ครั้นเมื่อหลวงปู่มีอายุย่างเข้าปีที่
๙๑ แล้ว ศิษยานุศิษย์ทั้งหลายมีความภาคภูมิใจ
และปลาบปลื้มยินดีเป็นล้นพ้น
ที่เห็นหลวงปู่ยังมีสุขภาพแข็งแรง
มีพลานามัยดี
ในระหว่างวันที่ ๑๙-๒๒
มกราคม ๒๕๒๑ นั้นเอง
หลวงปู่ได้เดินทางไปร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพท่าน
พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
ที่วัดป่าอุดมสมพร
จังหวัดสกลนคร
และได้เข้าร่วมในพิธีสวดพระพุทธมนต์
ชักผ้ามหาบังสุกุลหน้าศพ
และรับพระราชทานฉันภัตตาหารในพระราชพิธีสามหาบอีกด้วย
ท่ามกลางพระสงฆ์ฝ่ายอรัญวาสีนับจำนวนเป็นพันๆ
รูป
และสาธุชนพุทธบริษัทจากทั่วทุกสารทิศนับเป็นจำนวนแสนๆ
เป็นประวัติการณ์ของประเทศไทย
และของวงการพระพุทธศาสนาทีเดียว
ในงานนี้
หลวงปู่ได้มีโอกาสสนทนาวิสาสะกับพระเถระฝ่ายธุดงค์กัมมัฏฐานหลายองค์
เป็นต้นว่า ท่านพระอาจารย์อ่อน
ญาณสิริ ท่านพระอาจารย์เทสก์
เทสรังสี
และครูบาอาจารย์องค์อื่นๆ
อีกมากมายหลายรูป
ทั้งที่รู้จักคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย
เป็นการย้อนถึงบรรยากาศเก่าๆ
เมื่อครั้งยังหาญกล้าบุกป่าฝ่าดงเพื่อผจญจิตตน
ฝึกฝนให้พ้นภัยในวัฏสงสาร
เป็นการสนทนาถึงอดีตแห่งการเดินธุดงค์
อันยังให้เกิดความอาจหาญร่าเริงในทางธรรมเป็นอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะสำหรับเหล่าภิกษุผู้อนุชนรุ่นหลังๆ
ที่เงี่ยหูฟังอยู่ก็ให้เกิดพลุ่งพล่าน
ฮึกเหิมในอันที่จะเจริญรอยตามบูรพคณาจารย์ทั้งหลายเหล่านั้น
เมื่อมีผู้ไต่ถามถึงพระอาจารย์ชื่อดังๆ
เช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโน
หลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นต้น
หลวงปู่ตอบว่า
"เคยได้ยินชื่อมาแต่ต้นเหมือนกัน
แต่ลำดับความจำไม่ได้ว่าเคยร่วมสนทนาหรือปฏิบัติธรรมร่วมกันในช่วงไหนบ้าง
เพราะท่านอาจารย์เหล่านี้
แม้จะมีอายุไล่เลี่ยกับท่านก็จริง
แต่ก็เข้ามาเป็นศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่นในรุ่นหลังๆ"
นอกจากนี้หลวงปู่ยังได้ปรารภถึงตัวท่านเองว่า
"การมาสกลนครครั้งนี้
เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว"