ประวัติและปฏิปทา

หน้าแรก ประวัติและปฏิปทา ธรรมและคำสอน รูปภาพ

โอ้ โพธิ์พฤกษ์เย็น คุณะเด่นเกษมสรรพ์ บัดนี้ พระดับขันธ์ ดุจะ โพธิหักลาญ

๑๑๖. เดินทางกลับวัด

วันที่ ๒๒ มีนาคม ๒๕๒๖ เวลา ๐๘.๑๘ น. หลวงปู่ก็ได้อำลาคณะแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ผู้ถวายการรักษา แล้วออกจากโรงพยาบาล เพื่อเดินทางกลับไปยังวัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 

คณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ตลอดจนท่านผู้มีเกียรติ ศิษยานุศิษย์ และท่านที่เคารพนับถือทั่วไป ได้พร้อมเพรียงกันมาส่งหลวงปู่ที่หน้าโรงพยาบาลกันอย่างล้นหลาม 

ฯพณฯ ดร.เชาว์ ณ ศีลวันต์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มาส่งหลวงปู่และกราบเรียนหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ จะมีถ้อยคำอะไรถึงในหลวง กระผมจะนำไปกราบทูลถวายในหลวงให้ทรงทราบ" 

หลวงปู่ตอบว่า "ขอบคุณมาก" 

ขบวนรถจากพระราชสำนัก รถโรงพยาบาล และรถส่วนตัวของลูกศิษย์ลูกหา และท่านที่เคารพศรัทธาในหลวงปู่ ได้ติดตามส่งเรียงรายเป็นแถวยาวเหยียด โดยมีรถตำรวจทางหลวงนำหน้า และปิดท้ายขบวนไปตลอดทาง 

บางท่านได้มาส่งถึงกับหลั่งน้ำตารำพันว่า "ไม่อยากให้หลวงปู่หายเร็วๆ เลย อยากให้อยู่โรงพยาบาลนานๆ จะได้มาทำบุญถวายทานเป็นประจำ" 

ตลอดการเดินทางหลวงปู่อยู่ในอิริยาบถนอนสงบเงียบราวกับหลับสนิท พอมีใครกระซิบถามว่าหลวงปู่รู้ไหมว่าขณะนี้ถึงไหนแล้ว หลวงปู่ก็ตอบได้ถูกต้องว่าถึงที่นั่นๆ แล้ว โดยไม่ต้องลืมตาขึ้นดู 

ขบวนรถมาส่งหลวงปู่ เดินทางถึงวัดบูรพาราม เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. ได้มีลูกศิษย์ลูกหา และญาติโยมพุทธบริษัทมารอรับหลวงปู่อย่างมากมาย 

เป็นอันว่าการที่ได้ตัดสินใจนำหลวงปู่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ครั้งนี้ ก็ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าปลื้มใจจากทุกฝ่าย กล่าวคือ หลวงปู่ท่านหายจากอาพาธหนัก ยังมีอาการอยู่บ้างก็เป็นโรคของคนวัยชรา ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับบุคคลที่มีอายุวัยล่วงมาถึง ๙๕ ปีเหมือนกับหลวงปู่ 

ในโอกาสนี้ คณะสงฆ์นำโดยพระเถรานุเถระ ตลอดจนญาติโยมพุทธบริษัทชาวจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกันทำบุญประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายกุศลเพื่อแสดงกตเวทิตาคุณแก่หลวงปู่ 

ตอนเช้าร่วมกันทำบุญตักบาตรถวายกุศลแด่หลวงปู่ เพื่อจะได้เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ เพื่ออยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานไปอีกนานเท่านาน 

ทุกคนต่างรู้สึกปลื้มปีติที่หลวงปู่หายจากการอาพาธ และกลับมาอยู่ที่วัดบูรพาราม เพื่อเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาในทางพุทธศาสนาของเหล่าสานุศิษย์อีกต่อไป

หน้าต่อไป