เคยกล่าวถึงตอนต้นแล้วว่า
หลวงปู่ไม่มีมารยา คือ ท่านไม่ชอบแสดง
อย่างที่เคยยกตัวอย่างว่า
ถ้าเราขอถ่ายรูปท่าน
ขอให้ท่านห่มผ้าให้เรียบร้อย
แล้วขอให้ท่านนั่งถ่ายรูป
ท่านจะไม่ทำ
แต่จะขอถ่ายรูปท่านได้ในจังหวะที่ท่านห่มเรียบร้อยแล้ว
ลงโบสถ์ ลงบวชนาค
หรือทำอะไรตามปกติ
แล้วขอถ่ายรูปท่านในจังหวะนั้นๆ
ได้
ท่านจะอนุญาตให้ตามประสงค์
แต่ถ้าขอให้ท่านลุกขึ้น
หรือเตรียมท่าสำหรับถ่ายรูปโดยเฉพาะ
ที่เรียกว่า "แอ๊คท่า" นั้น
ท่านไม่ทำ
หมายความว่าหลวงปู่ท่านไม่ทำแบบ
"แสดง" คือไม่มีการ "แอ๊คท่า"
ที่เป็นการแสดง
หรือการเสแสร้งเช่นนั้น
ท่านไม่ทำ
มีปฏิปทาอย่างหนึ่งนะอาจารย์
อยากจะเจริญพรให้ทราบ คือ หลวงปู่ท่านไม่มีมารยา
อันนี้ถือเป็นกิเลสชนิดละเอียด
สิ่งนี้ท่านละได้
สิ่งนี้มันเป็นสิ่งแปลก
คือท่านไม่มีมารยา ไม่แอ๊คท่าแอ๊คทาง
เรื่องนี้จะเห็นว่าพระเถระบางท่าน
หรือคนบางคน
ถ้าไปนั่งในที่ชุมนุมหรืออะไรก็ตามจะเลือกท่านั่งให้ดูโก้
มีสง่า ดูภูมิฐาน
ลูกศิษย์ลูกหาจะช่วยจัดให้ใช่ไหม?
หรืออย่างสมมติว่า
ถ้าเราจะนั่งสามล้อกับเด็ก
อย่างอาตมาถนัดนั่งด้านขวาอย่างเดียว
นั่งด้านซ้ายไม่ได้เพราะไม่ถนัด
บางองค์บางท่านก็เป็นเหมือนกัน
ส่วนหลวงปู่นั้น
จะไม่มีทางซ้ายหรือทางขวา
แล้วแต่จังหวะจะมาถึง
หรือสมมติภายหลังการสวดมนต์
โยมก็จัดเก้าอี้ถวายท่านเรียบร้อย
แล้วนิมนต์ท่านนั่ง
ขอนิมนต์ให้ท่านนั่งฉันบนเก้าอี้
บางองค์จะต้องเลือกว่าต้องนั่งมุมโน้นมุมนี้
หันไปทางโน้นจึงจะดูสง่าดูดี
อะไรทำนองนี้ สิ่งเหล่านี้หลวงปู่ท่านไม่มีเหลืออยู่เลย
แม้แต่การทักทายปราศรัยด้วยการกล่าววาจาที่เป็นกิจจะลักษณะ
ต้องแอ๊คท่า วางท่า
หรือพูดโอ๋เอาใจ
อะไรเหล่านี้ท่านไม่ทำ
ท่านอยู่ท่านทำเป็นปกติ
สังเกตได้ว่าท่านไม่มีการแสดง
หรือไม่แอ๊คท่า ไม่โชว์
ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนุ่งห่มที่ดีงาม
ซึ่งอาจจะได้รับถวายผ้าพิเศษมา
เจ้าภาพขอให้ห่มให้ลองทาบตัวเพื่อให้เจ้าของเขาดูหน่อย
แม้แต่ทำเอง
ท่านก็ไม่เคยทำ ไม่เคยคิด
หลวงปู่จะใช้สิ่งของต่างๆ
ที่ใช้ประจำ
จนกว่าสิ่งนั้นจะใช้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว
จึงจะเปลี่ยนใหม่