป็นที่สงบวิเวก
เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียร
เช่นในป่า ภูเขา ถ้ำ โคนไม้
เรือนร้าง หรือป่าช้า
เป็นต้น
ถ้ามีพระ เณร
หรือฆราวาสที่ร่วมเดินทางด้วย
แต่ละคนก็แยกกันไปปักกลดห่างกันพอสมควร
เพื่อไม่ให้การปฏิบัติภาวนามีการรบกวนกัน
ไม่ใช่ปักกลดอยู่เป็นกลุ่มใกล้ชิดติดกัน
อย่างไรก็ดี
การเดินธุดงค์ตามแบบดังกล่าว
ถือเป็นธรรมเนียมหรือแบบฉบับที่ครูบาอาจารย์สายกัมมัฏฐานอบรมสั่งสอน
และพากันปฏิบัติสืบต่อกันมา
ในยุคหลังๆ
ในสมัยปัจจุบัน
จะเห็นการเดินธุดงค์ไปเป็นคณะใหญ่ๆ
มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ญาติโยมทราบ
และเชิญชวนมาร่วมทำบุญ
ตลอดถึงการนั่งรถไฟ
รถทัวร์ ไปธุดงค์ก็มี
ที่ทันสมัยกว่านั้นก็จัดธุดงค์เป็นคณะขึ้นเครื่องบินไปธุดงค์ที่ต่างประเทศ
เช่น ฮ่องกง โตเกียว ปารีส
ออสเตรเลีย หรือดิสนีย์แลนด์
เป็นต้น
จัดเป็นการประยุกต์หรือวิวัฒนาการของการธุดงค์ไปตามยุคสมัย
หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ