ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๕๗. หลงป่า-อดอาหาร

ในช่วงที่หลวงปู่ดูลย์ ยังไม่ได้พำนักประจำที่วัดบูรพารามนั้น ในระหว่างที่อยู่สุรินทร์ท่านนิยมพาลูกศิษย์ลูกหาเดินธุดงค์ท่องเที่ยวไปในป่าดงดิบแถบชายแดนกัมพูชา ในบริเวณเขตต่อเนื่องกับจังหวัดสุรินทร์ และศรีสะเกษถือเป็นที่เหมาะแก่การหลีกเร้นจากหมู่คณะตามแบบอย่างของพระธุดงค์

ในป่าแถบนี้ มีผู้อาศัยอยู่น้อย จึงลำบากต่อการแสวงหาอาหารบิณฑบาต กว่าจะไปพบหย่อมบ้านแต่ละแห่ง แห่งละหลังสองหลัง ต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวัน สองวัน หรือมากกว่านั้น

การอดอาหารของหลวงปู่และลูกศิษย์จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งต้องอดติดต่อกันหลายวันก็มี

แต่ ไม่เคยได้ยินหลวงปู่พูด หรือเล่าว่าได้อาศัยพวก อทิสสมานกาย หรือพวกที่รูปกายไม่ปรากฏ เช่น เทพเทวดา หรือภูตผีปีศาจต่างๆ เอาอาหารมาถวาย อะไรทำนองนี้

ท่านบอกแต่เพียงว่า "ก็อดทนไปในระยะสองสามวัน ร่างกายยังไม่เดือดร้อน" หรือไม่ก็พูดว่า "ดื่มแต่น้ำก็สามารถอยู่ได้ เดินทางต่อไปได้" อย่างนี้เท่านั้น

ท่านหลวงตาซอม เล่าว่า ครั้งหนึ่ง ไปกับหลวงปู่ เกิดหลงทางในป่าอดอาหารเสียแทบแย่ ตกกลางคืนก็ต้องนอนค้างอ้างแรมกันกลางป่า ทั้งหิวทั้งกลัว

ส่วนหลวงปู่นั้น นอกจากท่าทางที่ดูอิดโรยเล็กน้อยแล้ว ท่านก็ยังเป็นปกติเฉยอยู่

พอรุ่งเช้า ในขณะที่เด็กชายซอมรู้สึกหมดอาลัยตายอยากแล้ว คิดว่าในวันนั้นจะต้องอดข้าวต่อไปอีกเป็นแน่ เพราะไม่มีวี่แววจะมีผู้คนหรือหมู่บ้านแถวนั้นเลย ผลหมากรากไม้ที่เด็กชายอย่างท่านจะกินกันตายก็ไม่มี

ทันใดนั้น ดูหลวงปู่มีท่าทางกระปรี้กระเปร่า บอกว่า "ไม่ต้องกลัวอดแล้ว ได้ข้าวกินแน่วันนี้"

เด็กชายซอมไม่เชื่อหูตัวเองว่าหลวงปู่จะพูดอย่างนั้นจริง จนหลวงปู่ต้องย้ำอีกที จึงค่อยรู้สึกว่ามีความหวังขึ้น ค่อยมีกำลังเดินตามหลวงปู่ต่อไป

หลวงปู่เดินนำลิ่ว บุกป่าดงออกไปอีกด้านหนึ่งอย่างไม่รั้งรอ เด็กชายซอมเร่งฝีเท้าติดตามหลวงปู่อย่างไม่ลดละ แต่รู้สึกว่ายิ่งบุกป่าไปนานเท่าไรก็ยังเป็นป่าทึบเหมือนเดิม จึงลงความเห็นให้กับตนเองว่า "หลวงปู่คงจะพูดให้กำลังใจ เพื่อจะได้มีแรงเดินนั่นเอง"

คิดดังนี้แล้ว ก็เป็นอันว่าแข้งขาไม่มีแรงเดิน แทบจะล้มพับลงไป แต่ก็ต้องพยายามแข็งใจ ลากขาตามหลวงปู่ไปแบบหมดอาลัยตายอยาก

หลังจากนั้นไม่นานนัก หลวงปู่ก็เดินนำลิ่วไปอย่างรวดเร็ว ก้าวพรวดพ้นดงทึบออกไปยืนนิ่งอยู่ เด็กชายซอมชักสงสัย รีบเร่งฝีเท้ากระโจนออกไปยืนข้างๆ หลวงปู่

แทบไม่เชื่อสายตาตนเอง ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้านั้น หลวงตาซอมเล่าว่า, "เป็นภาพกระท่อมน้อย มุงหญ้าเก่าคร่ำคร่า แต่มีความสวยงามที่สุดสง่ายิ่งกว่าปราสาทราชวังเสียอีก"

ครั้นได้ข้าวได้น้ำเป็นที่สำราญพอสมควรแล้ว จิตของเด็กชายซอมก็เริ่มถูกส่งออกนอกตามความเคยชิน สงสัยเสียจริงๆ ว่า หลวงปู่รู้ได้อย่างไรว่ามีบ้านอยู่ตรงนี้ จึงได้มั่นใจว่าวันนี้มีข้าวกินแน่ และนำลิ่วมาถูกทางเสียด้วย

เมื่อทนอัดอั้นอยู่ไม่ไหว จึงเรียนถามท่าน

หลวงปู่บอกว่า ท่านเดินป่ามามาก ก็มีประสบการณ์ รู้จักสังเกตสังกาและอนุมานเอาได้ ขอให้พยายามฝึกฝนต่อไป บ่มนิสัยตนเองให้รู้จักสังเกตมากขึ้นก็จะรู้ได้เอง

จึงเป็นอันว่า หลวงตาซอมได้คำตอบจากหลวงปู่มาเพียงเท่านี้

หน้าต่อไป