เหตุการณ์ที่ถูกบันทึกไว้เป็นเกียรติประวัติของวัดบูรพาราม
จังหวัดสุรินทร์
และของหลวงปู่ในที่นี้ก็คือ
เมื่อวันที่ ๑๘
เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๒
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
พร้อมด้วยพระราชโอรสพระราชธิดาสองพระองค์
พระราชสุนิสา
และพระเจ้าหลานเธอ รวม ๗
พระองค์ ได้เสด็จมาที่วัด
ในเวลา ๑๘.๔๐ - ๑๙.๓๐ น.
หลังจากตรัสถามถึงสุขภาพพลานามัยของหลวงปู่แล้ว
ทรงอาราธนาให้หลวงปู่แสดงพระธรรมเทศนา
และทรงอัดเทปไว้ด้วย
เมื่อหลวงปู่แสดงพระธรรมเทศนาย่อๆ
ถวายจบแล้ว
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ตรัสถามหลวงปู่ว่า
"หลวงปู่
การที่จะละกิเลสให้ได้นั้น
ควรจะละกิเลสอะไรก่อน"
หลวงปู่ถวายวิสัชนาว่า
"กิเลสทั้งหมดเกิดรวมอยู่ที่จิต
ให้เพ่งมองดูที่จิต
อันไหนเกิดก่อน
ให้ละอันนั้นก่อน"
ครั้นทรงมีพระราชปุจฉาในธรรมข้ออื่นๆ
พอสมควรแก่เวลาแล้ว
ทรงถวายจตุปัจจัยแก่หลวงปู่
เมื่อเสด็จกลับ
ทรงมีพระราชดำรัสคำสุดท้ายว่า
"ขออาราธนาหลวงปู่ให้ดำรงขันธ์อยู่ให้นานต่อไปอีกเกินร้อยปี
เพื่อเป็นที่เคารพนับถือของปวงชนทั่วไป
หลวงปู่จะรับได้ไหม"
ทั้งๆ
ที่พระราชดำรัสนี้เป็นสัมมาวจีกรรม
ทรงประทานพรแก่หลวงปู่
โดยพระราชอัธยาศัย
หลวงปู่ก็ไม่กล้ารับ
และไม่อาจฝืนสังขาร
จึงถวายพระพรว่า
"อาตมภาพรับไม่ได้หรอก
แล้วแต่สังขารเขาจะเป็นไปของเขาเอง
จะอยู่ได้นานอีกเท่าไรไม่ทราบ"
ต่อจากนั้นทุกพระองค์ก็เสด็จกลับ
แต่ในการเสด็จพระราชดำเนินกลับนั้น
ทรงได้รับความลำบากพอสมควร
เนื่องจากประชาชนได้ไปเฝ้าชื่นชมพระบารมีกันอย่างเนืองแน่น